“เลือกเอาจะตายแบบไหน” คุณย่าวัย 74 ปีถึงกับอาการทรุด หลังหมอสาวถามเสียงแข็ง! รพ.สิงห์บุรีส่งแค่ตัวแทนขอโทษครอบครัว (คลิป)

30 ธ.ค. 64

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Ploy Pinpinat" โพสต์เรื่องราวว่า ก่อนหน้านี้ได้พาย่า ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี ตามที่ได้นัดหมาย แต่แพทย์ไม่ได้ออกมาดูอาการของคนไข้ด้วยตัวเอง แต่เจ้าหน้าที่นำค่าผลการตรวจเลือดไปตรวจ จากนั้นก็แจ้งว่า ค่าเลือดต่ำลงจาก 28.7 เหลือ 24.5 สาเหตุเนื่องมาจากการฉีดยาละลายลิ่มเลือด

3_1

ทั้งนี้ แพทย์ผู้ตรวจสอบถามกับญาติ ๆ ว่า จะให้แพทย์ทำอย่างไร จะหยุดฉีดยาหรือให้ฉีดยาเหมือนเดิม เนื่องจากหากหยุดฉีดยา ปอดของผู้ป่วยก็จะไม่สามารถทำงานได้ แต่หากฉีดยาเลือดก็จะจาง ญาติจึงสอบถามและขอปรึกษาแพทย์ แต่แพทย์ผู้รักษากลับตอบว่า "ไม่ต้องมาปรึกษา ไม่รับคำปรึกษา ไปตัดสินใจเอาเลยว่าจะเอาอย่างไร เลือกเอาเลยว่าจะเสียชีวิตด้วยวิธีไหน" ซึ่งจากคำพูดของแพทย์หญิงท่านดังกล่าว ทำให้ผู้ป่วยมีสีหน้าซึมเศร้าและอาการทรุดลงทันที 

5_1

ล่าสุดวันที่ 30 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง ตำบลโพธิ์ชัย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี จึงพบกับนางสาวปิ่นปินัทธ์ โล่อนันต์ หรือ พลอย อายุ 32 ปี หลานสาว เล่าให้ฟังว่า ย่าของตนอายุ 74 ปี มีลูกชาย 2 คน กระทั่งย่าเกิดอาการเครียดและล้มป่วย เพราะเส้นโลหิตในสมองแตก ญาติ ๆ ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน หลังการผ่าตัดย่ารับการรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU นานนับเดือน โดยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดแจ้งว่าอาการจะดีขึ้น  แต่ต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือน

จากนั้นญาติ ๆ ก็นำย่ากลับมาทำการรักษาตัวและพักฟื้นอยู่ที่บ้านในจังหวัดสิงห์บุรี ทั้งทำกายภาพบำบัด และชักชวนพูดคุย  ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน อาการของย่าก็ดีขึ้น สามารถรับรู้ และตอบโต้ได้เป็นบางครั้ง เคลื่อนไหวร่างกายและส่งสัญญาณได้ตามคำสั่ง ทำให้ญาติๆมีกำลังใจที่ดีขึ้น

1

กระทั่งวันที่ 28 ธันวาคม 64 ที่ผ่านมา แพทย์หญิงคนดังกล่าวใช้คำพูดที่ว่าให้เลือกเอาว่าจะเสียชีวิตด้วยวิธีไหน จึงทำให้ย่ามีอาการทรุดหนัก และรับไม่ได้ ต่อมาวันที่ 29 ธันวาคม 64 โรงพยาบาลสิงห์บุรีได้ส่งตัวแทนเข้ามาเยี่ยมและขอโทษ แต่ตนไม่พอใจ เนื่องจากทีมที่เดินทางมาไม่ใช่แพทย์หญิงคู่กรณี จึงอยากให้แพทย์หญิงคนดังกล่าวออกมาขอโทษกับคำพูดของตัวเอง และวันนี้ตนจะเดินทางไปขอพบผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี เพื่อขอความชัดเจนกับกรณีดังกล่าว 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส