ขึ้นศาลทหาร! รวบร้อยตรีมือแทงพันเอก ฉุนเตะเก้าอี้ ชายเสื้อแดงโต้ครหาพาหนี (คลิป)

เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค. 2565 บริเวณลานเบียร์ประตูกรุงเทพ เขตสายไหม กทม. มีเหตุทหารถูกแทงที่ด้านหลังหลายแผล นอนจมกองเลือดร้องให้คนช่วย ต่อมามีพลเมืองดีนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุใช้ช่วงชุลมุนหลบหนีไปต่อมาผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ทราบชื่อคือ พันเอกอรรถกร ปรักเอโก หรือ ป๊อก อายุ 49 ปี อดีตทหารบก

วันที่ 12 ม.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ไปยัง สน.สายไหม พลตำรวจตรีอรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ล่าสุดตัวผู้ก่อเหตุได้มีการติดต่อประสานมาทางตำรวจชุดสืบสวน เวลาประมาณ 03.00 น. เพื่อขอมอบตัวตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปรับตัวผู้ก่อเหตุที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านบางโพทันที เมื่อตำรวจไปรับตัวมายังโรงพัก สน.สายไหม ผู้ก่อเหตุก็อยู่ในอาการสำนึกผิด มีอาการเครียด เบื้องต้นให้การยอมรับทุกข้อกล่าวหา ให้การเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน

จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุทราบว่า พันเอกอรรถกร ผู้เสียชีวิต และคนก่อเหตุไม่เคยรู้จักกันมาก่อน วันเกิดเหตุเป็นการทะเลาะวิวาทกันซึ่งหน้า ทั้งคู่ต่างดื่มสุรากันมาก่อนแล้ว อีกทั้งพันเอกอรรถกรเตะเก้าอี้ในที่เกิดเหตุ และมีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุจึงได้นำอาวุธมีดที่พกมาด้วยแทงพันเอกอรรถกร เพราะบันดาลโทสะ โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาตำรวจได้พาตัวผู้ก่อเหตุไปหาอาวุธมีด และเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม ได้นำตัวไปเอามีดของกลาง และเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พร้อมทั้งเชื่อว่าทางตำรวจมีพยานหลักฐานทั้งคลิป กล้องวงจรปิด พยานบุคคลที่จะสามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน

ส่วนประเด็นผู้ก่อเหตุเป็นคนมีสีหรือไม่ ยืนยันว่าเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป ไม่ขอตอบว่าอยู่ในวงการคนมีสีหรือไม่ ขอให้ข้อเท็จจริงอยู่ในสำนวน อีกทั้งยังไม่ขอให้รายละเอียดว่ามีการส่งมอบตัวให้นายทหารพระธรรมนูญตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ เพราะตำรวจจะขอมุ่งเน้นการทำคดี และยืนยันว่าจะทำอย่างตรงไปตรงมา เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ ก่อนคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าวเป็นทหารสังกัดกองทัพบก อายุประมาณ 40 ปี ตำรวจสามารถไปจับกุมตัวได้เมื่อคืนนี้ที่บ้านพักย่านบางโพ หลังแจ้งข้อกล่าวหา ได้มีการนัดหมายไปส่งฟ้องศาลทหาร และตัวของผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ที่ สน.สายไหม แล้ว

นายเอ (นามสมมติ) คนที่เข้าไประงับเหตุ เปิดใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้รู้จักกับใครเป็นการส่วนตัว เป็นแค่พลเมืองดีที่ไม่อยากให้มีการทะเลาะวิวาทกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเห็นว่าพันเอกอรรถกรมีการเตะเก้าอี้เสียงดัง ร.ต.ไตรทิตย์ ผู้ก่อเหตุ ก็กำลังนั่งดื่มกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ามีความสัมพันธ์อะไรกัน โดยออกมามีปากเสียงกัน จังหวะนั้นตนเห็นทั้ง 2 คนต่อยกัน จึงเข้าไปช่วยห้าม

ซึ่งในคลิปหลายคนจะเห็นว่าตนห้ามฝั่ง ร.ต.ไตรทิตย์ ผู้ก่อเหตุได้ เพราะก่อนที่พันเอกอรรถกรจะวนมาอีกรอบ ตนได้มีการเข้าไปห้ามให้ ร.ต.ไตรทิตย์ ผู้ก่อเหตุใจเย็น ให้นึกถึงครอบครัวไว้เยอะ ๆ สอบถามเบื้องต้นจึงทราบว่าเป็นทหารบก ซึ่งมีหลายคอมเมนต์ และการลงข่าวของสื่อมวลชน เข้าใจผิดว่าตนเป็นเพื่อนกับผู้ก่อเหตุ ขอแสดงความบริสุทธิ์ใจผ่านอมรินทร์ ทีวี ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งตนก็ไปเที่ยวเล่นที่ตลาดบ่อย ไม่เคยเจอทั้ง 2 คนที่ตลาดมาก่อน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้เป็นคนโทรตาม แต่ตนเลือกที่จะติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการให้ปากคำด้วยตนเอง ซึ่งก็มีการให้ปากคำกับท่านผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 จนเข้าใจดีแล้ว ส่วนที่ต้องหลบสื่อเมื่อวานที่ผ่านมา เพราะกลัวว่าจะมีปัญหากับต้นสังกัด โดยไม่ขอออกความเห็นว่าใครเป็นคนผิด แต่เจตนาของตน ต้องการเป็นพลเมืองดีช่วยระงับเหตุเท่านั้น หลังทราบข่าวพันเอกอรรถกรเสียชีวิต ตนก็ขอแสดงความเสียใจด้วย

เพื่อนของ ร.ต.ไตรทิตย์ ศรีสูงเนิน ผู้ก่อเหตุ บอกว่า อุปนิสัยของ ร.ต.ไตรทิตย์ เป็นคนดีมาก ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน และชอบสะสมมีดเก่า เสื้อผ้าเก่า ๆ ของวินเทจต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนหรือทะเลาะวิวาทกับใคร ตอนทราบข่าวก็รู้สึกตกใจ เพราะหลังเกิดเหตุ ร.ต.ไตรทิตย์ กลับมาจนกระทั่งตำรวจมารับตัวไปเมื่อคืนที่ผ่านมา สีหน้าแววตาก็ดูเครียดวิตกกังวล ส่วนตัวเชื่อว่า ร.ต.ไตรทิตย์ไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ อาจจะเพราะความเมาและบันดาลโทสะ ซึ่งเท่าที่ทราบก็แทง 3 แผล ส่วนผู้ใหญ่เองก็ไม่ได้เข้าข้างคนผิด ไม่มีการช่วยเหลือใด ๆ ผิดให้ว่าไปตามกฎหมาย ส่วนทางครอบครัวจะไปประกันตัวในชั้นศาลทหารหรือไม่นั้น เป็นสิทธิ์ของทางครอบครัว

นางเรือนใจ (นามสมมติ) เพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุย่านบางโพ บอกว่า ปกติ ร.ต.ไตรทิตย์ ผู้ก่อเหตุ เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดจากกับใครเท่าไรนัก ตอนที่อาศัยอยู่แฟลตทหารเหมือนกันก็เจอกันบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่ก็จะทักทาย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ แต่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันมาก เห็นกันล่าสุดก็เมื่อปีที่แล้ว จากนั้นก็ไม่ค่อยได้เห็นหน้า จะเห็นก็ต่อเมื่อ ร.ต.ไตรทิตย์ มาทำงาน ซึ่งก็จะเห็นชอบใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ สไตล์วินเทจแบบที่เด็กวัยรุ่นชอบใส่กัน ส่วนลูกเมียก็ยังไม่เคยพามาที่แฟลตทหาร

ตนได้ติดตามข่าวเหตุแทงพันเอกดับที่ตลาดย่านสายไหม แต่ก็ดูไม่ชัดว่าคือใคร พอทราบว่าเป็น ร.ต.ไตรทิตย์ ตนก็รู้สึกตกใจไม่คิดว่าจะกล้าก่อเหตุ เพราะเจ้าตัวไม่ใช่คนจิตใจโหดร้าย แต่ก็คาดสาเหตุอาจจะเพราะดื่มสุรา เลยทำอะไรที่ขาดสติลงไป