กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทภายในซอยบ้านสวน–ธีระบัณฑิต 6 หมู่ 5 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสืบสวนและกู้ภัยไตรคุณธรรม พบว่าที่หน้าห้องเช่าเลขที่ 403/552 ร่างนายพรชัย นิพลรัมย์ อายุ 36 ปี นอนดิ้นใบหน้าฟกช้ำ ที่โคนขาขวามีรอยถูกของมีคมฟันยาวประมาณ 5 นิ้ว เป็นแผลลึกถึงกระดูก และนายพรชัย ก็หมดสติ
ทั้งนี้ กู้ภัยต้องเรียกพยาบาลกู้ชีพ รพ.ชลบุรี มาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะรีบนำตัวส่งรพ.ชลบุรี และในที่เกิดเหตุยังมีรอยเลือดกองอยู่ มีเหล็กหักที่พื้นห่างไปหน้าห้องเลขที่ 403/40 มีโต๊ะนั่ง ขวดเบียร์วางบนโต๊ะและมีโทรศัพท์ที่พยานระบุว่าเป็นของผู้ก่อเหตุ ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุดวันที่ 26 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ภายในซอยบ้านสวน–ธีระบัณฑิต 6 หมู่ 5 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ยังพบว่ามีรอยเลือดเลอะอยู่บริเวณพื้นถนน
ทีมข่าวสอบถามนางสาวลัดดา แป้นงาม อายุ 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.64) ช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 22.00 น. กลุ่มเด็กวัยรุ่นท้ายซอยรวมกลุ่มกันเป็นประจำ ส่วนนายพรชัย นิพลรัมย์ อายุ 36 ปี ผู้บาดเจ็บ ก็นั่งดื่มสุรากับญาติ ๆ อยู่หน้าบ้าน แล้วนายเจมส์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นก็วิ่งถือมีดไปฟันนายพรชัย จนชาวบ้านหลายคนเข้าไปช่วยกันห้าม สุดท้ายคนก่อเหตุก็หนีไป ส่วนคนเจ็บ ลูกชายตนโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับตัวไปโรงพยาบาล
สำหรับสาเหตุ ตนคาดว่าน่าจะเกิดจากเมื่อ 2 วันก่อน (23 ธ.ค.64) นายพรชัยได้พูดตักเตือนวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวว่า เวลาขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้าซอยให้ขับช้า ๆ เนื่องจากในบ้านมีเด็กเล็ก ซึ่งดูเหมือนว่าจะเคลียร์กันจบแล้ว แต่กลุ่มวัยรุ่นคงไม่อยากจะจบจึงมาก่อเหตุดังกล่าว ตนมองว่ากลุ่มวัยรุ่นขี่เร็วจริง ๆ เพราะสุนัขที่ตนเลี้ยงก็ตกใจเสียงท่อดังและส่งเสียงเห่าประจำ ๆ ผู้ก่อเหตุทำเกินไป ผู้บาดเจ็บเตือนด้วยความหวังดี เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่กว่า ก็ไม่น่าจะต้องทำกันรุนแรงถึงขนาดนี้ นายพรชัยก็เป็นคนดี ไม่ใช่คนชอบหาเรื่อง ตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนก่อเหตุได้ไว ๆ
ขณะเดียวกันทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับนางจันทิมา นิพลรัมย์ อายุ 40 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า ช่วงเย็นของวันที่ 23 ธ.ค.64 นายพรชัย ซึ่งเป็นสามีของตนไปตักเตือนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มท้ายซอย เรื่องของการขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้าออกซอย เนื่องจากในซอยบ้านมีเด็ก แล้วบ้านตนก็มีลูกชายวัย 4 ขวบ ซึ่งมีพัฒนาการช้า แต่วัยรุ่นกลับไม่พอใจ สามีก็พยายามเจรจาจบกันด้วยดี
