กลายเป็นชนวนเหตุของเรื่องราวดราม่า เมื่อทีมงานของอีเวนท์งานหนึ่ง
ได้บอกให้
มน- ชุติมน วิจิตรทฤษฎี และ
แว่นใหญ่ หรือ
โอ-โอฬาร ชูใจ สองสมาชิกของวงขยับออกจากเฟรมถ่ายรูป
เพื่อให้
'ทอม อิศรา' เด่นเพียงคนเดียว ทั้งๆ ที่ทั้ง 3 คนมาร่วมงานในฐานะศิลปิน Room 39
แต่กลับโดนกันซีนแบบดื้อๆ
งานนี้เลยทำให้สมาชิกสาวคนเดียวของวง 'มน' ถึงกับน้ำตาซึม
เมื่อถูกทีมงานอีเวนท์ปฏิบัติกับตนเองแบบนั้น
ล่าสุดทั้ง 3 ได้ออกมาเปิดใจถึงโมเม้นท์ดราม่า ท่ามกลางกระแสลือ
'ส่อวงแตก?!?'
โดย 'มน' ยอมรับว่าเหตุการณ์ในวันนั้นมันบิวท์ให้ต้องเสียน้ำตาจริงๆ
ส่วน 'ทอม' ก็ขอเบรกความตะมุตะมิมาชี้แจงแบบจริงจังในทุกประเด็นดราม่าว่า
รู้สึกน้อยใจบ้างไหมเวลาที่มีคนจ้าง ‘ทอม’ ไปออกงานคนเดียว?
โอ – “จริงๆ พวกเรามีงานที่ต้องเล่นในผับด้วยกันแทบทุกวันอยู่แล้ว
จึงเป็นปกติที่ได้เจอกันและคุยกันบ่อยๆ ไม่ได้มีอะไร เพราะคุยกันตลอดก็เข้าใจ”
ทอม – “อย่างที่บอกว่าพวกเราได้คุยกันบ่อย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคืออยู่ที่พื้นฐานความเข้าใจกัน
เลยทำให้พวกเราคุยกันง่าย ผมมองว่าถ้าพวกเรารักและเข้าใจกัน มันก็จะไม่มีคำว่าวงแตก
เหมือนอย่างที่หลายคนชอบถามว่าทอมมีงานเดี่ยวเยอะ แล้วทำให้งานวงมีน้อย
ตรงนี้มันไม่ได้เป็นตัวแปรที่จะทำให้วงอยู่ด้วยกันได้หรืออยู่ด้วยกันไม่ได้
เพราะทุกอย่างอยู่ที่ความเข้าใจของพวกเรามากกว่า”
เห็นว่ามีดราม่าที่อีเวนท์หนึ่ง?
มน – “เออ…ด้วยความที่พวกเราคุยกันในวงแล้วว่า แต่ละคนจะต้องแบ่งงานกันให้ถูกต้องว่าจะทำอะไรบ้าง
โดยที่วงต้องมาอันดับหนึ่ง ซึ่งทอมก็ยืนยันแล้วว่ายังไงวงก็มาก่อนเสมอ
เพราะฉะนั้นในวงเข้าใจกันดี แต่ทีนี้ด้วยความที่เมื่อวานมันอาจจะเกิดเรื่องนิดหนึ่ง
อาจจะเป็นเพราะว่าจังหวะ ด้วยความที่ทีมงานไม่ได้แจ้งก่อนหรือพวกเราอาจจะไม่รู้”
โอ – “คิดว่าอาจจะเป็นทางผู้จัดงานที่ไม่เข้าใจว่าจริงๆ การพรีเซนต์ก็คือต้องพรีเซนต์ในรูปแบบวง
บวกกับที่ทีมงานไม่ได้แจ้งพวกเรามาก่อนด้วย
เลยกลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเรารู้สึกว่า ในฐานะที่เป็นศิลปินไม่ได้แยกขายเป็นชิ้นเป็นคน
มันจึงค่อนข้างกระทบกระเทือนความรู้สึกของผมกับมนเหมือนกัน”
‘มน’ ถึงขั้นน้ำตาซึมเลย?
