จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.หนองแขม ได้ประสานงานกับชุดกองบังคับการตำรวจรถไฟในพื้นที่ทุ่งสง ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้าจับกุม นายบุญชัย มั่นคง หรือ อ๋อง อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 คดีอาญา สน.หนองแขม
โดยกล่าวหาว่า พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร จับกุมได้ที่สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
จากเหตุการณ์เบื้องต้น นายบุญชัย ผู้ต้องหา ได้ให้การณ์เบื้องต้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อช่วงวันที่ 24 พ.ย.2564 เวลาประมาณ 05.00 น. ขณะที่ทางผู้ก่อเหตุกำลังเดินทางไปหาแฟนสาว น.ส.น้ำทิพย์ ที่ห้องพักย่านซอยเพชรเกษม 69 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ทางผู้ก่อเหตุเห็นทางด้านแฟนสาวอยู่ภายในห้องกับนายเอกชัย หรือ โบ๊ท ซึ่งเป็นแฟนเก่าของ น.ส.น้ำทิพย์ ทำให้ทางด้านผู้ก่อเหตุเองเกิดบันดาลโทสะ หยิบมีดปลายแหลมที่อยู่ภายในบ้านปาดเข้าไปที่บริเวณลำคอของนายเอกชัยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุเองก็ได้บังคับให้ทาง น.ส.น้ำทิพย์ หลบหนีไปขึ้นรถไฟเพื่อไปกลบดานในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งทางชุดสืบสวน สน.หนองแขม ได้เบาะแสทราบว่าผู้ต้องหาจะเดินทางจากทุ่งสงกลับ จ.ราชบุรี จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟในท้องที่ไปตรวจสอบ จนพบผู้ต้องหาและแฟนสาว น.ส.น้ำทิพย์ ที่สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง ก่อนจะจับกุมตัวส่งตัวต่อมายัง สน.หนองแขม เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
วันที่ 1 ธ.ค. 64 น.ส.วรรณลักษณ์ (นามสมมติ) น้องสาวของ น.ส.น้ำทิพย์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าวว่า วันที่เกิดเหตุนั้นมีตน พี่สาว และนายเอกชัย ผู้ได้รับบาดเจ็บ นอนอยู่ด้วยกัน 3 คนภายในห้อง หลังจากนั้นข่วงประมาณตี 3-4 ทุกคนก็เริ่มปิดไฟนอนกัน หลังจากนั้นประมาณตี 5 ตนก็ได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกันภายในห้อง พอตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจ นายบุญชัย ผู้ก่อเหตุบุกเข้ามาในห้องพร้อมกับหยิบมีดภายในห้อง แทงที่บริเวณลำคอโดยรอบของนายเอกชัยกว่า 5 แผล ทางด้าน น.ส.น้ำผึ้ง ก็พยายามห้าม แต่สุดท้ายก็โดนทำร้ายร่างกาย ก่อนที่ทางผู้ก่อเหตุจะฉุดตัวทาง น.ส.น้ำผึ้ง หลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เกิดเหตุตนได้สอบถามว่าทำไมทางผู้ก่อเหตุถึงทำแบบนี้ เขาเองก็บอกว่าตอนที่เขาปีนหน้าต่างขึ้นมานั้น พบว่าทางพี่สาวของตน หรือ น.ส.น้ำผึ้ง กำลังนอนกอดอยู่กับทางนายเอกชัย เลยรู้สึกโมโหและระงับอารมณ์ไม่อยู่ ประจวบกับเหตุการณ์ก่อนที่เขาจะมาก่อเหตุนั้นทาง น.ส.น้ำผึ้ง ได้โทรไปบอกเลิก แต่ทางผู้ก่อเหตุเองไม่ยอมเลิก ทำให้เขาโมโหและก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ จริง ๆ แล้วส่วนตัวก็เคยเตือนพี่สาวตลอดเรื่องความไม่ชัดเจน ย้อนไทม์ไลน์ น.ส.น้ำทิพย์ คบหาดูใจกับทาง นายเอกชัย ผู้บาดเจ็บ มานานกว่า 4 ปีก่อนที่ช่วงเดือนมกราคม 2564 ทั้งคู่ได้เลิกรากัน แต่ยังไม่ตัดขาด ก่อนที่ทาง น.ส.น้ำผึ้ง จะไปคบหากับทาง นายบุญชัย ผู้ก่อเหตุ แต่ทั้งคู่ก็ยังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันบ่อย ทำให้เหมือนจะเลิกแต่ก็ไม่เลิก เป็นปัญหามานาน ยอมรับว่าทางพี่สาวของตนผิดตรงที่ไม่ชัดเจนกับทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนทำให้เขามาทะเลาะกัน
ทีมข่าวเดินทางไปยังบริเวณซอยเพชรเกษม 67 แยก 10 ห้องพักขอลผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่จากคำให้การของฝ่ายหญิงระบุว่าก่อนที่ทางผู้ก่อเหตุจะพาหนีนั้น ได้มาเก็บข้างของเครื่องใช้จากห้องพักดังกล่าว พร้อมกับมีการทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นด้วย
นายธงชัย สว่างการ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงประมาณตี 5.30 น. ทั้งคู่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดบริเวณห้องพักซึ่งอยู่ใกล้กับร้านของตน จังหวะที่กำลังลงรถทางฝ่ายหญิงก็วิ่งมาขอความช่วยเหลือ และพูดว่า "เขาจะฆ่าหนู" ก่อนที่ตนได้เกลี่ยกล่อมให้คุยกัยดี ๆ โดยที่ทางฝ่ายชายเองก็บอกว่าไม่ได้จะฆ่า พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการโยนมีด ลักษณะคล้ายกับมีดปอกผลไม้ด้ามสีส้มทิ้ง หลังจากนั้น ตนก็ไล่ให้ไปทะเลาะกันที่อื่น ก่อนที่ฝ่ายชายจะพาฝ่ายหญิงกลับห้องพัก หายไปประมาณ 10 กว่านาที แล้วทั้งคู่ก็เดินออกมาพร้อมสัมภาระ คล้ายจะไปขึ้นรถบริเวณหน้าปากซอยเพชรเกษม 67 ยืนยันว่าวันนั้นไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายกัน มีแค่ปากเสียงทะเลาะคล้ายสามีภรรยาทั่วไป ตนตกใจหลังทราบว่าก่อนที่จะมาจุดดังกล่าวทางฝ่ายชายมีเรื่องแทงกันมาก่อน
นางมาลัย แม่ของนายเอกชัย ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ช่วงที่ไปเจอลูกชายนั้นหัวใจเเทบสลาย รับไม่ได้กับสิ่งที่ผู้ก่อเหตุทำ จากข้อมูลที่ได้รับนั้นทราบว่าทางผู้ก่อเหตุเองใช้ช่วงจังหวะทีเผลอขณะที่นอนหลับอยู่ โดยที่เขาเองไม่ได้ต่อสู้ เพราะหากเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทตนเองก็จะไม่โกรธขนาดนี้ ตนคิดว่าคงไม่ยอมความและเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่มีญาติ ตนก็ไม่ขอเรียกร้องเงิน ขอแค่ให้เขาชดใช้ในสิ่งที่ทำ ยืนยันว่าลูกขายของตนไม่เคยทำร้ายใครก่อน
ขณะที่อาการล่าสุดยังไม่สามารถขยับตัวได้ เนื่องจากบาดแผลที่โดนบริเวณลำคอตัดกับจุดกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทที่ควบคุมร่างกายท่อนล่าง แต่ไม่ถึงขั้นเป็นอัมพาต เพราะยังมีทางรักษาแต่อาจจะต้องใช้เวลา ส่วนค่าใช้จ่ายก็ใช้สิทธิประกันสังคม แต่หนักใจที่เป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นคนจ่ายค่าห้อง ค่าน้ำตกเดือนละ 2,000 บาท แต่พอเขาล้มป่วย ตนก็ต้องออกมาหางานทำ เพื่อหาเงินในส่วนนี้
ทั้งนี้ ตนเคยมีโอกาสเจอกับทางหญิงสาวแฟนของลูก ก็เคยเตือนแล้วระกับหนึ่ง ตนเห็นลูกมีความสุขก็อยากให้เขาลองใช้ชีวิตดู ไม่ได้กีดกันหรือห้ามแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่มาจากผู้หญิงไม่ชัดเจนตนก็ทราบ แต่สุดท้ายลูกมันรัก เราก็ต้องรักในสิ่งที่ลูกรักด้วย ส่วนคนก่อเหตุ ไม่ขอเจอหน้าและไม่ขอพูดคุยจะดีกว่า เพราะตนไม่อยากซ้ำเติมความรู้สึกตนเอง พูดถึงเรื่องนี้ทุกครั้งก็เจ็บแทนลูกทุกครั้ง
