สลด! ไฟไหม้บ้านกู้ภัยย่างสด 2 ศพ เผยนาทีเมียวิ่งหนีตาย ลูกเศร้าพ่อป่วยมะเร็งเชื่อลุกหนีไม่ไหว (คลิป)

27 ม.ค. 65

กรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ภายในซอยเอกชัย 30 แยก 5 ถนนเอกชัย ซอย 30 แยก 5 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ จนลุกลามบ้านข้างเคียงเสียหายอีก 3-4 หลัง เจ้าหน้าที่นักผจญเพลิงและหน่วยกู้ภัยช่วยกันเข้าสกัดกั้น นานกว่า 30 นาที กว่าเพลิงจะสงบ รวมเนื้อที่เพลิงไหม้ 4 หลังคาเรือน 50 ตารางวา

191063

โดยเหตุดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อนายกิตติพงศ์ สอนดี หรือ เอ อายุ 36 ปี เจ้าของบ้านและเป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และนายสำเนียง ธรรมปัญญา หรือ เนียง อายุ 65 ปี ผู้เป็นลุงอาชีพขับรถแท็กซี่ ซึ่งทั้งคู่ถูกไฟไหม้เกรียมทั้งตัว ส่วนนางรักชนก สอนดี อายุ 36 ปี ภรรยา นายกิตติพงศ์ อาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นแผลพุพองท่อนบน พิสูจน์หลักฐานตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางขุนเทียน ได้เข้าตรวจสอบตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 27 มกราคม 65

337845

ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าเจ้าหน้าที่สำนักเขตจอมทอง ให้ข้อมูลว่า จากการสำรวจพบผู้ได้รับผลกระทบรวม 4 ครอบครัว เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสุขภาพร่างกายและสอบถามสภาพจิตใจของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง หลังจากนี้สำนักงานเขตฯ จะเข้าตรวจสอบโครงสร้างของอาคารและสิ่งแวดล้อม จากนั้นจะต้องประเมินอีกครั้ง เบื้องต้นได้กั้นพื้นที่เป็นเขตอันตรายและห้ามเข้าใช้อาคารดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย ส่วน พฐ.ได้นัดหมายครอบครัวผู้เสียชีวิต ตรวจสอบบ้านอย่างละเอียดอีกครั้ง ในวันที่ 31 มกราคม 65

292884

นางซกงิ้น แซ่อึ้ง อายุ 75 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นตนนั่งตัดหูรองเท้า และลูกนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ยังไม่นอนกัน ก่อนตะโกนว่า “เฮ้ย! ไฟไหม้” ตนจึงบอกว่า “อย่าพูดซี้ซั้วว่าไฟไหม้ มันเรื่องใหญ่” แต่เมื่อหันไปเห็นไฟไหม้จากข้างล่าง ก็ร้องเรียกบอกคนว่า ”ไฟไหม้ ๆ” นานกว่า 20 นาที ชาวบ้านจึงตื่น ตอนแรกเห็นไฟ ก่อนมีเสียงระเบิดตามมาหลายครั้ง อีกทั้งตอนนั้นมีลมพัดและทิศทางลมก็พุ่งเข้าไปในบ้านหลังที่เกิดเหตุเพียงหลังเดียวเหมือนจงใจ ซึ่งลมก็พัดนานกว่าครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่งมาเร็วมาก ก็เร่งช่วยกันดับไฟทันที

325822

สำหรับบ้านทาวน์เฮาส์แห่งนี้มีอายุนานกว่า 40 ปี เคยมีเหตุเพลิงไหม้บ้านดังกล่าวและบ้านข้างเคียง 2 ครั้ง แต่ไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้ ตกใจมาก ๆ ไม่ช็อกก็ดีแล้ว แต่มีสติรีบเรียกชาวบ้านให้ตื่น ในใจตนตอนนี้อยากให้หน่วยงานนำถังดับเพลิงมาไว้จุดนี้ เพราะตอนเกิดเหตุตนพยายามดึงสายยางฉีดน้ำ แต่สายยาวไม่ถึง ด้วยเหตุนี้จะต่อว่าเจ้าของบ้านก็ไม่ได้ เพราะพวกเขาก็หลับพักผ่อนสนิท ตนเชื่อว่าเจ้าของบ้านคงไม่ได้ทำอะไรให้เป็นชนวนเชื้อเพลิง

