สยองไฟคลอกเด็ก ม.3 ตายคารถ เพิ่งซื้อน้ำมันวางเบาะหลัง รถถูกชนทำบึ้ม (คลิป)

22 พ.ย. 64

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 22 พ.ย. 64 ร.ต.อ.อุดม ตาใจ รองสว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุรถชนกันเกิดไฟลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกภายในรถ บริเวณใกล้กับด่านช่างน้ำหนักเกาะคา ถนนพหลโยธินลำปาง-ตาก ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถดับเพลิงแพทย์ รพ.เกาะคา หน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยเกาะคา และหน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยลำปาง

387117553812

ที่เกิดเหตุบนถนนพหลโยธินขาขึ้นลำปาง ที่ร่องกลางถนนพบรถเก๋งมิตซูบิชิ รุ่นเก่า หมายเลขทะเบียน กฉ 6427 ลำปาง ถูกชนเข้าที่ด้านท้ายรถจนยุบ ไฟกำลังโหมลุกไหม้ จนท.จึงช่วยกันดับเพลิงใช้เวลาไม่นานสามารถดับเพลิงได้สำเร็จ

458436

หลังเพลิงสงบภายในที่นั่งข้างคนขับพบศพ นายวสิงห์หล สายสุด อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ของ กศน. ถูกไฟคลอกจนดำเป็นตอตะโก โดยผู้มีขับขี่คือนายถนอม ชัยวังตา อายุ 81 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นตา สามีใหม่ยาย เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกมาจากรถ ใกล้กันพบรถกระบะโตโยต้าตอนเดียวสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ฒท 1212 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้ารถพังยับ โดยมี นายชัยรัตน์ ขจรวีรพันธ์ อายุ 40 ปี เป็นคนขับยืนรอให้การกับตำรวจ ระบุว่ารถคู่กรณีขับมาเร็วและเบรกกะทันหันก่อนเกิดเหตุ

777758

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้กล้องวงจรปิด นาทีที่นายถนอมได้ถอยรถเก๋ง เพื่อหลบด่านของตำรวจ โดยอยู่เลนขวาสุด เมื่อถอยได้ 200 เมตร จะทำการเลี้ยวรถไปยังด่านช่างน้ำหนักเกาะคา แต่ถูกรถกระบะที่ตามหลังมาพุ่งชนเข้าเกาะกลาง จนเกิดไฟรุกไหม้ด้านหลังของรถเก๋ง จากนั้น คนขับรถกระบะได้ลงไปช่วยนายถนอม สักพักนายถนอมสามารถออกมาจากรถเก๋งได้ ก่อนที่นายถนอมจะไปช่วยเหลือนายวสิงห์หล ผู้เสียชีวิต ขณะที่ไฟกำลังรามไหม้รถทั้งคัน

314494

นายชูชีพ กันทา อายุ 46 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งด่านจับใบขับขี่ และหมวกกันน็อก พอเวลา 09.40 น. ตนเห็นเก๋งมิตซูบิชิขับอยู่เลนซ้าย ผ่านตรงบริเวณด่านช่างน้ำหนักเกาะคาไป ก่อนที่ตนหันไปพบว่าเก๋งคันดังกล่าวได้เปลี่ยนเลนไปอยู่เลนขวา พร้อมกับถอยรถกลับมา 200 เมตร กระบะได้พุ่งชนท้ายไปอยู่เกาะกลาง จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้รถเก๋ง

745592

ขณะเดียวกันทางคนขับรถกระบะได้ลงไปช่วยเหลือคนขับรถเก๋ง มีการดึงกันออกมา พอคนขับรถเก๋งจะออกมาจากรถได้ วิ่งไปฝั่งของคนนั่งโดยสารด้านข้างพยายามยื้อยุดฉุดกระชากอะไรสักอย่าง แต่ไม่สำเร็จ ไฟลุกลามไปทั่วรถแล้ว ขณะนั้นทั้ง 2 คน ไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะมีชาวบ้านโทรศัพท์แจ้งดับเพลิงมาที่เกิดเหตุ ใช้เวลาสักระยะหนึ่ง รถดับเพลิง 3 คันมาทำให้ทราบว่าภายในรถมีเด็กอยู่ 1 คน ที่นั่งข้างคนขับ สภาพถูกไฟคลอกเหลือไหม้หมด

ตนคาดว่าสาเหตุที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เพราะร่างของผู้ตายถูกอัดกับรถ พร้อมกับหมดสติ และไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นทราบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวได้บรรทุกถังน้ำมัน 2 ถัง เพื่อจะนำไปตัดหญ้า จึงทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้รถ ส่วนกรณีที่คนขับเก๋งถอยรถเพื่อหลบด่าน เนื่องจากรถเก๋งคันดังกล่าวไม่ได้ต่อภาษีประจำปีมาได้ 3 ปี ตนมองหาคนขับเก๋งยอมจ่ายค่าปรับคงไม่เกิดเหตุแบบนี้เกิดขึ้น และคงจะไม่มีใครเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ถนนเส้นดังกล่าวผู้ที่ใช้สัญจรมักขับกันด้วยความเร็ว ควรขับขี่กันด้วยความระมัดระวังให้มาก

732899

ที่วัดนาแก้วตะวันออก สถานที่บำเพ็ญกุศล นายวสิงห์หล สายสุด อายุ 17 ปี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติและชาวบ้านได้มาช่วยกันเตรียมงานศพ ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่กรมปกครองเดินทางมารุดเยี่ยม พร้อมกับมอบเงินให้เบื้องต้น ช่วยเหลือทำศพ 3,000 บาท

479144

น.ส.เพชร สายสุด อายุ 42 ปี แม่ของผู้ตาย เผยว่า ตนมีลูกเพียง 1 คน ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับทางผู้เป็นแม่และนายถนอม สามีใหม่ของแม่ มีศักดิ์เป็นตาของลูกชาย ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ลูกชายมาบอกว่าจะไปจ่ายค่าไฟกับนายถนอม ตนไม่ได้ห้ามปราม เพราะลูกชายมักออกจากบ้านไปกับนายถนอมอยู่เป็นประจำ ต่อมามีเพื่อนบ้านโทรมาแจ้งว่าลูกชายและนายถนอมประสบอุบัติเหตุ ให้ทำใจไว้ เพราะลูกชายเสียแล้ว

ขณะนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุกับลูกชาย เบื้องต้น ไม่ได้สอบถามเหตุการณ์กับทางนายถนอม ตนไม่ทราบว่านายถนอมถอยรถกลับ และนำน้ำมันไว้หลังรถทำไม ส่วนตัวไม่ทราบว่ารถใบต่อภาษีหมดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้โกรธเคียงนายถนอม คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ สำหรับที่ผ่านมา ยอมรับว่านายถนอมขับรถด้วยความเร็ว นอกจากนี้ ลูกชายลักษณะนิสัยดี เป็นเด็กที่พึ่งพาอาศัยได้ พอเกิดเหตุยังทำใจไม่ได้ ขณะเดียวกันตนไม่ได้มีลางสังหรณ์

403077

ด้านนางหลาน สายสุด อายุ 76 ปี ยายของผู้ตาย เผยว่า ก่อนเกิดเหตุหลานชายชวนตนไปเที่ยวในเมืองกับทางนายถนอม สามีใหม่ ซึ่งตนได้ห้ามแล้ว เนื่องจากอยากพักผ่อนอยู่ที่บ้าน จากนั้นนายถนอมได้ขับรถเก๋งออกไปกับหลานชายตามปกติเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยไม่มีรางสังหรณ์ ก่อนที่เพื่อนบ้านจะสอบถามว่านายถนอมกับหลานชายไปไหน ตนบอกเพียงว่าไปในเมือง คาดว่าเพื่อนบ้านน่าจะไม่กล้ามาบอกข่าว เพราะตนอยู่บ้านเพียงลำพัง กลัวเป็นอะไรขึ้นมา กระทั่งน้องสาวของตนโทรศัพท์แจ้งมาบอกว่าหลานชายเสียแล้ว

ตนทำอะไรไม่ถูก เหมือนหัวใจถูกควักออกมา และรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับศพหลานชาย ที่ผ่านมาหลานชายเป็นคนดี ถึงแม้ว่าจะพิการทางสมอง แต่ช่วยตนทำมาหากิน ส่วนนายถนอมอยู่กินกับตนได้ 5 - 6 ปีแล้ว ขับรถไม่ประมาทและขับไม่เร็ว ภายหลังจากเกิดเหตุตนยังไม่ได้พูดคุยหรือสอบถามนายถนอมกับเหตุการณ์ที่เกิด ส่วนตัวไม่ทราบว่านายถนอมถอยรถทำไม

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วพูดไม่ออกว่าโกรธนายถนอมหรือไม่ คนหนึ่งก็เป็นหลานชายที่เสียชีวิต คนหนึ่งก็เป็นสามี ทั้งนี้ หากมีโอกาสตนก็อยากให้หลานชายไปสู่ภพภูมิที่ดี

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส