นาทีสังหาร! หนุ่มหลอนบุกยิงหัวช่างไม้ สุดช็อกแม่มือฆ่าเดินตามหลังอ้างห้ามไม่ทัน (คลิป)

15 พ.ย. 64

จากกรณีเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 พันตำโทศิลปชัย พลอยมี สารวัตร (สอบสวน) สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิต ภายในซอยศาลาธรรมสพน์ 13 แยก 2 (ซอยผู้กองอาลักษณ์) เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

267988

ซึ่งพบที่เกิดเหตุเป็นแคมป์คนงาน ไม่มีเลขที่ สูง 2 ชั้น ที่ชั้นล่างด้านในพบศพนายสม้อย นาชัยเงิน หรือ อี๊ด อายุ 50 ปี ชาวจ.กาฬสินธุ์ เป็นช่างไม้ ที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 2 นัด ที่บริเวณศีรษะ นอนหงายจมกองเลือด ในสภาพศพสวมเสื้อกล้าม นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทาใกล้กันพบเศษหมูกระจายเกลื่อนพื้น เบื้องต้นป่อเต็กตึ๊งนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.นิติเวช รพ.ศิริราช ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดสืบหาเส้นทางในการหลบหนี ก่อนนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

221761

วงจรปิดจับภาพนายธนวัฒน์ก่อเหตุยิงนายสม้อย ช่างไม้เสียชีวิต โดยนางปราณี ผู้เป็นแม่เห็น และตามไปดูศพหลังลูกก่อเหตุเสร็จ ตามคำให้สัมภาษณ์ของนางปิยากร นาชัยเงิน ภรรยาผู้เสียชีวิตว่า นางปราณีเดินเข้าไปจึดที่นายสม้อยนอกตายก่อนพูดว่า "ป้าขอโทษ ป้าไม่ได้ทำลูกป้าเป็นคนทำ"

945085;0ixbf-c,jgfbo9k,

วงจรปิด 4 มุม จับภาพนายธนวัฒน์เดินออกจากบ้านและแวะเข้าสวนหลังบ้าน เวลา 18.10 น. ก่อนกลับเข้าบ้าน และออกมาอีกครั้งตอนเวลา 18.32 น. ชูมือขึ้นลักษณะเหมือนยิงปืนขึ้นฟ้า จากนั้นเวลา 18.32 น. นางปราณีเดินตามลูกชายไป นายธนวัฒน์ เดินผ่านกล้องข้างแคมป์ตอน 18.32 น. เข้าข้างแคมป์คนงาน ซึ่งมีประตูเข้าหลังแคมป์คนงาน ใช้เวลาเข้าไปก่อเหตุเพียง 1 นาที ก่อนวิ่งออกมาตอนเวลา 18.33 น. เดินสบายใจ พร้อมสูบบุรี่ ก่อนนึกขึ้นได้ว่าต้องวิ่ง จากนั้นนายธนวัฒน์วิ่งเข้าบ้านไปโดยใช้เวลาเพียง 1 นาที เข้าไปเอารถโตโยต้าขับออกจากบ้านหลบหนีไป หลังจากนั้น นางปราณี ผู้เป็นแม่ได้เดินออกจากบ้าน เข้าไปยังแคมป์คนงาน หลังลูกชายก่อเหตุแล้ว

396031

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุที่แคมป์คนงานดังกล่าว พบว่าบ้านนายธนวัฒน์ แจ้งพูล หรือ ปิ๊ก อายุ 34 ปี ผู้ก่อเหตุ ห่างจากแคมป์คนงานเพียง 3 เมตร หรือห่างแค่ความกว้างถนนเท่านั้น อีกทั้งยังพบกล้องวงจรปิดติดทั่วแคมป์คนงานตั้งแต่หน้าแคมป์และภายในแคมป์ ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตมีการเชิญพระสงฆ์ 1 รูป มาเชิญดวงวิญญาณนายสม้อย ให้กลับบ้านที่จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่เช้าตรู่โดยจะมีการรับศพที่นิติเวช รพ.ศิริราช ช่วงบ่ายวันนี้

690766

ล่าสุด นางปิยากร นาชัยเงิน ภรรยาผู้เสียชีวิต และลูกสาวที่เคยถูกนายธนวัฒน์ทำร้ายร่างกาย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 มีการลงบันทึกประจำวันไว้แต่คดียังไม่คืบหน้า ได้เดินทางให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา ตั้งแต่ 10.00 น. โดยใช้เวลาให้ปากคำนานกว่า 3 ชม.

686135

นางปิยากร ยืนยันว่า หลังสิ้นเสียงปืนยิ่งไปดูสามีนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตแล้วแต่ตนไม่เห็นคนก่อเหตุ มีแต่น้องที่อยู่ห้องข้างกัน นั่งล้างจานหันหลังให้สามีตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่กลัวจึงวิ่งหนีเข้าห้องไป ยืนว่าสามีไม่เคยมีปัญหาอะไรกับผู้ต้องหาแม้แต่ครั้งเดียว โดยเฉพาะการพูดคุยก็ไม่เคย และไม่เคยสนิทสนมกับแม่ผู้ต้องหาด้วยเช่นกัน และมิหนำซ้ำแม่ผู้ต้องหาดูใจเย็น มีการเดินเข้ามาบอกสามีตนที่ไม่มีลมหายใจแล้วด้วยการยกมือไหว้ พร้อมบอกว่า "ป้าขอโทษ ป้าไม่ได้ทำ ลูกป้าเป็นคนทำ" นาทีนั้นตกใจมาก ไม่ทันได้ถามอะไรเลย แต่ที่ผ่านมาคนเป็นแม่เข้าข้างลูกตัวเองตลอด

สำหรับตนและสามีมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เพื่อทำงานหาเงิน แต่วันหนึ่งลูกสาวถูกผู้ต้องหาทำร้าย วันนั้นยอมรับว่าสามีโกรธมากจริง ๆ แต่ตนบอกสามีว่าเราดำเนินคดีแล้ว ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และมาทำงานหาเงิน อย่าไปยุ่งวุ่นวาย ที่แล้วให้แล้วไป จึงให้ลูกออกไปทำงานที่อื่นแทน ซึ่งสามีก็ม่เคยคิดแค้นที่จะไปทำร้ายกลับ แต่สุดท้ายคดีก็ไม่มีความคืบหน้า จนมาวันนี้สามีถูกยิงไม่ทราบสาเหตุ ตนเสียใจมากที่ขาดเสาหลัก

อย่างไรก็ตาม ตนรับได้ที่ผู้ต้องหามอบตัว ขอให้ตำรวจดำเนินการอย่างถึงที่สุด ตนไม่ขอพูดอะไร ไม่ให้อภัย ไม่อโหสิกรรม และไม่ต้องมาขอขมากัน ให้รับกรรมที่ก่อไว้

438673892889

เมื่อเวลา 10.00 น.นายธนวัฒน์ แจ้งพูล หรือ ปิ๊ก อายุ 34 ปี ผู้ก่อเหตุ เดินทางเข้ามอบตัวพร้อมนายเอนก แจ้งพูล อายุ 60 ปี พ่อ, นางปราณี แจ้งพูล อายุ 60 ปี แม่ และภรรยา ที่เกิดเหตุ จากนั้นทราบข้อมูลว่านัดหมายที่ติดต่อผ่านพ่อและแม่เพื่อขอมอบตัวที่ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ก่อนคุมตัวมาที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ จากการสังเกตภายในห้องสืบสวนพ่อและแม่ผู้ต้องหา นั่งก้มหน้าเครียด ด้านผู้ต้องหาก็นั่งนิ่งให้การกับตำรวจรับสารภาพว่ามึนเมาและหูแว่วได้ยินเสียงคนจะมาทำร้าย จึงได้นำอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .22 มม. ออกมายิงปืนขึ้นฟ้า 3 นัด ก่อนจะเดินเข้าไปในแคมป์พัก เห็นผู้ตายกำลังนั่งหันหลังทำกับข้าว จึงยิงใส่จำนวน 2 นัด ก่อนจะเดินออกมาแบบไม่รู้สึกอะไรและหลบหนีไปบ้านญาติที่นครปฐม และวางแผนจะไป จ.กาญจนบุรี แต่แม่โทรศัพท์ให้มามอบตัว

cg

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.15 น. ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเดินทางมาที่ สน.ธรรมศาลา เข้าตรวจสอบลายนิ้วมือบนปืนที่ใช้ก่อเหตุซึ่งพบว่าเป็นปืนลูกโม่ .22 มม. พร้อมตรวจคาบเขม่าดินปืนที่ตัวผู้ต้องหาเพื่อรวบรวมหลักฐานในการแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่จะตรวจสอบด้วยว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของผู้ใด และเป็นปืนมีทะเบียนถูกต้องหรือไม่อย่างไร

จากนั้นเวลา 15.40 น. ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ ก่อนนำตัวส่งศาลจังหวัดตลิ่งชันทันที โดยไม่มีการทำแผนฯ

124075

นายเอนก แจ้งพูล อายุ 60 ปี พ่อผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ลูกรับสารภาพทั้งหมด ยอมรับว่าใจร้อน หลังจากมีอาการหูแว่วเพราะแคมป์คนงานอยู่กันหลายสิบครอบครัว ลูกคงได้ยินคนงานคุยกันและระแวงหาว่าคนงานด่าท่อ จึงคิดไปเองว่าจะมีคนจะมาทำร้าย จึงใช้ปืนที่ขอปู่มาตั้งแต่ปู่มีชีวิตอยู่ไปเข้ายิงคนงาน ซึ่งวันนั้นยอมรับว่าเห็นลูกสะพายเป้ออกไป ตนนั่งดูโทรทัศน์อยู่ ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าคงไประบายอารมณ์เหมือนที่เคยทำ ทั้งการยิงปืนขึ้นฟ้า และจุดลูกปิงปอง โดยไม่คิดว่าลูกจะไปก่อเหตุฆ่าคน

