ทหารแสบเช่ารถโผล่ขายพม่า ตชด.ล่าเอาคืน อึ้งคลิปลับซ้อมเหยื่อที่ซื้อ ฟันเงิน 2 ต่อ (คลิป)

19 ม.ค. 65

กรณีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอลงติ๊กต็อก ขณะนั่งเรือข้ามฟากไปยังฝั่งพม่า เพื่อนำรถกระบะ 4 ประตูสีดำ ของตัวเองที่ถูกขโมยไปกลับฝั่งไทย หลังมีคนร้ายเช่ารถกระบะไปขับ แล้วเอาไปขายต่อที่ชายแดนแม่สอด จ.ตาก ก่อนจะส่งต่อไปยังประเทศเมียนมา 

359083

โดยหญิงสาวคนดังกล่าว ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งเมียนมากับ ตชด. ที่ช่วยประสานกับทหารอีกฝั่งเพื่อขอรถกระบะคืน แต่ก็ไม่ได้ข้ามกลับมาอย่างง่าย ๆ เพราะคนที่นำรถมาส่งยังจุดจอด เรียกเงินค่าไถ่จำนวน 430,000 บาท แต่ก็ได้เจรจาต่อรองกันจนเหลือประมาณ 180,000 บาท

924403

ล่าสุดวันที่ 19 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อไปพูดคุยกับ น.ส.ณัฐชา หรือ แอน ผู้เสียหายและเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งรถมีรอยบุบที่กันชนท้ายฝั่งซ้าย เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ม.ค.65 ผู้ก่อเหตุเป็นชาย ทราบชื่อ นายเนติภูมิ ซึ่งเป็นทหารยศสิบเอก ได้เข้ามาติดต่อขอเช่ารถ จึงทำสัญญาเช่า 3 วัน เขาอ้างว่าจะนำไปใช้ขนของในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อไปพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพราะได้เลิกรากับแฟนสาว และต้องการขนของกลับต่างจังหวัด

180672

โดยที่นายเนติภูมิ ได้ยื่นบัตรสำเนาประชาชน สำเนาใบขับขี่ และสำเนาบัตรข้าราชการ ก่อนจะโอนเงินสดจองจำนวน 1,000 บาท กระทั่งวันที่ 9 ม.ค.65 นายเนติภูมิได้จ่ายเงินค่าเช่าทั้งหมด 3 วัน และค่ามัดจำทั้งหมด เป็นเงินจำนวน 10,400 บาท ซึ่งหลังจากที่นายเนติภูมิ รับรถไปแล้ว ตนก็ได้ตรวจสอบ GPS ที่ติดในรถกระบะ ก็พบว่าทางนายเนติภูมิ นำรถไปใช้ตามที่กล่าวอ้างจริง 

973457

จากนั้นช่วงกลางคืนของวันที่ 11 ม.ค.65 นายเนติภูมิ ไลน์เข้ามาหลอกถามตนว่า "ช่วยดู GPS ให้หน่อยว่ารถกระบะไปอยู่ที่ไหน เพราะให้ลูกน้องขับรถไป" ตนจึงตั้งข้อสงสัยว่าเขาต้องการจะเช็กว่ารถตนมี GPS หรือไม่ ตนก็ไม่ได้บอกว่ารถอยู่ไหน แต่แอบไปเปิด GPS ดูก็พบว่ารถไปจอดอยู่ที่เซ็นทรัลศาลายา ซึ่งตนก็โล่งใจว่ารถอยู่ในพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯ ก็ไม่เอะใจอะไร ซึ่งในรถของตนมี GPS 3 ตัว ซ่อนเอาไว้คนละที่

ต่อมาในวันที่ 12 ม.ค.65 ตนได้เช็ก GPS อีกครั้งพบว่า GPS แยกเป็น 2 จุดซึ่งจุดแรก GPS อยู่ที่เซ็นทรัลศาลายา ตนจึงแจ้งความให้ตำรวจช่วย ส่วน GPS อีกตัวกำลังเคลื่อนที่ คาดว่าถูกถอดแต่ถอดไม่หมด กระทั่งวันที่ 13 ม.ค.65 พบว่ารถของตนวิ่งผ่านด่านที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และตนก็ได้จับ GPS ซึ่งในตอนนั้นติดบ้างไม่ติดบ้าง แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ว่ารถของตนกำลังวิ่งไปทาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ตนจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อ.ท่าสองยาง เพื่อติดตามรถกระบะคืน

893048

ในวันที่ 14 ม.ค.65 ตนก็ได้ออกเดินทางไป อ.ท่าสองยาง จ.ตาก แต่พบว่า GPS เด้งขึ้นมาอยู่ที่ฝั่งพม่า มีแม่น้ำคั่นกลาง อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลท่าสองยาง ตนจึงได้ประสานตำรวจให้นำทางไปที่รถซึ่งอยู่ในฝั่งพม่า โดยระหว่างเดินทางมีกลุ่มชนเผ่าแจ้งผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้านว่าพบรถตนแล้ว เมื่อไปถึงเวลา 18.00 น. ตนก็ได้พูดคุยกับคนฝั่งเมียนมา หากตนอยากได้รถคืนต้องจ่ายเงิน 100,000 บาท

158999

“พอเขาเอารถมาให้ เขาไม่เอาแค่ 1 แสนบาท แต่เขาอ้างว่าซื้อมา 4.3 แสนบาท ถ้าไม่มีเงินก็เอารถไปไม่ได้ เลยต่อรองสุดท้าบจบกันที่ 1.8 แสนบาท ส่วนเรื่องคดีที่ไทยก็ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองราชบุรี ตำรวจจะนัดทหารคนนี้ไปสอบปากคำ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งหลังเกิดเรื่องทหารก็ไม่ช่วยตามหารถ โยนความรับผิดชอบไปให้คนขาย จึงอยากฝากเตือนผู้ปล่อยเช่ารถไว้ด้วย" เจ้าของรถกระบะ กล่าวทิ้งท้าย

986458

ทีมข่าวยังได้รับคลิปเสียงสนทนา ระหว่างสามีผู้เสียหาย กับ "น.ส.นิ่ม" สาวทอม อ้างว่าตัวเองเป็นบุคคลที่นำรถไปส่งลูกค้า ระบุว่า ตนรู้จักกับสิบเอกเนติภูมิ เรื่องนี้เป็นขบวนการตบทรัพย์ ซึ่งจะมีการทำทีว่าจะขายรถให้ชาวเมียนมา และจะมีการนัดหมายส่งรถ และจัดทีมกระทืบชาวเมียนมาที่ซื้อรถ เพื่อตบเอาทรัพย์ แต่ในวันเกิดเหตุชาวเมียนมาไม่มาตามนัด ทำให้ไม่ได้เงิน โดยขบวนการนี้ประกอบด้วย นางมด นายโก๊ะ สิบเอกเนติภูมิ และลูกน้องอีก 1 คน โดยโก๊ะ เริ่มความคิดว่าจะนำรถเช่าไปจำนำหรือขายเพื่อให้ได้เงินเพิ่ม และยังวางแผนจะแจ้งเจ้าของรถให้มาตามรถ เพราะคิดว่าสามารถตามคืนได้จากจีพีเอส

494541

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพูดคุยกับหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 344 ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ในเบื้องต้นได้รับการประสานมาจากเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 (ฉก.ร.14) ว่ามีผู้เสียหายแจ้งติดตามหารถกระบะสูญหาย ทราบจากจีพีเอสว่ามีการเคลื่อนย้ายข้ามฝั่งไปประเทศเมียนมา จุดตรงข้ามตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของตน จึงมีการประสานไปยังเจ้าของรถหรือผู้เสียหาย ในช่วงวันที่ 14 มกราคม 65

688817

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แกะรอยตามจีพีเอส จากเดิมที่รถอยู่ในพื้นที่ตรงข้ามตำบลแม่ต้าน ก่อนจะพบว่ามีการเคลื่อนย้ายรถลงไปทางแถวเมียวดี ติดกับอำเภอแม่สอด เจ้าหน้าที่ตชด.344 จึงตัดสินใจประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝั่งเมียนมา จนได้ข้อสรุปว่าคนที่ซื้อรถต่อยอมคืนรถให้ แต่ขอแลกกับเงินจำนวน 100,000 บาท พร้อมนัดเจอกันเวลา 20.00 น. บริเวณฝั่งเมียนมา จุดตรงข้ามตำบลแม่ต้าน เพื่อขอรับรถคืน

489246

แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย อีกฝ่ายกลับขอเลื่อนคืนรถเป็นวันวันที่ 15 มกราคม 65 ช่วงเวลา 14.00 น. ที่ฝั่งเมียนมา โดยประสานผ่านเจ้าหน้าที่ของอีกฝั่งเป็นคนกลาง สุดท้ายจะขอเพิ่มเงินจาก 100,000 บาท เป็น 430,000 บาท จนได้ข้อสรุปที่ 180,000 บาท เจ้าของรถก็ได้นำทองไปขายแลกเป็นเงิน ก่อนจะส่งมอบรถคืนตามที่เจ้าของรถคนไทยโพสต์คลิปไว้ 

335837

"ผมยอมรับว่าเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง บางครั้งก็ตามกลับมาได้ บางครั้งก็ไม่ได้ ซึ่งแต่ก่อนอาจจะน้อยกว่านี้ แต่ตอนนี้เริ่มกลับมาเยอะกว่าเดิม ส่วนใหญ่เป็นรถกระบะยกสูง ขณะที่การลักลอบนำรถไปขายนั้น อาจจะเป็นการลักลอบผ่านเส้นทางธรรมชาติ หรือจุดผ่านที่อยู่นอกเหนือการควบคุม" เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เผยให้ฟัง

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส