จากเหตุการณ์ ด.ญ.วรรรญา วรรณผ่อง หรือ น้องมิลค์ วัย 11 ปี นักแข่งโดรนทีมชาติไทยที่เพิ่งชนะการแข่งขันจากประเทศจีน ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา คู่กรณีได้ขับปาดส่วนท้ายรถทำให้รถเกิดเสียการทรงตัว หมุนหลายรอบ ชนกับต้นไม้แล้วเกิดตกลงไปในร่องกลางถนน
วันที่ 1 ม.ค. 61
นายอาวุธ วรรณผ่อง พ่อของน้องมิลค์ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับน้องมิลค์ เพราะต้องทำงาน น้องมิลค์จึงนั่งรถไปเยี่ยมคุณย่าที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับลุง ป้า และน้องสาว ลูกพี่ลูกน้อง โดยลุงจะเป็นคนขับรถ ป้านั่งด้านข้างคนขับ ส่วนน้องมิลค์นั่งหลังคนขับกับพี่สาว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนทราบมาว่า เมื่อคุณลุงของน้องมิลค์ขับรถมาถึง ถ.เพชรเกษมขาล่องใต้ บริเวณปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้เคียงกับ รพ.ทับสะแก ประมาณ 600 เมตร คุณลุงขับรถอยู่เลนขวา ส่วนรถของคู่กรณีอยู่เลนซ้าย รถทั้งสองคันขับตามกันมาในระยะหนึ่ง แต่จู่ ๆ รถของคู่กรณีเร่งเครื่องมา ทำให้เฉี่ยวชนบริเวณท้ายรถฝั่งซ้าย ส่งผลให้รถเสียหลักหมุนตกร่องเกาะกลางถนน โดยช่วงเกิดเหตุรถของคู่กรณีไม่ได้จอดดูหรือแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
นายอาวุธ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่น้องมิลค์ไม่กระเด็นตกลงมาจากรถด้วย และมีอาการบาดเจ็บบริเวณศีรษะบวมเล็กน้อยเท่านั้น แต่ต้องคอยดูอาการ ส่วนลูกสาวของคุณลุงที่นั่งอยู่บริเวณด้านหลังรถ ได้รับผลจากแรงกระแทก เนื่องจากกระเด็นหลุดจากตัวรถจากกระจกด้านหลัง ไปกระแทกกับพื้นส่งผลให้ตับฉีกในระดับ 4 และมีเลือดออกในช่องท้อง ต้องพักรักษาตัวที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่อาการก็เริ่มดีขึ้น ส่วนคุณป้าก็กระดูกโคนนิ้วก้อยด้านขวาหัก
หลังจากนี้ น้องมิลค์ก็ต้องกลับไปซ้อมแข่งขัน เพื่อเตรียมตัวไปแข่งบินโดรนรายการแรกของปี 2562 ที่ประเทศบรูไน ซึ่งโชคดีที่น้องมิลค์ไม่เป็นอะไรมาก แต่น้องมิลค์หลังจากเกิดเหตุ เวลานั่งรถก็จะมีอาการผวาเวลามีรถเข้ามาใกล้ ๆ
สุดท้ายนี้ ตนยืนยันว่าคุณลุงที่เป็นผู้ขับรถไม่ได้หลับใน แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพราะอุบัติเหตุจากการถูกรถกระบะเฉี่ยวชนด้านท้ายรถจนรถประสบอุบัติเหตุ คาดว่ารถคู่กรณีคงหลับใน สำหรับเหตุการณ์นี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมไปถึงรถของลุงก็ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้
ด้าน
ด.ญ.วรรรญา วรรณผ่อง หรือ น้องมิลค์ นักแข่งโดรนทีมชาติไทย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเล่นอยู่กับพี่สาวบนรถ ก่อนเกิดเหตุตนเห็นว่ามีรถขับตามหลังมาเรื่อย ๆ จากนั้นรถชนและหมุนหลายครั้ง ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ เมื่อตั้งสติได้ตนจึงลงมาจากรถ เห็นพี่สาวนอนอยู่ข้างรถ บอกว่าปวดท้อง ขอยาดม ส่วนรถคู่กรณี หลังชนกับรถตนเสร็จก็ขับรถหนีไป ทั้งที่จริงควรรจะจอดรถลงมาดูบ้าง ตนจึงต้องการให้คู่กรณีเข้ามามอบตัว และไปดูอาการพี่สาว นอกจากนี้ หลังจากเกิดเรื่องตนก็เกิดความกลัวในการนั่งรถอยู่บ้างเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ตนต้องไปฝึกซ้อมเพื่อเตรียมการแข่งขันรายการแรกของปีที่ประเทศบรูไน และขอให้ฝากให้ประชาชนชาวไทยเป็นกำลังใจให้ตนด้วย
ด้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทับสะแก ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนการสอบพยานแวดล้อม ติดตามหารถที่เฉี่ยวชนเพื่อมาสอบถามถึงข้อเท็จจริงต่อไป