เมื่อวันที่ 21 ม.ค.65 นางสาวส้ม (นามสมมติ) ร้องเรียนผ่านทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี หลังจากเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดลพบุรี เมื่อเดือนมิถุนายน 64 แต่ปรากฏว่าหลังจากทำได้ประมาณ 3 วัน คลินิกได้นัดไปดูแผลพบว่าหัวนมที่ข้างขวาเกิดเป็นแผลพุพอง เป็นหนอง และอักเสบ ในตอนนั้นเจ้าหน้าที่คลินิกให้ยาทานและยาทา จนผ่านมา 1 เดือนอาการไม่ดีขึ้น แพทย์คนที่ทำศัลยกรรมให้จึงได้นัดเข้าไปตรวจสอบและเย็บแผล เป็นการเย็บบริเวณหัวนม แล้วบอกว่า "เดี๋ยวหัวนมจะขึ้นมาใหม่"
นางสาวส้ม เปิดเผยว่า แผลบริเวณหัวนมข้างขวาก็ยังไม่หายดี เกิดพุพองและอักเสบหนัก จนสุดท้ายหัวนมหลุดออกมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่คลินิก แพทย์จึงได้นำซิลิโคนออกให้ 1 ข้าง แล้วบอกให้พักฟื้นเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นให้กลับใส่ซิลิโคนใหม่ แล้วบอกว่า หัวนมจะขึ้นมาเหมือนเดิม จึงรู้สึกกังวลมาก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ตอนนี้เวลามองดูที่หน้าอก ก็จะมีนมที่ข้างหนึ่งโต ทำศัลยกรรม ส่วนอีกข้างหนึ่งเอาซิลิโคนออก นมก็แบน หัวนมไม่มี แถมเป็นแผลเป็นน่าเกลียด รู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เวลาจะใส่เสื้อผ้าก็ต้องนำซิลิโคนปลอมมาสวมใส่ สิ่งที่อยากได้มากที่สุดคืออยากได้เต้านมเดิมกลับมา แต่ตอนนี้คงไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว ทั้งสภาพจิตใจและสภาพร่างกาย สภาพจิตใจก็เหมือนคนจิตตก กลัวและร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาคลินิกไม่เคยติดต่อมาเลย ต้องพยายามติดต่อคลินิกเข้าไปเพื่อขอความช่วยเหลือ จึงนำเรื่องนี้มาปรึกษากับทนาย ปรากฏว่าพบผู้เสียหายที่มีลักษณะเดียวกัน 3 เคส จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. เพราะไม่อยากให้มีใครตกเป็นเหยื่ออีก" ผู้เสียหาย กล่าว
ทีมข่าวสอบถามกับ ร้อยตรีวรุต กันตะเพ็ชร ทนายความที่ดูแลเคสดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. ปรากฎว่าช่วงเวลาที่คลินิกดังกล่าวทำศัลยกรรมหน้าอกให้กับหญิงสาวผู้เสียหาย ยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เพิ่งจะมาขออนุญาตในภายหลัง
ทั้งนี้ แม้จะขออนุญาตภายหลัง คลินิกดังกล่าวก็ยังไม่สามารถทำการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกได้ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง และบุคลากรทั้งแพทย์ผู้ผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ และพยาบาลคอยดูแลผู้ป่วยและพักฟื้น เบื้องต้นตนได้เตรียมฟ้องร้องกับคลินิกและแพทย์ผู้ผ่าตัด ฐานคลินิกเถื่อนไม่สามารถดำเนินการผ่าตัดศัลยกรรมดังกล่าวได้ และฟ้องเอาผิดกับแพทย์คนที่ผ่าตัดฐาน ประมาทเลินเล่อ ทำให้ผู้อื่นสูญเสียอวัยวะในร่างกาย ส่งผลต่อสภาพร่างกายและจิตใจ
นางสาวแป้ง (นามสมมติ) อายุ 24 ปี และนางสาวฟิวส์ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ซึ่งทั้งคู่ก็ตกเป็นผู้เสียหายจากคลินิกดังกล่าว โดยนางสาวแป้ง เล่าให้ฟังว่า ตนได้ติดต่อทำศัลยกรรมหน้าอกกับคลินิกแห่งนี้ เพราะดูจากรีวิวผ่านเฟซบุ๊กของคลินิกดังกล่าว จึงได้ตกลงที่จะทำศัลยกรรม โดยคลินิกให้เดินทางมาทำศัลยกรรมที่จังหวัดนนทบุรี โดยบอกว่าเป็นคลินิกที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน และคุณหมอก็ได้มาเข้าเวรที่คลินิก ตนจึงเดินทางไปทำตามนัด จำได้ว่าตอนหมอทำศัลยกรรมได้ฉีดยาชา มีแพทย์ที่ผ่าตัด 1 คน แล้วก็ผู้ช่วยแพทย์อีก 1 คน หลังจากทำเสร็จก็ได้พักฟื้น 7 วัน ปรากฏว่าที่หัวนมด้านขวาเป็นแผลพุพองมีน้ำหนองไหล จึงประสานคลินิกและหมอขอให้นำซิลิโคนออกทันที เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายมากกว่านี้
หลังจากนั้น ปรากฏว่าที่บริเวณหัวนมข้างขวา สูญเสียประสาทการรับความรู้สึก เวลาจับหรือสัมผัสจะไม่รู้สึกอะไรเลย เบื้องต้นตนได้ประสานไปที่คลินิกแจ้งตนว่าพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหาย แต่ตนไม่ต้องการ เพราะอยากจะฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดกับแพทย์ และคลินิกให้ถึงที่สุด
ขณะที่นางสาวฟิวส์ เป็นอีกหนึ่งในผู้เสียหายที่มาทำศัลยกรรมหน้าอก ปรากฏว่าบริเวณแผลผ่าตัดเน่าและมีน้ำเหลืองไหล ออกมาตลอดเวลา จนต้องรักษาตัวอยู่นานกว่า 1 เดือน โดยในระหว่างการรักษาพยายาม ตนขอให้หมอนำซิลิโคนออก แต่หมอไม่เอาออกให้ จนสุดท้ายต้องไปพึ่งคลินิกอื่น ตอนนี้หน้าอกกลายเป็นแผลเป็นน่าเกลียดและแผลเป็นยังเป็นพังผืด จนทำให้ไม่สามารถยกแขนขวาขึ้นได้ สร้างบาดแผลทั้งร่างกายและจิตใจ ตนจึงอยากออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนและเตือนภัยสาว ๆ ที่อยากจะทำศัลยกรรมหน้าอก ขอให้เช็กประวัติแพทย์และคลินิกให้ดี มิเช่นนั้นอาจเกิดเหตุเช่นเดียวกับตนก็ได้
