กรณีเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. พ.ต.ท.เอกชัย จันทรขจร สว.(สอบสวน) สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุนักเรียนช่างกลตีกัน มีผู้กระโดดน้ำเสียชีวิต 1 ราย ภายในคลองทวีวัฒนา หน้าหมู่บ้านมณฑล 7 ถนนเลียบคลองทวีวัฒนาแขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 แพทย์นิติเวช รพ. ศิริราช และนักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
โดยนักประดาน้ำใช้เวลา 1 ชม. ค้นหาศพนายศุภทัต หรือ แอ้ม อายุ 17 ปี ปัจจุบันเป็นนักเรียนแผนกช่างยนต์ ชั้น ปวช.2 วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีและภาพกล้องวงจรปิด ช่วงคนก่อเหตุขับ จยย. ไล่ตามผู้เสียชีวิต นายศุภทัต ผู้เสียชีวิต ขับจยย.ขึ้นสะพานมาคันแรก ตามด้วยคนก่อเหตุ ขับซ้อน 2 ขับประกบตามมา 1 คัน จากนั้นมี จยย. ซ้อน 2 อีกคัน ขับตามเข้ามา
วันที่ 9 ธ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางไปยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช โดยช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดินทางมารับติดต่อรับศพ นางสาวกรวรรณ กกรัมย์ อายุ 36 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ความคืบหน้าถึงเบาะแสคนก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่มเติม แต่หลังจากที่มีการสอบปากคำ ก็เห็นว่าทางเจ้าที่ตำรวจมีความกระตือรือร้นที่จะสืบหาคนก่อเหตุ ซึ่งตนก็มีความหวังว่าตำรวจจะสามารถจับกลุ่มคนร้ายได้เร็ว ๆ นี้
ปกติลูกชายเป็นคนตั้งใจเรียน เพราะมีความฝันอยากเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ จึงไปเรียนเกี่ยวกับช่างยนต์ ซึ่งตนได้มีการเตือนกับลูกชายเป็นประจำว่าให้ระมัดระวังตัวเสมอ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว เคยมีกลุ่มอาชีวะขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามจะเอาเสื้อช็อป และมองว่าอาจจะเป็นวัยคึกคะนองของผู้ก่อเหตุ
สภาพจิตใจของตนในขณะนี้ ยังคงอยู่ในความสุขเศร้าเสียใจ เนื่องจากมีลูก 3 คน แต่เป็นลูกชายเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือตัวเอง เวลาว่างหรือไม่มีเรียนจะไปรับจ้างรายวัน เพื่อเก็บเงินซื้อ iPhone โดยที่ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากทางครอบครัวแม้แต่นิดเดียว เป็นคนนึกถึงคนอื่นก่อนเสมอ และจะบอกแม่ตลอดว่าให้เก็บเงินไว้เลี้ยงน้องอีก 2 คน ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างเกินกว่าเหตุ เนื่องจากลูกชายของตนเป็นเด็กเรียน ไม่ใช่เด็กเกเร และก็ไม่เคยพกอาวุธติดตัว ในขณะที่ผู้ก่อเหตุถืออาวุธครบมือ ซึ่งตนอยากบอกไปยังผู้ก่อเหตุว่า "ทำลูกแม่ทำไม ลูกแม่ไปทำอะไรให้"
โดย 3 วัน ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุมีลางสังหรณ์บางอย่าง คือมีฝูงอีกบินวน และจะได้ยินเสียงอีการ้องบ่อยมาก ซึ่งตนไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาเกิดเหตุถึงนึกย้อนขึ้นได้ ตอนนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนก่อเหตุไปลงโทษตามกฎหมาย ตนอยากให้คนก่อเหตุมาขอขมาศพ ส่วนจะอโหสิกรรมให้หรือไม่นั้นยังไม่ขอตอบ