จากนั้นประมาณ 20.00 น. นายพรชัย ออกไปเดินเล่นในซอย ปรากฎว่ามีเตาถ่านของกลุ่มวัยรุ่นที่ต้มใบกระท่อมดื่มกัน วางอยู่หน้าบ้าน แล้วถ่านไฟจะดับ ในขณะนั้นมีหลอดพลาสนติกอยู่ 2-3 อัน สามีตนจึงเอาใส่เตาถ่านเพื่อเลี้ยงไฟ แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจด่าสามีตนว่า “มึงเอาหลอดกูไปเผาทำไม” ด้านสามีก็ตอบโต้ไปว่า “ทำไมจะเผาไม่ได้ ก็เห็นไฟมันจะดับ ไม่รู้ว่าจะใช้” แล้วก็มีปากเสียงในเชิงท้าทายกัน ซึ่งสามีตนมีมีดสั้นที่พกไว้ที่เอว แต่ยังไม่ได้ชักออกมา เกือบจะมีเรื่องปะทะกัน สามีของตนจึงเป็นฝ่ายขอโทษ ส่วนฝั่งผู้ก่อเหตุก็ขอโทษเหมือนกัน และก็ดูเหมือนว่าจะเข้าใจง่าย ๆ
กระทั่งวันเกิดเหตุ (25 ธ.ค.64) ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. สามีตนนั่งกินข้าวกับญาติ ๆ เห็นนายเจมส์ ใช้มีดฟันที่ประตูบ้าน ทำให้สามีตนตะโกนและกำลังเดินไปถาม แต่ถูกนายเจมส์ วิ่งถือมีดมาฟัน ขณะนั้นตนกับลูกชายก็อยู่ด้วย ตกใจรีบวิ่งเข้าไปห้าม ญาติของผู้ก่อเหตุและชาวบ้านก็ออกมาช่วนกันจับแยก แต่ตอนนั้นสามีตนถูกฟันที่น่องขาขวาเห็นกระดูกได้รับบาดเจ็บสาหัส นายเจมส์อ้างว่าวันที่ 23 ธ.ค.64 สามีตนไปท้าทายและจะชักมีดแทงก่อน ซึ่งตนยืนยันว่าสามีไม่ได้ชักมีดและมองว่านายเจมส์ทำเกินกว่าเหตุ
"ตอนทำปฐมพยาบาล สามีก็มีอาการหอบชัก เพราะเป็นโรคประจำตัว อาการบาดเจ็บเบื้องต้นหมอแจ้งว่าปลอดภัยแล้ว แต่ห้ามใครเข้าเยี่ยม ให้สอบถามพูดคุยผ่านโทรศัพท์ได้เท่านั้น ตอนนี้ก็รู้สึกใจสามีเป็นเสาหลักของบ้าน ถ้าไม่มีสามีก็ไม่มีรายได้ เนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกที่พัฒนาการช้า และอยากให้ตำรวจจับคนก่อเหตุไปรับโทษให้ได้" นางจันทิมา ภรรยาผู้บาดเจ็บ กล่าว
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับนายชัยพร แซ่เจียม อายุ 55 ปี ญาติผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายเจมส์ ไปมีปัญหาอะไรกับนายพรชัย ทราบแค่เรื่องมีการมาตักเตือนการขี่รถมอเตอร์ไซค์ แต่ส่วนตัวก็มองว่าทางเข้าซอยมันเป็นเนินลงเล็กน้อย ก็เลยอาจจะดูว่าขี่เร็ว ซึ่งความเป็นจริงก็ไม่ได้เร็วขณะนั้น ปกติแล้วนายเจมส์ ก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่
"วันเกิดเหตุ นายเจมส์ถือมีดเข้าไปฟันประตูบ้านเขา และพุ่งไปทางนายพรชัย แม้จะมีแม่ของนายเจมส์ช่วยห้ามกัน แต่ก็ไม่ทันเพราะนายพรชัยถูกฟันไปแล้ว ส่วนตัวไม่เข้าข้างคนผิด ใครทำผิดให้ว่าไปตามกฎหมาย ซึ่งผมไม่ได้กังวลใจอะไร ตอนนี้ติดต่อใครไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน" ญาติผู้ก่อเหตุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ไชยกฤต โชติพิริยะโภคิน รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเก็บข้อมูลและหาเบาะแสของคนก่อเหตุ ในขณะที่ผู้บาดเจ็บยังคงรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล ซึ่งตำรวจก็ยังไม่สามารถไปเยี่ยมได้ แต่ตำรวจก็กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมสอบปากคำพยานแวดล้อม เบื้องต้นยังไม่ได้เรียกสอบ แต่มีโทรศัพท์ของคนก่อเหตุตกในที่เกิดเหตุ