686697

นางบุษบา ครรมปัญญา อายุ 58 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า สำหรับงานศพของลูกเขย เพื่อน ๆ อาสาจะช่วยเรื่องรับศพและจัดหาโลงศพให้ ส่วนหน่วยงานอื่น ๆ จะช่วยเหลืออย่างไร ตนเองยังไม่ทราบ ซึ่งในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่หลานชายไปอยู่ในความดูแลตน หากอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ ตนก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไร

550065

แต่ตนยอมรับว่ามีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี ในวันที่ 24 มกราคม 65 ที่ผ่านมา ลูกสาวตนไปรับมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่กรุงเทพฯ เมื่อเสร็จภาระกินลูกสาวก็พาไปส่งที่จังหวัดนครนายก ซึ่งจริง ๆ แล้วจะให้ลูกส่งแค่รังสิต แต่ลูกบอกว่าไปส่งที่นครนายกเลยเผื่อลูกชายอยากเห็นหน้า เมื่อไปถึงก็ทำแกงเขียวหวานให้กิน และซื้อของฝากทุกคน เหมือนเป็นลางว่าจะจากกัน

690532738319

โดยเฉพาะระหว่างทาง มีการพูดคุยกัน แต่ลูกสาวก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า อยากกลับไปอยู่บ้านช่วยทำสวน ตนจึงบอกว่าหากไปทำงานแถวบ้าน จะมีค่าแรงขั้นต่ำแค่ 300 บาท เพราะลูกสาวเป็นคนเครียดเรื่องเงินมาก ๆ ตนจึงแนะนำลูกสาวว่าให้เข้าที่เข้าทางก่อน ค่อยกลับบ้านก็ได้ 

สำหรับลูกสาวและลูกเขย ไม่เคยทำให้เสียใจเลย ทั้งคู่เป็นคนโอบอ้อมอารี โดยเฉพาะลูกเขยเป็นคนดีมาก ๆ ทำทุกอย่างที่ตนต้องการ ไม่ว่าอยากได้อะไร อยากไปไหน ตนจึงเสียดายความดีของลูกเขยที่ไม่สามารถเอาอะไรมาแลกหรือทดแทนได้ ในใจของตนอยากให้เขาอยู่ทำความดีไปเรื่อย ๆ แต่ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

977825

นางแสงจันทร์ ครรมปัญญา อายุ 64 ปี ภรรยานายสำเนียง หนึ่งในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนแยนกันทำงานกับสามี ตนทำสวนอยู่ที่บ้านจังหวัดนครนายก ส่วนสามีขับรถแท็กใน กทม. พูดคุยกันครั้งล่าสุดหลังปีใหม่ ตอนนั้นก็พูดคุยกันดี สดใส ไม่มีลางบอกเหตุอะไร แต่สามีป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งอยู่สู้กับโรคร้ายมา 3 ปีกว่าแล้ว ปลูกผักไว้ที่สวนหลายอย่าง เขาบอกว่าจะกลับไปอยู่บ้านเหมือนกัน แต่สุดท้ายมาเกิดเหตุก่อน สำหรับสามีของตนนั้น เขาเป็นคนสู้ชีวิตและตั้งใจทำมาหากิน เพื่อที่จะไม่เป็นภาระของลูก ๆ จากนี้ไปตนก็คงใช้ชีวิตอยู่กับลูกสาวทั้ง 3 คน ส่วนความช่วยเหลือที่จะเข้ามาจากรูปแบบไหน แล้วแต่เจ้าหน้าที่จะกรุณา

300404

เวลา 14.00 น. ครอบครัวญาติ ๆ และเพื่อน ๆ อาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ติดต่อรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ที่นิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองกันเกา อ.บ้านนา จ.นครนายก โดยบรรยากาศนาทีที่รับศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนางสาวศรีนวล ธรรมปัญญา อายุ 43 ปี ลูกสาวคนโตของนายสำเนียง โอบกอดน้องสาวคนเล็ก ส่วนเพื่อนอาสาอยู่ในอาการนิ่งสงบ และช่วยกันนำร่างทีละร่างใส่หีบศพ ก่อนหามโลงขึ้นรถตู้ ซึ่งเป็นรถตู้ของนายกิตติพงศ์ หรือ นายเอ ผู้เสียชีวิตซึ่งลงทุนซื้อเองเพื่องานอาสา ออกจากนิติเวช รพ.ศิริราช

555072

นายเก่ง (สงวนชื่อ-สกุลจริง) รุ่นพี่อาสาร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า นายเอ เป็นคนอาสาตัวจริง เพราะชอบให้ความช่วยเหลือทุกคน ไม่ใช่แค่การเป็นอาสา แต่ในการใช้ชีวิตประจำวันของนายเอ ก็ชอบช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนเสมอ ๆ โดยที่ไม่ได้หวังอะไรตอบแทน ส่วนตนก็รู้สึกเสียใจกับการจากไปของคนดีคนหนึ่ง และเสียใจที่สูญเสียบุคลากรที่ทุ่มเทและจริงจังกับงาน นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ

893925

อีกทั้ง นายเอ ยังเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานเสริมมากมาย ทั้งขี่รถส่งอาหาร ขายลอตเตอรี่ ขายลอดช่องและขายกาแฟ รวมไปถึงเทรดหุ้นที่บ้าน แต่เรื่องทำเหมืองขุดสกุลเงินดิจิตอล ตนไม่แน่ใจว่านายเอ ทำมากแค่ไหน และส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้หรือไม่ แต่สำหรับการเป็นอาสา เป็นความสูญเสียที่พูดไม่ออก และเป็นอุทาหรณ์ที่พวกตนจะต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังให้มากกว่านี้

138223

นางสาวศรีนวล ธรรมปัญญา อายุ 43 ปี ลูกสาวคนโตของนายสำเนียง เปิดเผยว่า ตนมีลางบอกเหตุในช่วง 3 วันที่ผ่านมา จู่ ๆ ก็คิดถึงพ่อ และคิดว่าจะโทรศัพท์ไปพ่อ แต่ก็ติดงาน และวันนี้ก็ตั้งใจจะโทรไปหา แต่พ่อก็จากไปแล้ว สำหรับตนกับพ่อคุยกันทางโทรศัพท์บ่อยมาก ๆ ปกติถ้าพักเที่ยงตนก็จะโทรศัพท์หาพ่อ ส่วนพ่อก็มักจะชอบส่งรูปรายงานว่าอยู่ที่ไหน รอรับผู้โดยสาร หรือทำอะไรอยู่ และพ่อจะคอยถามตนเสมอว่า "ลูกกินข้าวหรือ ยังทำอะไรอยู่"

169107

สำหรับพ่อแม้จะป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แต่พ่อก็ยังคงขยันเพราะใจสู้ ไม่อยากให้ลูก ๆ ลำบาก ไม่อยากเป็นภาระใคร รถแท็กซี่ที่ซื้อมาก็หาเงินปิดงวดจนหมด พ่อไม่เคยทิ้งภาระให้ลูกเลยจริง ๆ อีกทั้งตอนที่ได้เจอกันเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ นัดสังสรรค์กันที่บ้านที่นครนายก วันนั้นพ่อก็สนุกสนาน สดใส ไม่มีท่าทีว่าจะจากกันแบบนี้ ในวันนี้ตนจึงอยากบอกรักพ่อ ไม่คิดว่าพ่อจะจากไปเร็วแบบนี้ และไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับพ่อและคนในครอบครัวของตนตน อย่างไรก็ตาม บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของหลานเขย ที่ผ่านมาหลานเขยดูแลพ่อดีมาก ๆ และอยู่ช่วยเหลือกันและกันมาโดยตลอด แและคิดว่าไม่มีใครอยากจะอยู่บ้านหลังนี้แล้ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส