วันที่ 2 ก.พ. 65 อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการถูกทำร้ายร่างกาย บริเวณปากซอยพุทธบูชา 37 จึงรีบรุดจัดกำลังอาสาสมัครไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 คน อยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยพุทธบูชา 37 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร
ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ นายจิตวัต อายุ 15 ปี มีอาการหัวปูดโน ใบหน้ามีบาดแผล จากการถูกตีด้วยของแข็ง มีบาดแผลบริเวณโหนกแก้มอย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บรายที่ 2 ชื่อนายพรรศสรณ์ พิชรเรือง อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกบริเวณหัวคิ้วด้านขวา มีร่องรอยของการถูกทุบตี บริเวณร่างกายด้วยของแข็งหลายแห่ง อาสาสมัครจึงเร่งให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลประชาพัฒน์ ตามสิทธิการรักษา
นางหมวย ภรรยาของนายพรรศสรณ์ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย บอกว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนและสามีรวมถึงลูกชาย และเพื่อนของลูกชายประมาณ 5-6 คน กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่บริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถมอเตอร์ไซค์มามากกว่า 10 คัน ซึ่งมาเจรจากัน ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีปัญหาอะไรกัน เพราะมองว่าเป็นเรื่องของเด็ก
ขณะนั้นจะมีการทะเลาะวิวาทกัน ตนจึงเข้าไปห้าม บอกว่าให้คุยกันดี ๆ อย่าต้องใช้กำลังกันเลย ด้านของผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟัง ท้าทายแล้วพูดว่า "มึงจะเอาปะหละ" จากนั้นก็มีการตะลุมบอนกัน เหตุการณ์ค่อนข้างชุลมุนต่างคนต่างวิ่งหนีกระเจิง เพราะกลุ่มลูกชายตนไม่มีอาวุธ
จนกระทั่งสามีของตนได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะปูด ส่วนนายจิตวัต หรือ เอิร์ท มีบาดแผลบริเวณใบหน้า และบริเวณศีรษะ ซึ่งขณะนี้นายพรรศสรณ์ อยู่ในอาการอ่อนเพลีย จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 และมีอาการไข้ขึ้น ส่วนเรื่องปมสาเหตุ ตนยังไม่ได้คุยกับลูกชาย ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ และรอเจรจากับคู่กรณีอีกครั้ง ก่อนที่จะเข้าแจ้งความ
นายแบงค์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี คู่กรณี เปิดใจว่า ช่วงเย็นวันนี้หลานของตนถูกกลุ่มของผู้บาดเจ็บชักมีดไล่ฟัน บริเวณซอยพุทธบูชา 37 จึงมาบอกตน ตนก็รู้จักกับผู้บาดเจ็บ เลยมองว่าทำไมถึงมาทำหลานตน ทั้งที่รู้จักกัน ตนจึงพาเพื่อนไปเคลียร์ที่บริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่านายพรรศสรณ์ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นพ่อก็อยู่ด้วย ตนพูดคุยกับนายพรรศสรณ์ดีมาก โดยบอกว่ากลุ่มลูกชายของตนทำผิด อยากให้เคลียร์ใจและขอโทษ เรื่องจะได้จบ
แต่ทางด้านของนายพรรศสรณ์ไม่ยอมรับผิด และเข้าข้างลูกตัวเอง ซ้ำยังพูดแทงใจดำเรื่องพ่อของตนที่เพิ่งเสียชีวิตไปแล้วว่า "มึงอยากตายเหมือนพ่อมึงหรอ" ตนก็โมโหตอบกลับไปว่า "พ่อกูไปอยู่คนละภพภูมิแล้ว เหลือแต่มึงกับกูเนี่ย จะเอายังไง" หลังจากนั้นก็ตะลุมบอนกัน ซึ่งฝ่ายผู้บาดเจ็บก็มีอาวุธครบมือเหมือนกัน
ภายหลังที่จบเรื่อง พ่อแม่ตนได้พูดคุยกับนายพรรศสรณ์ ผู้บาดเจ็บ เพื่อให้จบเรื่อง ด้านผู้ใหญ่ก็จบกันด้วยดี แต่ลูกไม่จบ ไปหาพรรคพวกจากที่อื่น มารุมปาระเบิดขวดน้ำมัน จุดไฟเผาหน้าบ้านของตน โดยก่อนหน้านี้ลูกชายของนายพรรศสรณ์ก็เป็นเพื่อนกับตนสมัยเรียน เคยมากินนอนที่บ้านของตน แต่ทำแบบนี้ไม่ไว้หน้าแม่ของตนเลย ทำให้ล่าสุดแม่ของตนเข้าแจ้งความแล้ว และไม่กลัวเรื่องการแจ้งความกลับ มองว่าสาเหตุที่ผู้บาดเจ็บไม่แจ้งความ เพราะรู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองผิด และอยากให้สังคมเข้าใจใหม่ว่าตนคือผู้ถูกกระทำ
ภาพกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่ผู้บาดเจ็บ รวมกลุ่มบุกไปเขวี้ยงปาระเบิดไฟบ้านของคู่กรณี ความยาวคลิป 3 นาที จับภาพกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บาดเจ็บวิ่งกรูไปมาบริเวณหน้าบ้านของคู่กรณี สังเกตบริเวณหน้าปากซอยมีกลุ่มวัยรุ่นวิ่งไปมา
