จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 62 พ่อและแม่ของ ด.ญ. อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดชัยนาท เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังคดีที่ลูกสาวถูกนายบอล อายุ 40 ปี ครูสอนวิชาพละของโรงเรียน ข่มขืนตั้งแต่เดือน ต.ค. 61 แล้วคดีไม่คืบหน้า (อ่าน :
แม่เด็กร้องครูพละข่มขืนลูก 2 ครั้งไม่คืบ แฉหว่านล้อมขอจบ ให้ช่วยโกหกตร. ปมคราบอสุจิ)
ล่าสุด วันที่ 4 ม.ค. 62
พ.ต.อ.เชษชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.วัดสิงห์ เปิดเผยว่า ในส่วนของเรื่องคดีแรก วันที่ 26 ก.ย. 61 เจ้าหน้าที่ได้ส่งฟ้องศาลไปเรียบร้อยแล้ว ครูพละปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่โรงพยาบาลยืนยันว่าอวัยวะเพศของเด็กผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว อยู่ระหว่างรอศาลตัดสิน ส่วนคดีที่สอง วันที่ 28 ต.ค. 61 เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์ที่ชัดเจน จึงจะสามารถส่งฟ้องได้ ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ประวิงเวลา
ขณะที่
แม่ของเด็กหญิง อายุ 12 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อติดตามผลการตรวจร่างกายของลูกสาว ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุ ตนได้ไปแจ้งแก่รองผู้อำนวยการโรงเรียน และนายกเทศมนตรีแล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ ซึ่งครั้งแรกที่เกิดเหตุเป็นช่วงปิดเทอม กระทั่งเปิดเทอม ตนก็ไม่กล้าให้ลูกไปโรงเรียน แต่ก็กังวลว่าลูกอาจจะเสียการเรียน จึงยอมให้ลูกกลับไปเรียนตามเดิม หลังจากที่ลูกไปเรียนได้เพียงแค่ 3 วัน ก็เกิดเหตุครั้งที่ 2 ขึ้น ตนจึงรู้สึกว่าครูพละท่านนี้ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ลูกสาวบอกตนว่า ขณะเกิดเหตุพยายามขัดขืนแล้ว แต่สู้แรงของครูไม่ได้
ด้าน
นายปิยะ ทองวัฒนา นายกเทศมนตรีตำบลวัดสิงห์ เปิดเผยว่า เทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ และล่าสุดจากการตรวจสอบ พบว่าครูพละท่านดังกล่าวมีมูลกระทำความผิดจริง จึงมีการตั้งคณะกรรมสอบสวนทางวินัยเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่
ครูอั้ม (นามสมมติ) คนรู้จักครูบอล ครูสอนวิชาพละ เปิดเผยว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนเคยได้ยินข่าวว่ามีครูลวนลามนักเรียน โดยจับหน้าอก ลักษณะนักเรียนถูกลวนลาม กระทั่งวันหนึ่ง เด็กคนดังกล่าวโพสต์ข้อความแปลก ๆ ในเฟซบุ๊ก ทำนองว่ามีปัญหา ตนจึงได้เข้าไปถาม ซึ่งเด็กยอมรับว่าถูกครูบอลลวนลาม โดยการจับและขยำหน้าอก ขณะนั้นตนจึงให้คำแนะนำกับนักเรียนไปว่า ให้อยู่ห่าง ๆ ครูบอล เมื่อถึงเวลาซ้อมกีฬาก็ซ้อมไป เมื่อซ้อมเสร็จก็กลับบ้าน หลังจากวันนั้นเด็กก็เริ่มออกห่างจากครูบอล และไปศึกษาต่อที่โรงเรียนอื่น โดยนักเรียนคนดังกล่าวบอกกับตนอีกว่า หลังจากออกไปแล้วพบว่า ครูบอลยังคงตามไปกดไลก์หรือคอมเมนต์ข้อความ คล้ายกับการแสดงตัวว่ายังมีตัวตนอยู่ ซึ่งในเวลาปกติแล้ว ครูบอลนิสัยดีมาก เป็นครูที่มีเสน่ห์ ตนไม่คิดว่าจะมีพฤติกรรมแบบนี้
นอกจากนี้ เพื่อนบ้านอดีตภรรยาของครูบอล ให้ข้อมูลว่า ครูบอลมีภรรยาหลายคน ซึ่งภรรยาที่อยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวเคยมาบ่นให้ฟังว่า ครูบอลเป็นคนเจ้าชู้ และชอบดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อเมาก็จะมักจะขับรถเข้ามาในหมู่บ้านด้วยความเร็ว ส่วนเรื่องที่ครูบอลไปทำอนาจารเด็กนั้นตนไม่ทราบ