หนุ่มฉุนแฟนโดนถ้ำมองบุกสางแค้นเดือด คดีพลิกตีผิดตัวคนเจ็บน่วมฟรี (คลิป)

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า "เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 64 เวลาประมาณบ่ายโมง ได้มีผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายพ่อ โดยไม่ทราบสาเหตุ ผู้ก่อเหตุเตรียมอาวุธเป็นไม้หรือกระบอง สวมหมวกกันน็อกสีขาวเต็มใบ ขี่ pcx สีขาว ปิดแผ่นป้ายทะเบียน เดินเข้ามาตีผู้บาดเจ็บขณะที่นอนดูทีวีอยู่ ผู้บาดเจ็บบอกให้พอ แต่คนร้ายได้กระหน่ำตีเข้าที่หัวหมายจะเอาชีวิต ซึ่งพอมีคนเห็นคนร้ายได้ทิ้งอาวุธแล้วขับรถหนีไปทางสำนักงานเขตเสนา มุ่งหน้าไปทางวัดสามกอ เหตุเกิดที่ตลาดเสนา จ.อยุธยา"

ล่าสุดวันที่ 5 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ตลาดแห่งหนึ่งในอ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณแคร่ไม้หน้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นจุดเก็บเงินค่าห้องน้ำ

นายวิแลง บุญเล็ก อายุ 67 ปี ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นพนักงานเก็บเงินค่าห้องน้ำ เล่าให้ฟังว่า ในวันที่ 3 ธันวาคม 64 เวลาประมาณ 13.40 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งดูโทรทัศน์ มีชายรายหนึ่งใส่หมวกกันน็อกสีขาว เดินมาชะโงกดูในห้องน้ำ ก่อนวิ่งกระโจนขึ้นมาบนแคร่ที่ตนนั่ง และหยิบไม้กระบองมากระหน่ำตีตนไม่ยั้ง เข้าที่ศีรษะเป็นหลัก จนตนต้องใช้แขนบังเอาไว้ ชายรายนี้ไม่ได้พูดอะไร ตนบอกให้พอก็ไม่หยุด จนตนสลบไป

เมื่อตนตื่นมาอีกทีตอนที่ชาวบ้านช่วยกันปฐมพยาบาล และเรียกรถกู้ภัยมารับไปโรงพยาบาล โดยตนไม่เห็นหน้าผู้ก่อเหตุ และมั่นใจว่าไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ปกติช่วงเช้าก็ออกขี่วินจักรยานยนต์ ช่วงบ่าย ๆ ก็จะมานั่งเก็บเงินค่าห้องน้ำ

ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุจะเข้ามอบตัว อ้างว่าตีผิดตัว เพราะเข้าใจผิดว่าตนไปแอบดูแฟนสาวของเขาขณะเข้าห้องน้ำ ซึ่งตนไม่เคยทำแบบนั้นแน่นอน อาการของตนมีแผลเย็บที่ศีรษะ 3 จุด มีรอยช้ำที่คางด้านขวา และแขนซ้ายหัก ส่วนตัวมองว่าอีกฝ่ายพยายามฆ่า เพราะกระหน่ำตีที่ศีรษะอย่างเดียว ซึ่งตนยืนยันว่าจะขอเอาเรื่องถึงที่สุด และอยากให้ผู้ก่อเหตุรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วย

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.รัตนา สามนาค อายุ 23 ปี แฟนผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตนทำงานเป็นพนักงานขายน้ำชาในตลาด ในวันที่ 2 ธ.ค.64 ช่วงบ่าย ๆ ตนเข้าห้องน้ำในตลาด แต่เป็นคนละจุดกับที่นายวิแลง ถูกทำร้าย ขณะเข้าไปรู้สึกว่ามีคนเดินตามหลังมา เมื่อเข้าไปในห้องน้ำมีเงาอยู่หน้าห้องน้ำ จากนั้นมีลักษณะหัวคนแอบส่องใต้ประตู โดยตนไม่เห็นหน้าเห็นแค่แมสก์สีเขียว ด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงไม่ได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อออกมาจากห้องน้ำ พบว่าชายที่นั่งเฝ้าหน้าห้องน้ำ ใส่แมสก์สีเขียวเหมือนที่ตนเห็น และขณะนั้นก็ไม่มีคนอื่นบริเวณห้องน้ำ ตนจึงมองหน้า แต่อีกฝ่ายหลบตา จากนั้นจึงกลับมาปรึกษาคนในตลาด แต่หลายคนมองว่าไม่มีหลักฐาน ไม่น่าจะเอาผิดได้ ตนจึงแค่โทรศัพท์ไปแจ้งเทศบาล เพราะมองว่าเป็นความดูแลของเทศบาล ก่อนจะโทรศัพท์ไปเล่าให้นายกนกพล แฟนหนุ่มฟังว่าถูกแอบมองในห้องน้ำ ซึ่งเขาก็โกรธจะเอาเรื่อง แต่ตนห้ามไว้ว่าไม่มีอะไรแล้วให้จบกันไป ซึ่งแฟนหนุ่มก็เหมือนจะฟัง

กระทั่งวันที่ 3 ธ.ค.64 ช่วงบ่าย ๆ ตนทราบข่าวจากแม่ค้าในตลาดว่านายวิแลง ถูกทำร้าย ตอนนั้นก็ยังไม่เอะใจ จนเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.64) ช่วงเช้าเห็นโพสต์ของลูกสาวนายวิแลง ตามหาตัวคนร้าย เมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นนายกนกพล แฟนของตน จึงรีบโทรศัพท์ไปหาทันที โดยนายกนกพล ยอมรับว่าก่อเหตุจริงและกำลังจะเข้ามอบตัว ตนจึงเดินทางไปเจอที่โรงพัก จากการสอบถามนายกนกพล ระบุว่า วันเกิดเหตุมาตามหาตัวชายเฝ้าห้องน้ำที่แอบมองแฟนสาวของตน ด้วยความเข้าใจผิดตนจึงเข้าไปทำร้าย

น.ส.รัตนา กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการตีผิดตัว เพราะนายวิแลง ไม่ใช่คนที่แอบมองตนตอนเข้าห้องน้ำ ซึ่งตนก็เสียใจ ตนยืนยันว่าไม่ได้บอกให้แฟนหนุ่มไปทำร้ายใครเช่นนี้ ซึ่งหลังจากแฟนหนุ่มของตนเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดเข้าไปสอบปากคำในวันที่ 7 ธ.ค.64 

จากนั้นทีมข่าวเดินไปดูห้องน้ำที่ น.ส.รัตนา อ้างว่าถูกแอบมอง พบว่าอยู่ห่างจากห้องน้ำที่นายวิแลง ถูกทำร้ายประมาณ 200 เมตร ด้านในห้องน้ำบริเวณประตูมีช่องลมห่างจากพื้นประมาณ 10 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้แก้ไขด้วยการนำฟิวเจอร์บอร์ดมาติดเอาไว้แล้ว

นายมานะ พวงรักษ์ อายุ 38 ปี พนักงานเก็บเงินค่าห้องน้ำอีกราย กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้แอบมองน.ส.รัตนา ตอนเข้าห้องน้ำ แต่ปกติตนจะเดินเข้าออกห้องน้ำตลอด เพราะต้องเก็บของในตู้ใต้อ่างล้างมือ และเวลาเก็บก็ต้องนั่งลง เพราะตู้อยู่ติดพื้น อาจทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดหรือไม่ ทั้งนี้ ตนทำอาชีพนี้หากไปทำพฤติกรรมแอบมอง ก็เท่ากับตัดอนาคตตัวเอง