ตร.เก๊โป๊ะแตก ย่องลักของโกดังครึ่งล้าน เจ้าตัวแจงภาพว่อนแค่ชุดอาสาปัดไถเงิน (คลิป)

กรณีเพจ "แตก" ได้ลงเรื่องราวว่า ชาวบ้านบึงกาฬ สุดทนหนุ่มใหญ่กลางวันแต่งกายคล้ายตำรวจ ออกตรวจฉี่รีดไถเงิน กลางคืนแอบย่องขโมยของในโรงงาน ขโมยของไปแล้วนับล้านบาท ผู้เสียหายเข้าแจ้งตำรวจแล้ว แต่ตำรวจจับไปแล้วก็ปล่อยออกมานั้น สำหรับชายคนในคลิปชื่อว่านายอนุชา

วันที่ 27 มกราคม 2565 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังร้านค้าขายส่งที่เกิดเหตุ ที่ชายคนดังกล่าวแอบเข้าไปขโมยของ นางสาวโสภิดา แก้วก่า อายุ 45 ปี เจ้าร้านที่เสียหาย เปิดเผยว่า ตัวเองรู้จักกับนายอนุชา ผู้ก่อเหตุ ได้ประมาณ 2 ปี โดยที่ร้านตัวเองมีโกดังสินค้า แล้วนายอนุชาเป็นลูกค้าคอยมารับสินค้าที่ร้านตัวเองไปขายเป็นประจำ ช่วงปี 2564 นายอนุชาได้รับสินค้าจากตัวเองไปแล้วไม่จ่ายค่าสินค้ากับตัวเอง ทำให้เขาเป็นหนี้ตัวเองจำนวน 60,000 บาท มีการแจ้งความดำเนินคดีไปในตอนนั้น

กระทั่งวันที่ 20 มกราคม 2565 สามีตัวเองเช้าไปเช็กของที่โกดังสินค้า ก็พบว่ามีมีลังไม้ขีดหายจำนวน 4 ลัง จากนั้นตัวเองและสามีจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบว่าคืนวันที่ 19 มกราคม 2565 นายอนุชาได้มาก่อเหตุขนลังสินค้าในโกดังของตัวเองไป

ต่อมาวันที่ 23 มกราคม 2565 นายอนุชา ก็ได้เข้ามาที่โกดังของตัวเองอีก เห็นนายอนุชาในกล้องวงจรปิด ตัวเองจึงรีบเรียกพนักงานให้ไปล้อมด้านหลังโกดังไว้ จากนั้นก็มีการโทรศัพท์แจ้ง 191 กระทั่งมีตำรวจนอกเครื่องแบบมาที่เกิดเหตุ 1 ราย ซึ่งตอนตำรวจมาถึง นายอนุชาก็นังขนของอยู่ในโกดังอยู่ ตัวเองจึงบอกให้ตำรวจเข้าไปชาร์จตัวนายอนุชา แต่ตำรวจนายดังกล่าว ก็ยืนอยู่เฉย ๆ ซ้ำยังบอกว่า ผมไม่มีปืน ผมไม่มีเสื้อเกราะ กระทั่งนายอนุชา ผู้ก่อเหตุ ได้ขนของขึ้นท้ายรถกระบะของเขา แล้วขับออกไปอย่างหน้าตาเฉย ตำรวจรายดังกล่าวก็ได้วิ่งมาหลบที่ด้านหลังของตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นก็ทำให้ตัวเองยืนอึ้ง ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมาก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวเองได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลัง เท่าที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้พบว่านายอนุชา ได้มาก่อเหตุขโมยสินค้าในโกดังของตัวเองตำนวน 6 วัน ได้แก่ 24 ธันวาคม 2564 เวลา 23.13 น., 2 มกราคม 2565 23.23 น., 10 มกราคม 2565 เวลา 00.46 น., 15 มกราคม 2565 เวลา 22.23 น., 19 มกราคม 2565 เวลา 22.58 น. และ 23 มกราคม 2565 เวลา 22.38 น. รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 400,000 บาท สำหรับสินค้าที่นายอนุชามาขโมยไปนั้น ก็จะเป็นสินค้าจำพวกราคาแพง เช่น ไฟแช็ก ซุปไก่สกัด กาแฟซอง ซึ่งเขาจะเข้ามาทางด้านหลังโกดังของตัวเอง

ต่อมาวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาตัวเองได้ไปเจรจากับนายอนุชาที่ สภ.เมืองบึงกาฬ โดยนายอนุชาเขาก็บอกกับตัวเองว่าสิ่งของที่เขาขโมยตัวเองไปนั้น เขาจะรับผิดชอบโดยการขายที่ดินให้ตัวเองจำนวน 3 งาน เพื่อเป็นการชดใช้ แต่ทุกวันนี้เขาก็ยังไม่ได้มารับผิดชอบให้ตัวเองแต่อย่างใด โดยนายอนุชา เขาเป็นอาสากู้ภัย แต่ตัวเองก็แปลกใจที่เห็นเขาแต่งกายเป็นชุดคล้ายตำรวจ และเขาก็บอกว่าเขาเป็น ผอ.มูลนิธิจราจร ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่าหมายถึงมูลนิธิอะไร

ด้านนายจีจี้ (นามสมมติ) คนรู้จักกับนายอนุชา เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเป็นข่าวได้มีเด็กวัยรุ่นที่ตัวเองรู้จักประมาณ 3 คน มาเช่าให้ตัวเองฟังว่า นายอนุชาเขาจะชอบแต่งกายชุดคล้ายตำรวจ ถึงขั้นไปขอตรวจฉี่เด็กวัยรุ่น แล้วรีดไถเงินกับเด็กวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว แล้วนายอนุชา ก็มีการพกอาวุธปืนไปข่มขู่เด็กวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวอีกด้วย

สำหรับนายอนุชา เท่าที่ตัวเองรู้จักกับเขามาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาเป็นแค่อาสากู้ภัยแห่งหนึ่งในจังหวัดบึงกาฬ โดยวันนี้หลังจากเขาตกเป็นข่าว นายอนุชาเขาได้ส่งข้อความมายังกลุ่มกู้ภัย โดยพิมพ์ข้อความเชิงตัดพ้อว่า "มางานศพผมด้วยนะ เก็บไว้วันเดียวพอ ผมเคารพการตัดสินปัญหา" ตัวเองก็อยากให้นายอนุชาออกมาชี้แจง การฆ่าตัวตายไม่ได้เป็นทางออกของปัญหา

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านของนายอนุชา พื้นที่ อ.เมือง จ.บึงกาฬ พบว่าที่บ้านนายอนุชา มีการติดป้ายว่ามูลนิธิจราจร จ.บึงกาฬ นายอนุชา เปิดใจกับทีมข่าวว่า สำหรับกรณีที่มีการแชร์ภาพว่าตัวเองแต่งกายคล้ายตำรวจนั้น ขอชี้แจงว่าชุดดังกล่าวไม่ใช่ชุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นเครื่องแบบของมูลนิธิกู้ภัยจาราจรที่ตัวเองเป็นผู้อำนวยการมูลนิธิ

นายอนุชา บอกว่า ชุดของตำรวจจะเป็นเฉดสี นว 01 ส่วนชุดของตัวเองจะเป็นสีดำ จะแตกต่างอย่างชัดเจน ส่วนในภาพที่เห็นตัวเองแต่งกายคล้ายตำรวจชุดสืบสวนนั้น ชุดดังกล่าวไม่ใช่ชุดตำรวจชุดสืบสวน เป็นชุดครึ่งท่อนของกู้ภัย แล้วก็ขอยืนยันว่าตัวเองไม่เคยไปแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าตัวเองไปเรียกตรวจฉี่แล้วรีดไถเงินวัยรุ่นนั้น ก็ขอปฏิเสธ ตัวเองไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวแม้แต่ครั้งเดียว

กรณีที่มีภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพว่าตัวเองไปขโมยของในโกดังสินค้าชาวบ้านนั้น ตัวเองไม่ขอให้ข้อมูล เพราะจะขอให้การณ์กับชั้นศาลอย่างเดียว ตอนนี้สภาพจิตใจตัวเองย่ำแย่ ถึงขั้นจะคิดปลิดชีพตัวเองวันนี้ เพราะหลังจากเกิดกระแสต่าง ๆ เข้ามาหาตัวเอง ตัวเองไม่สามารถจะปรึกษาใครได้ แม่ตัวเองก็แก่มากแล้ว ส่วนเมียตัวเองก็แยกทางแล้ว