เมียโชเฟอร์รถตู้ ช็อก! ผัวไร้อริถูกยิงตาย คาดฝีมือแว้น - เพื่อนเป็นพยาน โต้ปมยาเสพติด (คลิป)

จากกรณีนายสิทธิชัย ชอบธรรม อายุ 50 ปี และนายอุดร เชยสุวรรณ อายุ 53 ปี พนักงานขับรถตู้ถูกประกบยิงขณะขับรถตู้จาก จ.ปทุมธานี กลับกรุงเทพฯ จนเป็นเหตุให้นายสิทธิชัยเสียชีวิต

วันที่ 7 ธ.ค. 61 พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก.สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี และหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณถนนทางหลวงชนบท ปท.4001 มุ่งหน้าคลองห้า จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจหาหลักฐาน โดยใช้เครื่องสแกนโลหะ ตรวจหาบริเวณริมถนน จากจุดที่รถเสียหลักตกลงข้างทางเป็นระยะทาง 200 เมตร เพื่อค้นหาปลอกกระสุนที่คนร้ายใช้ยิง แต่ยังไม่พบปลอกกระสุน

ถนนดังกล่าวเป็นทางเปลี่ยวไม่มีบ้านคน บริเวณ 2 ข้างทางเป็นป่ากก และจุดเกิดเหตุมีร่องรอยของรถตู้ที่ผู้ตายขับพุ่งลงป่ากกข้างทาง และชนเสาไฟข้างทางอย่างรุนแรง ทำให้ฐานปูนของเสาถูกงัดขึ้นเหนือพื้นดิน และเสาไฟล้ม บริเวณโคนเสามีรอยบุบจากการชนอย่างหนัก นอกจากนี้ ยังพบเอกสาร และเศษชิ้นส่วนของรถ เช่น กันชนหน้า ตกอยู่ใกล้กับเสาไฟ

ด้าน พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก.สภ.คลองห้า ให้ข้อมูลว่า ตำรวจตรวจพบใบกระท่อม 7 ใบ ในตัวของนายอุดร เชยสุวรรณ และได้คุมขัง ในข้อหาครอบครองยาเสพติด พร้อมกันตัวไว้เป็นพยาน เนื่องจากจากคำให้การของผู้ต้องหาตรงกับบันทึก GPS ของรถตู้คันเกิดเหตุ ซึ่งระบุว่าส่งคนงานที่สถานีขนส่งหมอชิต ในเวลาประมาณ 17.00 น. ก่อนมาที่เขตหนองเสือ เพื่อไปหาเพื่อน แล้วซื้อใบกระท่อม ก่อนจะเกิดเหตุในช่วงเวลา 19.30 น. ในระหว่างเดินทางกลับกรุงเทพฯ

สำหรับสาเหตุของการก่อเหตุ ขณะนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่คาดว่าในระหว่างเดินทางกลับ ผู้ตายอาจจะขับรถปาดหรือเฉี่ยวผู้อื่น หรือเด็กแว้น กระทั่งเกิดการไม่พอใจกัน และตามมายิงในจุดเกิดเหตุ แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ตัดประเด็นยาเสพติดทิ้ง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบศพของนายสิทธิชัย พบกระสุนคาดว่าเป็นขนาด 9 มม. หรือ .38 ยิงเข้าบริเวณหัวไหล่ฝั่งขวา หัวกระสุนทะลุเข้ารักแร้ และฝังใน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ด้าน น.ส.ทองจันทร์ บุญเลิศ ภรรยาของนายอุดร เชยสุวรรณ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายอุดรถูกคุมขัง และรอการประกันตัว เนื่องจากตำรวจพบใบกระท่อมจำนวน 7 ใบ โดยสามีเล่าว่า เมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) สามีและนายสิทธิชัยขับรถไปส่งคนงานที่สถานีขนส่งหมอชิต เวลาประมาณ 17.00 น. ต่อมานายสิทธิชัยจึงขับรถพาสามีไปหาเพื่อน ที่ย่านคลอง 9 อ.หนองเสือ ซึ่งสามีของตนไม่รู้เส้นทาง แต่เมื่อไปถึง นายสิทธิชัยเป็นผู้ลงไปพูดคุยกับเพื่อน สามีของตนนอนอยู่ในรถ จากนั้นก็นำใบกระท่อมจำนวน 7 ใบ มาฝากไว้ในเสื้อกั๊กของสามี ซึ่งตำรวจตรวจพบในเวลาต่อมา

