พ่อ “เบนซ์” ทืบยายดับ ขอโทษสังคม ยันลากร่าง หวังหาคนช่วย - ลูกเหยื่อร่ำไห้ แค้นอยากฆ่า (คลิป)

วันที่ 20 ธ.ค.61 ความคืบหน้ากรณีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น จับกุมตัวนายธนพล หรือ เบนซ์ เทพารักษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย หลังก่อเหตุก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางวนิดา แพรนุ่น หรือ ติ๋ม อายุ 60 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดขึ้นเมื่อ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา

โดยนายเบนซ์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือตบหน้ายายติ๋ม ตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดจริง  ส่วนสาเหตุที่นำมาสู่การทะเลาะวิวาท เนื่องจากผู้ตายได้ไปกู้ยืมเงินมา โดยให้ยายของตนเองเป็นผู้ค้ำประกันให้ แต่ผู้ตายกลับไม่ยอมชดใช้หนี้ให้เจ้าหนี้ จนทำให้เจ้าหนี้ตามมาทวงถามเงินจากยายของตนเองที่เป็นคนค้ำประกันให้ ในวันเกิดเหตุตนได้ทวงถามกับผู้ตาย แต่ถูกบ่ายเบี่ยงทำให้เกิดอารมณ์โมโห จึงบันดาลโทสะทำร้ายด้วยการตบหน้า 1 ครั้ง

หลังจากที่ตนเองและยายวัย 60 ปี เดินเข้าไปในซอย ยอมรับว่าได้ผลักยายติ๋มจนล้มลงกระแทกกับขอบปูน ซึ่งไม่ได้ทุบตีทำร้ายร่างกาย หรือเจตนาจะทำให้เสียชีวิต และตนก็ไม่ได้นำทรัพย์สินใด ๆ ของยายติ๋มไป หลังจากทราบว่ายายติ๋มเสียชีวิต ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (อ่าน : “เบนซ์ เทพารักษ์” เสียใจยายวัย 60 ดับ อ้างแค่ตบและผลักล้ม ไม่ได้ทุบตีจนตาย)

ด้าน พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า นายเบนซ์เคยมีประวัติเรื่องการกรรโชกทรัพย์ ลักขโมย และทำร้ายร่างกาย แต่ยังไม่พบข้อมูลในคดียาเสพติด ส่วนเรื่องของการต้องคดีของนายเบนซ์ ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีคดีจำนวนมาก แต่ยืนยันว่าทุกครั้งที่ผู้ต้องหากระทำผิด เจ้าหน้าที่มีการดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมายอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา ไม่ได้ปล่อยปละละเลย

ขณะที่ นายศักดิ์ชัย เคนคำพา พ่อนายเบนซ์ ยอมรับว่าเสียใจที่ลูกกระทำแบบนี้ แต่ตนก็ไม่คิดทอดทิ้งลูก ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวลูกชายได้ จากนี้ลูกชายเองก็ต้องยอมรับในสิ่งที่กระทำลงไป ส่วนเรื่องคดีความ ตนคงไม่สู้คดี และไม่ประกันตัวลูกชาย แต่อาจจะซื้อของไปเยี่ยมขณะถูกควบคุมตัว เพราะคู่กรณีก็เสียชีวิตลงแล้ว ขอให้เป็นไปตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ก่อนหน้านี้ ตนไม่ทราบว่าลูกหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเพื่อน ซึ่งแม้ตนและครอบครัวจะถูกสังคมมองไม่ดี แต่ก็อยากบอกสังคมว่าตนและคนอื่นในครอบครัวไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งนี้ ตนต้องขอโทษสังคมแทนลูกชาย และต้องการขอโทษญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ขณะนี้ยังไม่มีโอกาสเจอกัน ประกอบตนกับไม่กล้าไปคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย อย่างไรก็ตาม หลังงานฌาปณกิจเสร็จ ตนจะติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตไปอย่างแน่นอน

ด้าน นางสุนทรี สาคร ชาวบ้านในชุมชนเทพารักษ์ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ผู้กระทำผิดถูกจับกุมตัวไปลงโทษได้ คนที่ผิดก็สมควรถูกลงโทษ แต่ตนรู้สึกกังวลว่า หากนายเบนซ์พ้นโทษออกมาแล้วจะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้หรือไม่ เพราะจากที่ตนสังเกต ก็ไม่เห็นว่านายเบนซ์รู้สึกสะทกสะท้านอะไร กลับดูเฉยชา จึงต้องการบอกนายเบนซ์ว่า "สิ่งที่สิ่งที่นายเบนซ์ทำนั้นรุนแรงเกินไป อย่างน้อยก็ควรต้องมีจิตสำนึกบ้าง ยายติ๋มอยู่ที่ชุมชนมาตั้งแต่นายเบนซ์ยังไม่เกิด สิ่งที่นายเบนซ์กระทำนั้น มนุษย์เขาไม่ทำกัน"

ขณะที่บรรยากาศที่วัดคำมูลบ้านคำแคนใต้ ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น สถานที่จัดงานฌาปณกิจศพของนางวนิดา แพรนุ่น หรือ ติ๋ม อายุ 60 ปี ลูก ๆ ครอบครัว และญาติสนิท เดินทางมาร่วมงานด้วยบรรยากาศโศกเศร้า

โดยขณะที่วางดอกไม้จันทน์เสร็จแล้ว นางสาวจารุรัตน์ ธนะสูติ ผู้เป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิต ร้องไห้ด้วยความเสียใจ

นางสาวจารุรัตน์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า วันนี้ตนยังยอมรับและทำใจไม่ได้กับการจากไปของผู้เป็นแม่ และรู้สึกเสียใจที่แม่จากไปแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนแรกคิดว่าจะทำใจได้ แต่กลับทำใจไม่ได้ วันนี้ตนจัดงานฌาปณกิจศพ พร้อมนำเสื้อผ้า ที่นอน ของใช้ส่วนตัวเผาไปให้แม่พร้อมกับพิธีฌาปณกิจศพด้วย

ทั้งนี้ หากครอบครัวของเบนซ์ติดต่อเข้ามาพูดคุยหรือขอโทษ ตนจะไม่ขอพูดอะไรด้วย และยืนยันว่าจะไม่ให้อภัยเด็ดขาด และไม่ขออโหสิหรรมให้ จะปล่อยให้ได้รับโทษทางกฎหมาย และได้รับกรรมที่ทำลงไป ทั้งยังบอกว่าหากตนเป็นผู้ชาย ก็คงจะกระทำกับนายเบนซ์คืนกลับไป เหมือนอย่างที่นายเบนซ์กระทำกับแม่ของตน