นายแบงค์ (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ตนยืนดูคนตกปลาอยู่ที่บริเวณริมคลองทวีวัฒนา จากนั้นเห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ขับผ่านหมู่บ้านมณฑนา 7 โดยมีรถจักรยานยนต์ ซ้อน 2 อีก 2 คัน ขับตามประกบหน้า-หลังรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต
จากนั้น รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตเสียหลักล้ม ทำให้ผู้เสียชีวิตทิ้งรถและวิ่งหนี แต่มีรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุดักอยู่ไว้อีกคัน พร้อมอาวุธมีดสปาต้าครบมือ ทำให้ผู้เสียชีวิตเลือกที่จะกระโดดลงน้ำ จากนั้นคนก่อเหตุทั้ง 4 คน วิ่งมาตามดูว่าผู้เสียชีวิตผุดมาจากน้ำหรือไม่ พอเห็นว่าจมหายไปแล้ว ผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คนก็ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปแบบไม่ได้รีบร้อน โดยผู้ก่อเหตุทั้ง 4 รายลักษณะการแต่งกายใส่เสื้อช็อป และสวมเสื้อคลุมแขนยาว หมวกกันน็อกเต็มใบ ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างอุกอาจ เนื่องจากผู้เสียชีวิตไม่มีอาวุธ
ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตนิมนต์พระสงฆ์จากวัดศาลาแดง 1 รูป มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยมีแม่ผู้เสียชีวิต ถือรูปถ่ายหน้าโลงศพ มาวางอยู่ริมคลองทวีวัฒนาตรงจุดเกิดเหตุ พร้อมญาติ ๆ นำอาหารเป็นข้าวกล่อง ขนมปังและน้ำดื่ม จุดธูปคนละ 1 ดอก และเรียกชื่อนายศุภทัต ผู้เสียชีวิตกลับบ้าน ส่วนพระสงฆ์มีการนำสายสิญจน์ ล้อมรอบบริเวณรูปผู้เสียชีวิต และสวดทำพิธี
โดยนางสาวกรวรรณ แม่ผู้เสียชีวิต และนางเพ็ญยายผู้เสียชีวิต อยู่ในอาการร่ำไห้ จนญาติต้องช่วยกันพยุง เนื่องจากกลัวจะเป็นลมล้ม บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
นายวิน (นามสมมติ) เพื่อนผู้เสียชีวิต บอกว่า ในช่วงเช้าวันที่ 8 ธ.ค.64 ช่วงเกิดเหตุ ตนขับรถจักรยานยนต์มาเรียนตามปกติ ในระหว่างทาง เจอเด็กช่างไม่ทราบสถาบัน ขับรถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อกซ้อน 2 คน มาประกบด้านหลัง คนซ้อนท้ายมีการถืออาวุธมีดดาบฟาดที่บริเวณหลัง หลังจากนั้นมีการข่มขู่ให้ถอดเสื้อช็อปออก ถ้าไม่เช่นนั้นจะทำร้าย ขณะนั้นตนอยู่ตัวคนเดียว และไม่มีอาวุธพกติดตัว เนื่องจากทางโรงเรียนไม่มีนโยบายให้พกอาวุธ ตนมีการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายศุภทัต ผู้เสียชีวิต และเพื่อนคนอื่น ๆ ฟัง โดยนายศุภทัต ผู้เสียชีวิตพูดว่า "ถ้าเป็นตัวเอง จะวิ่งหนีลงน้ำ" หลังจากเลิกเรียนก็มีการเข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้ว
จากนั้น นายศุภทัต ผู้เสียชีวิต อาสาขับรถจักรยานยนต์ตามไปส่งที่บ้าน เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัย พอแยกย้ายกันได้ไม่นาน ก็ได้รับทราบข่าวว่านายศุภทัตถูกกลุ่มวัยรุ่นคาดว่าเป็นเด็กช่าง ใช้อาวุธมีดขับรถจักรยานยนต์ประกบ ทำให้เจ้าตัวหลบหนีด้วยกันกระโดดลงคลองทวีวัฒนาเสียชีวิต ส่วนตัวรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เวลาจะไปเรียนก็ยังรู้สึกหวาดระแวง จะไปไหนมาไหนก็ต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ แต่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนก่อเหตุไปลงโทษตามกฎหมาย