น.ส.ทองจันทร์ ยืนยันว่า สามีไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ใบกระท่อมนั้นเป็นของนายสิทธิชัยที่มักจะซื้อเอาไว้กินเป็นยา เคี้ยวแก้ปวดท้อง ยืนยันว่า สามีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร แต่สำหรับนายสิทธิชัยนั้นตนไม่ทราบ ซึ่งจากที่รู้จักกันมา นายสิทธิชัยเป็นคนดีมาก มีสัมมาคารวะ สนิทสนมกับสามีของตนเหมือนพี่น้อง ตนจึงไม่คิดว่าจะมีเรื่องบาดหมางหรือเป็นคู่อริกับใคร แต่คาดว่าปมในการสังหารในครั้งนี้ อาจเป็นการยิงผิดคน หรืออาจเป็นเด็กแว้นในพื้นที่ไม่พอใจการขับรถหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนเสียใจมากที่นายสิทธิชัยถูกยิงตาย เพราะผู้ตายชอบไปดูฟุตบอลที่บ้าน และไปเล่นกับหลาน ตนเหมือนญาติคนหนึ่ง ซึ่งตนก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ส่วนสามีของตนก็ค่อนข้างช็อก และเบลอ เนื่องจากขณะเกิดเหตุนอนอยู่ที่เบาะหลังคนขับ ก่อนจะได้ยินเสียงปืน และได้ยินเสียงนายสิทธิชัยร้องจากการถูกยิง จากนั้นสามีของตนก็พยายามแทรกตัวจากด้านหลังเพื่อเอื้อมมือไปบังคับพวงมาลัยรถ แต่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้รถพุ่งลงข้างทาง

อย่างไรก็ตาม นายอุดร เชยสุวรรณ ซึ่งขณะนี้ยังถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.คลองห้า ในข้อหาครอบครองสิ่งเสพติด ให้ข้อมูลว่า เมื่อขับถึงจุดเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.30 น. นายสิทธิชัยลดกระจกฝั่งที่นั่งคนขับลงเพื่อสูบบุหรี่ ส่วนตนกำลังเคลิ้มหลับ จึงไม่เห็นว่าคนร้ายขับรถอะไร หลังจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตามด้วยเสียงร้องโอดโอยของนายสิทธิชัย เมื่อตนรู้ว่าเพื่อนถูกยิง จึงพยายามเอื้อมมือจากเบาะหลังไปควบคุมพวงมาลัยรถไว้ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นเหตุให้รถพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง นายอุดร ยืนยันว่า ผู้ตายไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกับใคร และขณะเกิดเหตุ นายสิทธิชัยขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้คนร้ายสามารถขับรถตามขึ้นมาประกบยิงได้ง่าย

ที่วัดโคกกระต่าย อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายสิทธิชัย โดยบรรยากาศงานศพในคืนแรกเป็นไปอย่างโศกเศร้า

โดย น.ส.แก้ว (นามสมมติ) ภรรยาของนายสิทธิชัย ยังอยู่ในอาการเหม่อลอย และช็อกกับการเสียชีวิตของสามี ให้ข้อมูลว่า ตนไม่ได้กินข้าวมา 2 วันแล้ว หลังจากสามีเสียชีวิต เพราะรู้สึกเจ็บปวด สงสารลูกชายวัย 14 ปี เพียงคนเดียวที่ต้องเสียพ่อไป ไม่อยากให้หน้าของตัวเองไปปรากฏอยู่ในข่าวโทรทัศน์ กลัวจะเป็นการตอกย้ำลูก ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าสามีเป็นคนนิสัยดี มีสัมมาคารวะ ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ถ้าหากคนร้ายมีการวางแผนมายิง ก็คงเป็นการยิงผิดตัว แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อในประเด็นใด เพราะต้องรอการสืบสวนพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องใบกระท่อมนั้น สามีของตนก็กินแค่เป็นยา และคงไม่เกี่ยวกับประเด็นยาเสพติด เพราะเพื่อนที่สามีไปหาก่อนตายนั้น เป็นเพียงชาวบ้านที่ค้าขายธรรมดา และไม่มีอิทธิพลแต่อย่างใด

น.ส.แก้ว กล่าวต่อว่า ตนและสามีมักจะดูรายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ทีวี เป็นประจำ แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่ง จะต้องมีข่าวการเสียชีวิตของสามีตัวเอง แล้วออกรายการ ซึ่งหลังจากนี้ ก็คงไม่มีคนดูข่าวเป็นเพื่อนอีกแล้ว ยอมรับว่าเสียใจที่ไม่มีคู่คิดอย่างเก่า แต่ก็ต้องอดทน และเข้มแข็งต่อไป เพื่อเป็นหลักให้กับลูกชาย เพราะถ้าขาดตนไปอีกคน ลูกชายก็ไม่เหลือใครอีกแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่ได้สนิทกับนายอุดร และไม่รู้จักกับเพื่อนที่ทำงานของสามีมากนัก แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าคงไม่มีใครโกรธแค้นสามีอย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นคนอารมณ์ดี พูดดี และไม่เคยไปทะเลาะกับใคร