นาทีระทึก! ล็อกตัวนักโทษแหกคุก ซบเมียร่ำไห้พ้อไม่ตอบจ.ม. ใจชื้นได้กอดลา (คลิป)

กรณีเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 11 ธ.ค. 64 สภ.สามควายเผือก จ.นครปฐม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีผู้ต้องขังหลบหนีออกจากเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง นครปฐม จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่เรือนจำพลเรือนแจ้งว่ามีผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ถูกแยกกักตัวตามมาตราป้องกันโรคโควิด-19 หลบหนีไปจากเรือนนอนชาย (พลเรือน) 9 คน

ประกอบด้วย 1.นายวัชระ นะโมมั่น อายุ 28 ปี ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
2.นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด
3.นายวีรเชษฐ์ เทพชู อายุ 28 ปี ความผิดฐานลักทรัพย์
4.นายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี ความผิดฐานลักทรัพย์
5.นายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง อายุ 36 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด
6.นายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด
7.นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด
8.นายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด
9.นายพานิช บัวศร อายุ 35 ปี ความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้แล้ว 2 ราย คือนายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี ความผิดพ.ร.บ.ยาเสพติด และนายนัถกร มาตรวัดแสง อายุ 24 ปี

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยัง หมู่ 6 ตำบลบ่อพลับ ซึ่งเป็นจุดที่กล้องวงจรปิด สามารถจับภาพนักโทษที่หลบหนีได้ 5 คน จากกล้องวงจรปิดเวลา 02.07 น. มุมไกลกล้องวงจรปิดจากบ้านของชาวบ้านสามารถจับภาพผู้ต้องขังชาย 5 คน กำลังเดินหลบหนีระหว่างนั้นมีเสียงสุนัขเห่าเสียงดังเบื้องต้นไม่ทราบว่าทั้ง 5 รายมีใครบ้าง เนื่องจากอยู่ในระยะไกล

ต่อมาเวลา 02.07 น. เห็นผู้ต้องขังเดิน 5 คน ไม่สวมเสื้อ จากนั้นเวลา 02.08 น. เห็นผู้ต้องขังวิ่งเข้าไปในแคมป์เพื่อที่จะสวมเสื้อ ผ่านไป 8 นาที กระทั่งเวลา 02.16 น. เห็นทั้ง 5 คนสวมเสื้อเสร็จแล้วเดินออกมาจากแคมป์ ผ่านหน้ากล้องไป

นายณภัทร มณฑาสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.บ่อพลับ เล่าว่า เมื่อช่วง 03.00 น. ที่ผ่านมา ตนเองได้รับประสานจากเจ้าหน้าที่เรือนจำว่ามีนักโทษทั้งหมดหลบหนีเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านของตนเอง จึงจัดชุดฝ่ายปกครอง ออกตรวจตราและเฝ้าระวังเหตุ จากการตรวจสอบกลัองวงจรปิดจึงทราบว่ามีนักโทษชายจำนวน 5 คน หลบหนีออกจากเรือนจำ และเดินเท้าเจ้ามามนหมู่บ้าน ก่อนจะเข้าไปหยิบเอาเสื้อผ้าในแคมป์คนงานสวมใส่ จึงร่วมกับกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังพื้นที่ ส่วนนักโทษอีก 4 คน ไม่ปรากฏในกล้องวงจรปิด ไม่ทราบว่าหลบหนีไปที่จุดใด

ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ก็ค่อนข้างหวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัย เพราะกลุ่มนักโทษหลบหนีออกมายามวิกาล ตนเองและทีมงานก็ยังเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด และให้ชาวบ้านแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งผิดสังเกต เพราะไม่ทราบว่ากลุ่มนักโทษจะใช้วิธีใดหลบหนี อีกทั้งที่ผ่านมาในพื้นที่ไม่เคยเกิดเหตุนักโทษหลบหนีมาก่อน 

ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่งใน หมู่ 6 ตำบลบ่อพลับ พบว่าเป็นจุดที่นางสาวมณฑกานต์ แฟนสาวนายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง หนึ่งในผู้ต้องหา ที่หลบหนีทำงานอยู่ เมื่อไปถึงพบรถจักรยานต้องสงสัย 1 คัน คาดว่าเป็นคันที่นายไพฑูรย์ขโมยชาวบ้านและใช้หลบหนีมายังจุดดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่านายไพฑูรย์น่าจะหลบหนีอยู่ในสวนกล้วยใกล้กับจักรยาน นางสาวมณฑกานต์ ตะโกนร้องเรียกนายไพฑูรย์ตลอด เพื่อให้ออกมามอบตัว

นางสาวมณฑกานต์ แฟนสาวของผู้ต้องขัง เปิดเผยว่า นายไพฑูรย์ แฟนหนุ่ม เพิ่งจะถูกจับมาได้ประมาณ 10 วัน และยังไม่ได้ร่ำลากัน และไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย ก่อนจะมาทราบช่วงเช้ามืดว่าแฟนตนเองหลบหนีออกมาจากห้องขัง ตั้งแต่ช่วงเช้าตนเองจึงออกมาจากงานและออกตามหา พราะเป็นห่วง ไม่อยากให้แฟนได้รับโทษหนัก

ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา มีเบอร์แปลกโทรศัพท์มาหาตนเอง แต่ไม่ได้รับสาย ต่อมาช่วงเช้าจึงโทรกลับไป ผู้รับสายบอกว่าแฟนหนุ่มของตนเองมาหา และขอใช้โทรศัพท์ อ้างว่าถูกทำร้ายก่อนจะวางสายไป โดยแฟนหนุ่มเป็นคนดี และไม่เคยต้องโทษมาก่อน ตนเองเสียดายที่แฟนหนุ่มหลบหนีออกมา เพราะโทษเบาอาจจะเป็นโทษหนักได้

เวลา 14.45 น. ขณะที่นางสาวมณฑกานต์ แฟนสาวนายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง กำลังให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พบผู้ต้องขังอีก 1 รายคือนายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง หลบอยู่ร่องน้ำ ในดงสวนกล้วย จึงรีบนำตัวออกมาจากร่องน้ำและควบคุมตัวเอาไว้ ขณะที่แฟนสาวบอกเจ้าหน้าที่ว่าอย่าทำอะไรแฟนหนุ่มตนเอง จากนั้นทั้งคู่มีการกอดกันและร้องไห้ นายไพฑูลย์ได้รับประทานอาหารและน้ำด้วยความหิวโหย เป็นแกงเขียวหวานและต้มจับฉ่าย

นายไพฑูรย์ ระบุว่า ตนเองออกมาตามเพื่อนอีก 8 คน เพราะอยากจะออกมาหาแฟนสาว เนื่องจากคิดถึง เพราะแฟนไม่เขียนจดหมายมาหาเลย ไม่รู้คิดอย่างไรจึงออกมา และไม่ทราบว่าเพื่อนที่เหลือไปหลบอยู่ที่ไหน เพราะหลังจากที่ตนเองออกมาจากเรือนจำก็ไปหยิบเสื้อผ้า และรถจักรยานของชาวบ้านได้ 1 คัน จึงขี่ออกมาเพื่อมารอแฟนสาว และหลบอยู่ที่นี่ตั้งแต่เวลาประมาณ 11.00 น.

โดยข้อมูลทราบว่า ก่อนที่นายไพฑูรย์จะมาหลบบริเวณร่องน้ำที่พบตัว นายไพฑูรย์ได้มีการไปหาแฟนสาวที่บ้าน ในพื้นที่บ้านห้วยชัน หมู่ 8 ตำบลมาบแค โดยมีการยืนพูดคุยกับพี่สาวของแฟนสาว แต่พี่สาวบอกว่าแฟนสาวไม่อยู่ นายไพฑูรย์จึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

ทีมข่าวลงพื้นไปยังแคมป์คนงานที่ผู้ต้องขังมาเปลี่ยนเสื้อผ้า จุดที่หยิบเสื้อผ้าคือเพิงพักคนงานคลุมผ้าใบสีฟ้า ด้านหลังกำลังก่อสร้างบ้าน นายยงยุทธ ขันทอง อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่เจอผู้ต้องขัง เล่าว่า เมื่อคืนนี้ช่วง 02.00 น. ตนเองมาเข้าห้องน้ำสังเกตเห็นว่า มีชาย 4 คน อีกคนยืนรอหน้าแคมป์ เดินเข้ามานั่งในโครงอาคารที่กำลังก่อสร้าง แต่ไม่ใช่คนงาน จึงสอบถามว่ามาทำอะไร เข้ามาได้อย่างไร ต่อมานายนัถกร หรือ บอย ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างของตนเองก็ทักทาย ตนเองก็ตกใจว่าออกมาจากเรือนจำได้อย่างไร เพราะเพิ่งถูกจับกุมไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาในคดีลักทรัพย์ นายบอยบอกว่าถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. แต่ไม่มีเสื้อผ้า จึงเข้ามาขอเสื้อผ้าเพื่อสวมใส่

ตนเองไม่เชื่อแต่ก็ทำใจดีสู้เสือ และเล่นตามน้ำไป บอกให้นายบอยและเพื่อนเดินเข้าไปหยิบเสื้อผ้าในเพิงพักได้เลย โดยทั้ง 5 คนก็หยิบเสื้อผ้าสวมใส่ทับกางเกงสีน้ำเงินของนักโทษที่ใส่อยู่ และมีการขอเงินตนเอง 100 บาท ตนเองก็ทำทีเป็นสอบถามคนงานห้องข้าง ๆ ว่ามีหรือไม่ และให้เงินนายบอยไป 40 บาท ก่อนที่คนงานในแคมป์จะตื่นขึ้นมา แล้วทั้ง 5 คนออกจากแคมป์ไป

ก่อนหน้านี้ที่นายบอยจะถูกจับเข้าไปอยู่ในเรือนจำนายบอยเคยมาของานตนเองทำ ทำงานได้เพียง 1 เดือนก็ถูกจับในข้อหาลักทรัพย์ ดูภายนอกก็เหมือนจะเป็นคนดี เพราะพูดจาเพราะ แทนตัวเองว่า "หนู" และไม่เคยมีปัญหากับใคร ตนเองค่อนข้างโล่งใจที่นายบอยถูกจับไป เพราะหากยังไม่ถูกจับ คืนนี้นายบอยอาจจะพาพวกย้อนกลับมาหาตนเองอีก

ด้านนางสาววาสนา วงค์สว่าง อายุ 48 ปี พี่สาวนายบำรุง เล่าว่า ตนมาทราบช่วงเช้ามืด ขณะกำลังเก็บดอกรักว่าน้องชายหลบหนีออกจากเรือนจำ ตนเองก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าน้องชายจะตัดสินใจแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร เพราะตัวนายบำรุงไม่มีภรรยา เนื่องจากเลิกไปนานแล้ว มีเพียงลูกสาววัย 19 ปีเท่านั้น ที่ผ่านมานายบำรุงเคยจำคุกคดียาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 4 ปี แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมหลบหนีแบบนี้ ตนเองอยากจะบอกให้น้องชายมอบตัว เพราะคนในครอบครัวก็เครียด กลัวน้องชายจะได้รับโทษเพิ่ม ตั้งแต่น้องชายหลบหนีออกมายังไม่ได้มีการติดต่อคนในครอบครัวเลย

ขณะที่เวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องขังได้อีก 2 ราย คือนายวีรเชษฐ์ เทพชู โดยจับกุมได้ที่ริมถนนสาธารณะ ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และนายวัชระ นะโมมั่น

ล่าสุดเหลือผู้ต้องขังอีก 4 รายที่ตำรวจกำลังติดตามจับกุมตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.นครปฐม และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์มีการแบ่งกำลังเฝ้าตามภูมิลำเนาของผู้ต้องขังแต่ละคนแล้วนั้น