มน – “ตอนแรกน้ำตาก็จะไม่ซึมแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ตรงนั้นก็มีพี่นักข่าวให้กำลังใจอยู่มุมนั้น
แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า “เขามาเป็นวงจะแยกเขาได้ยังไง”
ส่วนตัวเป็นคนที่เซนซิทีฟอยู่แล้ว พอได้ยินประโยคนี้และเจอกับช็อตนี้ก็เลยเก็บไม่อยู่
ทั้งที่ทุกคนในวงโอเคกันเพียงแต่ว่าไม่รู้ล่วงหน้าในงานเมื่อวาน
ยอมรับว่างงนิดนึง เพราะว่าไปยืนสแตนด์บายรอถ่ายรูปที่หน้าแบ็กดรอปเรียบร้อยแล้ว
แต่อยู่ดีๆ ก็มีทีมงานบอกว่าให้มนกับพี่โอถอย 2 ก้าวออกมาก่อน
ทั้งที่ตอนนั้นทุกคนก็โพสท่าเตรียมถ่ายรูปแล้ว”
ทอม – “ตอนที่อยู่ในเหตุการณ์ผมก็ยังกวักมือเรียกมนให้เข้ามาถ่ายด้วยกันอยู่เลย
แต่ก็เห็นแล้วว่ามนเริ่มมีอาการนิดนึง
เลยจับมือเขาและบอกว่าไม่เป็นไร เพราะว่าจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่พวกเราคุยกันเข้าใจแล้ว
อีกอย่างทางวงควรจะเป็นคนเลือกเองมากกว่าว่าจะไปแบบวงหรือจะไปแบบไหน
ไม่ใช่การที่คนๆ นึงจะมาบอกว่าชาตินี้ไม่เอาเธอหรือไม่เอาใคร
ควรต้องคุยกันตั้งแต่แรกว่างานนี้จะเป็นแบบไหน”
ทีมงานได้ชี้แจงไหมว่าทำไมถึงต้องให้ ‘มน’ กับ ‘โอ’ออกมาจากช็อตที่จะต้องถ่ายรูปรวม?
โอ – “ไม่มีการชี้แจงกับพวกเราเลยครับ”
ทอม – "จริงๆ ผมเชื่อว่าเป็นความไม่เข้าใจของคนหนึ่งคนก็ได้
แต่จะไม่บอกเป็นภาพรวมของทีมงานนั้นดีกว่า เพราะว่าตอนว่าจ้างงานก็ว่าจ้างมาด้วยรูปแบบหนึ่ง
เราว่าอาจจะเป็นที่คนๆ นั้นเข้าใจคลาดเคลื่อน
ถามว่าความพีคของหน้ากากทุเรียนของผม ทำให้กระทบกับเพื่อนๆ ในวงรึเปล่า
ยอมรับว่าเคยคิดบ้าง แต่ว่าอย่างที่บอกว่าถ้าพวกเรารักกันเป็นพอ อะไรก็ไม่สามารถทำให้พวกเราแตกได้”
มน – “ทอมเขาจะกังวลเสมอและจะมาคุยกับพวกเราว่า
“ขอโทษนะ เข้มแข็งนะ”
โดยที่บางครั้งพวกเราก็ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไร แต่ว่าก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะเจอมากกว่า”
โอ –
“พวกเราสามคนอยู่กันมาตั้งแต่ยังไม่มีอะไร
ตอนนั้นทอมเขาเพิ่งอายุ 16 ร้องเพลงด้วยกัน มนก็ร้องเพลงด้วยกันมา
ฉะนั้นพวกเราสามคน มันเกินกว่าคำว่าเพื่อนร่วมงานไปแล้ว แต่เป็นเหมือนพี่เหมือนน้อง
และพร้อมที่จะเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ต้องกลัวว่าในวงจะทะเลาะกัน ไม่มีแน่นอน
ทุกคนเข้าใจกัน แต่อาจจะมีเสียความรู้สึกตรงที่ว่า คนจัดงานเชิญพวกเรามา
แต่อาจจะไม่ได้เทคแคร์พวกเราแบบนั้น”
ทอม – “ไม่มีโกรธกันเองแน่นอน เพราะว่าไม่ได้เกี่ยวกับผม
จริงๆ ตั้งแต่ทำงานมาก็ไม่เคยเจอปัญหาเรื่องแบบนี้มาก่อน
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเข้าใจดีกับความรู้สึกตรงนี้ครับ”