ตำรวจงงสยบยิงไอ้คลั่งฟันหัว แต่แม่ฉะทำเกินเหตุ งัดคลิปแฉยิงขาถือว่าเบา (คลิป)

กรณีเฟซบุ๊ก "โม่งดำ black hood tactical v.2" มีการโพสต์คลิปนาทีระทึกเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาหว้า จ.นครพนม จำนวน 7 นาย ลงพื้นที่บริเวณกระท่อมกลางทุ่งนาในพื้นที่ ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เพื่อเข้าล้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหายจับของศาล จ.นครพนม ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และ พ.ร.บ.จราจรทางบก ทราบชื่อนายวุฒิชัย กันลัยพันธ์ อายุ 33 ปี

โดยในคลิปเห็นว่าช่วงแรก นายวุฒิชัย คนร้าย วิ่งถือมีดพร้า 2 เล่ม ความยาว 50 ซม. และ 58 ซม. ปรี่เข้ามาหาตำรวจนายหนึ่งทราบชื่อ ส.ต.ท.ปวริศ คะลีล้วน ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.นาหว้า จึงเกิดการต่อสู้ ก่อนที่ ส.ต.ท.ปวริศ ยิงปืนลงพื้นเพื่อขู่ 1 นัด แต่คนร้ายไม่กลัว และพยายามที่จะเข้าทำร้าย ส.ต.ท.ปวริศ

จากนั้น​ ด.ต.ปฎิวัติ ราตรีหว่าง ผบ.หมู่งานสืบสวน​ จึงได้วิ่งเข้าช่วย แย่งมีดและกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับคนร้าย แต่ระหว่างนั้น ร.ต.อ.สิลาวุตร โพธิ์ศรี รองสารวัตรสืบสวน สภ.นาหว้า เห็นว่า ด.ต.ปฏิวัติ จะถูกคนร้ายใช้มีดฟัน จึงเข้าใช้มือแย่งมีดออกมา แต่ ร.ต.อ.สิลาวุตร กลับถูกคนร้ายใช้มีดฟันที่ศีรษะ 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ เย็บ 3 เข็ม

ขณะที่ ด.ต.ปฺฏิวัติ ที่ยังกอดรัดและแย่งมีดคนร้ายอยู่ คนร้ายก็ได้ใช้อาวุธมีดฟันไปที่ ด.ต.ปฏิวัติ จนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนและขาเล็กน้อย แต่โชคดีที่เพื่อนตำรวจอีกนายตัดสินใจใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำกายยิงไปที่ขาของ นายวุฒิชัย 1 นัด และที่สะโพกอีก 1 นัด เพื่อป้องกันอันตราย จนคนร้ายเสียหลักและล้มลงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จึงสามารถช่วยกันจับกุมไว้ได้ และนำส่ง รพ.นาหว้า เพื่อทำการรักษา และดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

ล่าสุด ได้นำตัวส่งเรือนจำกลาวจังหวัดแล้วในข้อหาบุกรุกยามวิกาล, พยายามฆ่า, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และ พ.ร.บ.จราจรทางบก

ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในกระท่อมกลางทุ่งนา ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่านายวุฒิชัยพักอาศัยอยู่ พบอาวุธปืนแก๊ปได้ 1 กระบอก จึงทำการตรวจยึดมาตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย

เบื้องต้น กองบัญชาการตำรวจภูธราค 4 (บช.ภ.4) จ.ขอนแก่น มอบเงินสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย นายละ 10,000 บาท และขณะที่ชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 4 มอบสนับสนุนอีกนายละ 3,000 บาท รวมถึงทาง บช.ภ.4 จะรับผิดชอบในเรื่องของการรักษาพยาบาลของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของผู้ปฎิบัติงาน ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไปด้วย

