ไพบูลย์ เผยเหตุพลังประชารัฐขับ ธรรมนัส เสนอปรับโครงสร้างพรรค เข้าข่ายผิดร้ายแรง

20 ม.ค. 65

20 ม.ค. 65 กรณีพรรคพลังประชารัฐ ขับ ธรรมนัส และ 20 ส.ส. ออกจากพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงกรณีมติพรรคพลังประชารัฐให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และ ส.ส.ในกลุ่มรวม 21 คน พ้นหรือสิ้นสุดจากสมาชิกภาพพรรค วานนี้ (19 ม.ค.) ว่า

ร.อ.ธรรมนัส เสนอปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เห็นว่าประเด็นข้อเรียกร้องดังกล่าวสร้างปัญหามาก เกรงจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในพรรค จึงเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.พรรค ซึ่งการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเรื่อง ของ ร.อ.ธรรมนัส และคณะเรียกร้องมา พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถทำตามที่เรียกร้องมา เพราะหากดำเนินการไปนั้นจะเป็นความเสียหายของพรรคทั้งระบบ

ทั้งนี้ เพื่อรักษาหลักการแห่งพรรคพลังประชารัฐทั้งเรื่องเอกภาพเสถียรภาพ อุดมการณ์ของพรรคหลายอย่าง คณะกรรมการของพรรคเห็นว่ารับไม่ได้ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส บอกว่าถ้าไม่รับข้อเสนอจะมีปัญหาการบริหารพรรคต่อไป สิ่งนี้พรรคเห็นว่าเป็นเหตุร้ายแรงกระทบ กับเสถียรภาพ พรรคพลังประชารัฐ ดังนั้นกรรมการบริหารพรรคจึงเห็นว่าเรื่องนี้เข้ากับข้อบังคับพรรค ข้อ 54 (5) พรรคจึงมีมติให้ ร.อ.ธรรมนัส และคณะรวม 21 คน พ้นจากพรรคเพื่อรักษาส่วนใหญ่" นายไพบูลย์ กล่าว

สำหรับสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัส เรียกร้องในเรื่องที่พรรคไม่สามารถดำเนินการให้ได้ อาทิ เรื่องปรับโครงสร้างพรรคใหม่ หากไม่ปรับจะเคลื่อนไหวต่างๆ ที่จะทำให้เกิดความเสียหายกับพรรค ไม่ได้พูดเรื่องเก้าอี้ โดยเรื่องปรับโครงสร้างพรรคถือเป็นเรื่องร้ายแรง ตำแหน่งต่างๆ จะกระทบทั้งหมด ประเด็นนี้ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ถ้าไม่ได้ก็ไม่ยอม ถือเป็นความขัดแย้งที่จะก่อให้เกิดความมั่นคงเสถียรภาพของพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นเหตุร้ายแรงแล้ว สรุปมติกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ ส.ส. มีความเห็นตามข้อบังคับของพรรคทุกประการ มันเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม พรรคพยายามแก้ไขแล้ว การที่มีมติตามกฎหมายเพื่อรักษาส่วนใหญ่ไว้ จากนี้พรรคดำเนินการจัดเตรียมเอกสารส่งไปยัง กกต. การมีมติ ตามข้อกฎหมาย มีผลในวันที่มีมติ ทั้ง 21 คน เป็น ส.ส. แต่ต้องหาพรรคใหม่ ไม่เกิน 30 วัน ตาม รธน. ม. 101 (9) และระหว่างนี้หัวหน้าพรรคจะพิจารณาแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคคนใดคนหนึ่งมาทำหน้าที่เลขาธิการพรรคแทนไปก่อน

อนึ่ง มติให้พ้นหรือสิ้นสุดจากสมาชิกภาพพรรค เพราะไม่สามารถปฏิบัติตามได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคอยากให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง จะให้มีภาพลักษณ์แตกแยกทางการเมืองกันอย่างนี้ไม่ได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวหัวหน้าพรรคเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาไม่ได้โหวตร่วมด้วย เชื่อมั่นว่าตั้งแต่นี้ไปจะจบจริงๆ พรรคมีเอกภาพมั่นคงมากขึ้น พรรคยังเหลือ ส.ส. อีกกว่าร้อยคน และเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้มามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกมใหม่ ธรรมนัส ส่อเข้าพรรคเศรษฐกิจไทย วาสนา นาน่วม ชี้ พี่ป้อม-น้องตู่ หมากคนละกระดาน

ธรรมนัส ขอบคุณทุกกำลังใจ ถาม "ไปอยู่พรรคไหนดี" หลังถูกขับพ้นพลังประชารัฐ 

มติตะเพิด ธรรมนัส - 20 ส.ส. พ้น พลังประชารัฐ ข้อหา ทำผิดร้ายแรงมาโดยตลอด

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม