วันที่ 26 ธ.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนัสนิคม เดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลทุ่งขวาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีการยิงควายตาย เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบว่า ควายเพศเมียอายุ 4 ปี นอนตาย และยังพบควายอีก 2 ตัว อายุประมาณ 7 ปี ถูกยิงที่ขาหน้าบาดเจ็บ นอกจากนี้พบปลอกกระสุนจำนวน 4 ปลอก โดยมี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ยืนรอมอบตัว พร้อมอาวุธปืน 9 มม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการควบคุมตัวไปสอบสวน
จากที่สอบถาม
นายเอ ผู้ก่อเหตุ เผยว่า ตนบันดาลโทสะเนื่องจากถูกควายบุกรุกเข้ามาในที่ดิน ทำให้พืชผลการเกษตรได้รับความเสียหาย โดยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งตนยังมีค้างคาใจกับคนเลี้ยงควายมาเป็น 10 ปี เนื่องจากสุนัขของคนเลี้ยงควายเข้าไปกัดไก่เป็ดของตนอีกด้วย
โดยก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 วัน ควายของคนเลี้ยงควายก็ได้เข้าไปเหยียบพืชผลภายในที่ดินของตน กระทั่งต้องตามให้คนเลี้ยงควายมาไล่ กระทั่งครั้งนี้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดิมขึ้นอีก ตนจึงก่อเหตุดังกล่าว
นายเอ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวไม่เพียงสร้างความรำคาญ แต่เป็นการสร้างความเสียหายด้วย หากใครไม่เจอกับตัวก็คงจะไม่รู้สึก ส่วนเรื่องนี้ใครจะคิดอย่างไร ตนก็สุดจะห้ามได้
ด้าน
นายสมนึก คำบุปผา อายุ 61 ปี คนเลี้ยงควาย เผยว่า ควายที่ตายเป็นของผู้จ้างเลี้ยงคือ นายธาดา แก่นแสง อายุ 44 ปี ซึ่งระหว่างเกิดเหตุ ตนออกไปซื้อน้ำดื่ม และไม่คิดว่าควายจะเข้าไปรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของนายเอ
นายสมนึก กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าทำเกินกว่าเหตุ เพราะแค่ส่งเสียงไล่ควายก็ไปแล้ว ตนจะขอเอาเรื่องเรียกค่าเสียหายให้ถึงที่สุด เนื่องจากควายตัวดังกล่าวมีราคากว่า 3 หมื่นบาท อีกทั้งควายที่เจ็บอีก 2 ตัว ก็คงไม่สามารถเลี้ยงต่อไปได้และต้องขาย
ทาง
พ.ต.ท.ธัชญ์ศักดิ์ จีรัฐติกุล พนักงานสอบสวน สภ.พนัสนิคม กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาแก่นายเอ คือ มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ใช้อาวุธปืนยิงในที่สาธารณะทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และทารุณกรรมสัตว์สัตว์ที่สำหรับใช้การเกษตร