"ปู่มหามุนี" มองปาเลือดใส่บ้านปมแค้น ไม่เอี่ยวคุณไสยศาสตร์มืด - ยืนชี้กล้องทำท่าปาดคอ ดูหนังมากไป

30 พ.ย. 61
จากเหตุการณ์ ชายก่อเหตุปาถุงเลือดสัตว์ ข้ามรั้วบ้านนักธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ในเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายถึง 3 ครั้ง ในรอบ 3 เดือน และทำท่าทางท้าทายใส่กล้องวงจรปิด ก่อนทำลายกล้องพัง ส่วนบริเวณภายในรั้วบ้าน ช่วงลานจอดรถ และศาลพระพิฆเณศ มีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่ นอกจากนี้หน้ากระโปรงรถยนต์ที่จอดอยู่ในบ้าน ก็ถูกเลือดปาใส่จนสีรถกร่อนนั้น
กล้องวงจรปิด ขณะปาเลือดใส่บ้าน
นายนิติกรณ์ จิตต์ประสงค์ ผู้เสียหาย
โดยนายนิติกรณ์ จิตต์ประสงค์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ครอบครัวตนทำอสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้านจัดสรรโครงการไม่ใหญ่มาก ในอำเภอเมืองหนองคาย ก่อนหน้านี้เคยมีมือดีกรีดป้ายโครงการขายบ้าน ตอนแรกนึกว่าเป็นวัยรุ่นมือบอน ก็ไมได้เอาเรื่องอะไร ส่วนเหตุการณ์ถูกคนร้ายปาถุงเลือดใส่บ้าน เกิดขึ้น 3 ครั้ง (อ่าน : หนุ่มอสังหาฯ ผวาหนัก! ถูกปาเลือดใส่บ้าน 3 ครั้ง เชื่อเป็นมนตร์ดำ คนร้ายเย้ยใส่วงจรปิด ก่อนฟาดพัง)
ปู่มหามุนี อริยดาบส ร่างทรง
วันที่ 30 พ.ย. 61 ปู่มหามุนี อริยดาบส ร่างทรงชื่อดังในโลกออนไลน์ ระบุว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ มองว่าเป็นเรื่องความแค้นส่วนตัวมากกว่า หรือแม้แต่ความบังเอิญที่เลือกวันที่ในการไปปาถุงเลือดก็ตาม ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องของความเชื่อทางพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย หรือการสาปแช่งด้วยเลือด หากจะต้องใช้เลือดให้เกิดผลทางความเชื่อด้านพิธีกรรมนั้น จะต้องใช้ในอาณาเขตบริเวณของตนเอง ส่วนใหญ่การใช้เลือดด้านพิธีกรรมนั้นจะต้องใช้เลือดคน เช่น การใช้เลือดครูบาอาจารย์ผสม แล้วลงอักษรพิธีกรรมตามความเชื่อ หรือในสมัยโบราณที่อาจจะใช้เลือดตัวเองในพิธีกรรมบูชาครู และเลือดที่มีผลต่อพระพิฆเนศนั้น ต้องเป็นเลือดประจำเดือน หรือเลือดของสาวบริสุทธิ์ ถ้าเลือกปริมาณมากเป็นถุงมาปาเป็นเลือดประจำเดือน หรือเลือดคน ก็คงไม่ใช่
เลือดที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ การกระทำของบุคคลตามที่เป็นข่าวนั้น เป็นลักษณะของอารมณ์ ความโมโห ความโกรธแค้นส่วนตัวมากกว่า ซึ่งอาจจะมีผลต่อสภาพจิตใจบุคคลที่เป็นผู้เสียหาย ที่อาจจะวิตกกังวล ระแวงเรื่องความตายเพราะบ้านที่อยู่อาศัยถูกปาด้วยเลือด แต่ถ้าหากคนที่ปฏิบัติดีชอบอาจจะไม่กังวลใด ๆ ส่วนท่าทางที่มีการยืนคล้ายการปาดคอนั้น มองว่าเป็นการจินตนาการ หรือดูหนังมากเกินไป ไม่ใช่พิธีกรรมสาปแช่งแต่อย่างใด ส่วนความคืบหน้าของคดี พันตำรวจเอกเกษม มุทาพร ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยความคืบหน้าว่า ตอนนี้รู้ตัวคนทำแล้ว แต่ขอรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้ เพื่อจะไปขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับ โดยขณะนี้พนักงานสอบสวน เรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนมูลเหตุ ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือข้อขัดแย้งเรื่องของการแบ่งทรัพย์สินมรดก

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