จากกรณีโซเชียลแชร์คลิปการสนทนาระหว่างหญิงสูงวัยรายหนึ่ง ทราบชื่อ ป้ารัตนา กับ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา กำลังสนทนาดูดวงกัน ซี่งหลายคนต่างประหลาดใจ เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหมอปลามักจะบอกเสมอว่าไม่ส่งเสริมให้คนดูดวงหรือเชื่อหมอดูนั้น โดยป้ารัตนามีวลีติดปากว่า "ให้พระลงโทษไอ้เ-ี้ยนี่อย่างหนัก, มาโนชมาแล้ว, มีคนมากวักมือเรียกหน้าบ้านเต็มเลย"
นายจีรพันธ์ เพชรขาว หมอปลา บอกว่า จากการลงคลิปในยูทูบเกี่ยวกับป้ารัตนานั้น ส่วนใหญ่เป็นกระแสดี คนชื่นชอบในความน่ารักของป้ารัตนาเยอะมาก ซึ่งปัจจุบันป้ารัตนาอาการดีขึ้นมาก ต่างจากเมื่อก่อน หลังป้ารัตนามีภาพฝังใจจากการเห็นสามีถูกมีดแทงปากบาดเจ็บ ทำให้ป้าตกใจกลัวจนเกิดภาวะซึมเศร้า แล้วทางสามีกับลูกสาวแท้ ๆ ก็ไม่เคยสนใจใยดี จนหลานสาวต้องมาขอให้หมอปลาช่วยเหลือ ในอดีตนั้นป้ารัตนาเป็นคนเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดจากับใคร มีอาการเหม่อลอย และไม่โต้ตอบกับใคร
ตลอดระยะเวลาที่ตนดูแลป้ารัตนามา ก็พยายามพูดหยอกล้อให้ป้ารัตนาโต้ตอบกับผู้คนเป็นประจำ ซึ่งในปัจจุบันป้าก็ตอบโต้กับคนอื่นได้ดีมากยิ่งขึ้น และป้ารัตนาเป็นอีกคนที่หมอปลาถูกด่าแล้วไม่เคยโกรธ ภายหลังมีการลงคลิปในยูทูบ ก็มีคนชื่นชอบป้าเยอะมากขึ้น มากไปกว่านั้นเจตนาของตนต้องการกดดันให้นายเปีย ซึ่งเป็นสามี และลูกแท้ ๆ ของป้ารัตนาสนใจบ้าง เพราะที่ผ่านมาเวลาหลานมาเยี่ยม ป้ารัตนาจะถามหาคนที่ชื่อเปียทุกครั้ง และป้าก็ไม่เคยด่าคนชื่อเปียให้ได้ยินเลย
ตนจึงอยากฝากไปถึงนายเปีย ซึ่งเป็นสามี แม้ว่าจะไม่ได้รักป้ารัตนาแล้ว ก็อยากให้มาเยี่ยม มาสนใจดูแลกันบ้าง เพราะตนเชื่อว่า ความรักและความอบอุ่นของนายเปียจะช่วยให้ป้ารัตนาหายขาดได้ ส่วนการลงคอนเทนต์ในยูทูบ ยืนยันว่าจะมีต่อไป และจะให้คนเห็นมุมน่ารักของป้ารัตนาด้วย ซึ่งในเรื่องของความเหมาะสม ทางด้านหลานสาวแท้ ๆ ที่ดูแลป้ารัตนาอนุญาตแล้ว
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) มองว่า การอัดคลิปสัมภาษณ์ผู้ป่วยที่มีอาการทางด้านจิตเวช ในทางการแพทย์ ถือเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่ละเอียดอ่อนมาก โดยทั่วไปแล้ว การจะถ่ายคลิปผู้ป่วย ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีสติสัมปชัญญะไม่ครบถ้วน ต้องให้ญาติสายตรงพิจารณาให้ความยินยอม
นอกเหนือจากทางการแพทย์เป็นบุคคลทั่วไป คงต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมเป็นหลัก ต้องไม่ทำให้ผู้ป่วยอับอาย หรือเสื่อมเสียชื่อเสียง ที่สำคัญการพูดคุยต้องเป็นในลักษณะการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ป่วยเป็นหลัก ต้องไม่ยั่วยุให้เกิดอารมณ์โกรธ หรือเครียด อาจส่งผลกระทบกับจิตใจผู้ป่วย จนทำให้อาการกำเริบขึ้นมาได้
สำหรับกรณีของหมอปลา คิดว่าน่าจะทราบดีอยู่แล้วในการพูดคุยกับผู้ป่วยทางด้านจิตเวช จึงอยากจะฝากถึงผู้ที่ดูแลหรือผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วยจิตเวช ต้องระมัดระวังในการพูดคุยกับผู้ป่วย หลีกเลี่ยงคำพูดที่ไปกระทบผู้ป่วยโดยตรง จะทำให้เกิดความเครียดหรือมีอารมณ์โมโห จะทำให้อาการผู้ป่วยแย่ลง