วันที่ 19 มกราคม 2565 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สภ.นาหว้า จ.นครพนม ร.ต.อ.สิลาวุตร โพธิ์ศรี รองสารวัตรสืบสวน สภ.นาหว้า ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะ เย็บ 3 เข็ม เปิดใจว่า จริง ๆ แล้วที่ออกตามล่าตัวนายวุฒิชัย เพราะมีชาวบ้านมาแจ้งความว่าไปบุกรุกบ้านเรือน และสร้างความเสียหายในช่วงวันที่ 15-16 มกราคม 2565 บวกกับมีหมายศาลอยู่แล้ว ตอนแรกก็เดินทางไปที่บ้านตามทะเบียนราษฎร์ ซึ่งเป็นบ้านที่นายวุฒิชัยอยู่กับคุณยาย แต่ไม่พบตัว จึงเดินทางไปยังกระท่อมกลางนาที่นายวุฒิชัยมักจะไปหลับนอนอยู่เป็นประจำ

ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงกระท่อม ก็ไม่ยังไม่เจอ จึงทำการออกค้นหาตามพุ่มไม้โดยรอบ ไม่ถึง 5 นาที นายวุฒิชัยก็โผล่มาพร้อมกับมีดพร้า 2 เล่ม และวิ่งไล่ฟันเจ้าหน้าที่ตามคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไป วินาทีที่โดนฟันลงบนศีรษะไม่ได้รู้สึกเจ็บ เพราะว่ากำลังตกใจอยู่กับการไล่ล่านายวุฒิชัย และกังวลว่าลูกน้องคนอื่นจะได้รับอันตรายจากอาวุธมีดด้วย

เหตุผลที่ทางเจ้าหนี้ตำรวจต้องมีการยิงนายวุฒิชัย เป็นเพราะต้องป้องกันอันตราย เนื่องจากสถานการณ์เกินที่จะควบคุมได้แล้ว หากไม่ทำเช่นนั้น คนที่เจ็บหนักก็จะเป็นตำรวจ หรือมากไปกว่านั้น เจ้าหน้าที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณสำหรับทุกคำชื่นชมที่ส่งมาให้ตัวเองและทีม ขอบคุณผู้บังคับบัญชา และหัวหน้าทุกระดับ ที่เห็นถึงความตั้งใจในการปฎิบัติหน้าที่

ส่วนกับคำวิพากษ์วิจารณ์ที่มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุนั้น ตนอยากที่จะให้มองมุมกลับว่า จริง ๆ แล้วเจ้าหน้าที่ทุกคนมีปืน ถ้าตั้งใจจริง ๆ ก็คงยิ่งไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ต้องใช้วิธีนี้เพราะสุดท้ายสถานการณ์ทำให้ไม่มีทางเลือกอื่น อย่างที่เห็นในคลิป ดังนั้นถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำ ก็จะอาจจะเกิดการสูญเสียเจ้าหน้าที่บางรายไป

ทีมข่าวเดินทางไปยังกระท่อมที่นายวุฒิชัยใช้เป็นพื้นที่หลับนอนก่อนที่จะมีการจับกุม กลางทุ่งนาในพื้นที่ หมู่ 4 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม พบว่าที่กระท่อมไม่มีไฟฟ้าใช้ พบไฟแช็กจำนวนมาก ประมาณ 100 ชิ้น บนตู้เสื้อผ้ามีรูปปั้นนางกวัก 1 นาง, มารทอง 4 ตน, พระแม่ธรณีบีบมวยผม 1 องค์, กระถางธูป 2 ชิ้น ทั้งหมดเต็มไปด้วยหยากไย่ สิ่งของถูกวางแบบกระจัดกระจายไปทั่วห้อง ทั้งเสื้อผ้า ของทำครัว และของใช้ส่วนตัว

นางพรสมัย ทองคำ อายุ 53 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายโดนจับ สงสารที่ลูกโดนยิงได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยอมรับได้ เพราะลูกชายเสพยาบ้ามาประมาณ 5-6 ปี ทำให้ความคิดความอ่านไม่ปกติ ไประรานชาวบ้านไปทั่ว และไม่เคยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แถมยังเคยโดนจับกุมมาแล้ว 2 รอบ ปี 2557 สภ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร ในข้อหาเสพยาเสพติด จำคุก 2 ปี ต่อเมื่อปี 2560 ลูกชายไปทำงานอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็ถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติด และถูกนำตัวไปเข้ารับการบำบัดที่ 4 เดือน

หลังจากออกมาก็เสพยาต่อเรื่อย ๆ ตนพยายามทำใจมาโดยตลอดว่าลูกชายจะต้องโดนจับเข้าคุกอีก แต่ไม่คิดว่าลูกจะโดนยิงแบบนี้ ยอมรับว่าคลิปเหตุการณ์ที่มีการเผยแพร่ออกไปนั้น ตนทนดูไม่ได้จริง ๆ แอบติดใจอยู่บ้างว่าทำไมตำราจต้องยิงลูกชายตน ทั้งที่ในคลิปลูกชายทำร้ายตำรวจก่อน

ทั้งนี้ เรื่องการประกันตัวลูกชาย ตนคงไม่มีปัญญาหาเงินไปประกัน เพราะลำพังเงินเลี้ยงปากท้อง ตอนนี้ก็ลำบากมากพอแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากที่จะขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โดนลูกชายทำร้าย และขอโทษเจ้าของบ้านที่ลูกชายไปบุกรุก สุดท้ายอยากบอกลูกชายที่อยู่ในเรือนจำว่าหากพ้นโทษออกมาก็ขอให้เลิกเสพยาเสพติด แล้วกลับมาอยู่กับแม่ เพราะแม่ก็ยังคงรักและรอลูกเสมอ

ทีมข่าวอมรินทร์วีเดินทางไปพบกับ นายอาทิตย์ เหมะธุลิน อายุ 37 ปี และนางฐิตินันท์ เหมะธุลิน อายุ 36 ปี ผู้เสียหายที่ถูกขโมยของในบ้านถึง 3 ครั้ง เปิดใจเล่าว่า ครั้งที่ 1 คือ วันที่ 14 มกราคม 2565 เวลาประมาณเที่ยงคืน ขณะที่คุณแม่กลับบ้านและจะเข้านอน ก็เจอไฟแสงสว่างที่ห้องนอนเปิดอยู่ พอเปิดเข้าไปก็พบว่ามีคนนอนอยู่ที่เตียง คือนายวุฒิชัย คุณแม่จึงถามว่าใคร แล้วเขาก็ตอบกลับเป็นภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง คุณแม่ก็เลยวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากเทศบาลนาหว้า ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน ให้ช่วยแจ้งตำรวจ

ต่อมาเวลาประมาณตี 1 คุณแม่กับคุณน้ากำลังจะเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.นาหว้า จ.นครพนม แล้วบังเอิญเห็นนายวุฒิชัยเดินอยู่ข้างทางหน้าร้านค้า แม่กับน้าจึงรีบเดินทางไปแจ้งตำรวจที่ สภ.นาหวัาทันที และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตามหาตัวในคืนนั้น ก็ไปเจอนายวุฒิชัยเดินอยู่หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่ก็จับไม่ได้

หลังจากนั้นอีกเหตุการณ์ในช่วงเช้าของวันที่ 15 มกราคม 2565 คุณแม่กับคุณน้าที่หนีไปนอนกับตนที่บ้านอีกหลัง ก็กลับไปดูที่บ้านเกิดเหตุว่ามีอะไรโดนขโมยไปไหม ก็พบว่าช่วงกลางคืนที่นายวุฒิชัยหนีตำรวจนั้น กลับมาทุบกระจกหน้าบ้าน และเอาน้ำมันมาราดฝาผนังบ้านตรงกระจกที่ทุบด้วย ตนจึงตัดสินใจไปซื้อไฟแสงสว่างมาติดตั้งรอบบ้าน และติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ 1 ตัว จนกระทั่งวันที่ 16 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 22.56 น. กล้องวงจรปิดได้แจ้งเตือนว่ามีการเคลื่อนไหวภายในบ้าน ตนเลยเปิดกล้องดูพบว่ากล้องมีการหมุนเปลี่ยนมุมไปทางฝาผนัง ตนก็เลยหมุนกล้องกลับมาทางเดิมเห็นนายวุฒิชัย

พวกตนยอมรับว่าไม่เคยรู้จักและเห็นหน้ามาก่อน ส่วนตัวคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะปีนหน้าต่างทางหลังบ้านเข้ามา และเข้าไปภายในบ้าน จึงอยากขอบคุณ ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหว้า ทุกนายที่ปฎิบัติงานอย่างหนัก ทุ่มเทในเหตุการณ์ครั้งนี้ จนสามารถตามจับกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทันควัน ขอยกให้เป็นฮีโร่ของครอบครัว