ส่วนอาการหูแว่วเป็นหลังแคมป์คนงานติดวงจรปิด ซึ่งพบว่าลูกจะหงุดหงิดแสงไฟจากกล้อง และก็เคยหาไม้เขี่ยหมุนให้กล้องไปอยู่แนวถนน และยืนยันว่าไม่เคยทำลายข้าวของแคมป์คนงาน สำหรับตนมีลูกคนเดียว ไม่เคยคิดว่าลูกจะก่อเหตุร้ายแรงขนาดนี้ วันนี้ลูกติดคุกก็เป็นห่วงธรรมดา โดยเฉพาะอาการทางจิต เพราะตอนวัยรุ่น ลูกเคยยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด แต่ตอนนี้เชื่อว่าลูกไม่ยุ่งเพราะบริษัทที่ลูกทำงานมีการตรวจสารเสพติดประจำ ถ้าพบจะโดนไล่ออก จึงฝากเจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องจิตเวชด้วย ส่วนจะประกันตัวหรือไม่ตอนนี้กำลังปรึกษากันอยู่ แต่ฝ่ายคนตาย ตนเตรียมช่วยดูแลแน่นอน "ลูก ๆ ทุกคนถ้ามีอะไรก็ปรึกษาพ่อแม่บ้าง อย่าทำอะไรโดยพละการ มันก็ไม่ดี"

749667

นางปราณี แจ้งพูล อายุ 60 ปี แม่ผู้ต้องหา ซึ่งปรากฎอยู่ในวงจรปิดทั้งก่อนและหลังลูกชายก่อเหตุยิงช่างไม้ เผยภายหลังเข้าให้ปากคำกับตำรวจเพียงสั้น ๆ ว่า น้องรับสารภาพว่าขณะนั้นบันดาลโทสะ ซึ่งขณะนี้น้องมีอาการเครียดนิดหน่อย ส่วนปมการก่อเหตุไม่รู้ว่าเรื่องอะไร และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องถนนที่ใช้ร่วมกัน เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นทางร่วม หลังจากนี้อาจจะมีการประกันตัว แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบวงเงิน

504506

ด้านนางสาวรุ่งทิวา นาชัยเงิน อายุ 20 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันที่ตนถูกทำร้าย 20 ก.ค.64 เวลา 19.49 น. ตนออกไปซื้อของและขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้ามาโดยแฟนสาวซ้อนท้าย ยอมรับว่าเห็นคนร้ายยืนอยู่กลางทาง คิดว่าคงมีปัญหาทะเลาะกับพ่อแม่ของเขา ตนจึงขี่รถเข้าไป แต่จู่ ๆ มันก็วิ่งมาต่อยตนตกรถ ตนงงว่าทำอะไรผิด ซึ่งยอมรับว่าก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาแค่โวยวาย ปาขา จุดประทัด ตนก็จะเข้าห้อง แต่วันนั้นจากการสังเกตสีหน้าตาเหมือนคนขาดสติ เมายา และหลอน มากทั้งล็อกคอ ต่อย 2 ครั้ง เตะ 1 ครั้ง จนตาตนจนบวม ดีที่แม่มันมาดึงมันออก แฟนตนจึงรีบขี่รถ ตนก็รีบขึ้นรถเข้าโรงงาน

ทั้งนี้ วันนั้นแม่ผู้ต้องหาจะให้ค่าเสียหาย แต่แม่ตนเองบอกว่าไม่ต้องเอาเงินเขา เพราะแจ้งความแล้วก็มั่นใจว่าจะดำเนินคดีให้ และตนก็ตัดสินใจไปทำงานที่ชลบุรี เพื่อให้พ่อกับแม่ทำงานง่ายขึ้นไม่ต้องเป็นห่วงตนซึ่งตนก็ไปประมาณ 2 เดือน สุดท้ายคดีก็ไม่คืบอะไร

นางสาวรุ่งทิวา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ไม่อยากเห็นหน้าคนร้ายเลย ตนเสียใจมากที่ทำกับพ่อตน พ่อไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยมีปัญหากับใคร พ่อเป็นคนดีมาก ขยันทำมาหากิน วัน ๆ ไม่ค่อยได้คุยกับพ่อ วันที่พ่อจากไปก็ไม่ได้คุยกับพ่อ ตนขอให้มันรับกรรมที่ทำกับพ่อ กลัวมันหลุดออกมาทำร้ายคนอื่นอีก

996290

ทีมข่าวย้อนกลับมายังจุดเกิดเหตุ พบกลับคนงานที่พักอาศัยในแคมป์ก่อสร้างมารวมกลุ่มกันจำนวนกว่า 20 คน จากการสอบถามคนงานบอกว่าจะมาดูหน้าผู้ต้องหา นางสมพร ภู่ชำโชติ อายุ 47 ปี คนงานที่เคยพักในแคมป์คนงานตรงข้ามบ้านผู้ต้องหา เล่าว่า ตนมาอยู่ทำงานก่อสร้างและอยู่กับสามีหลายปีจนกระทั่งประมาณ 6 เดือนก่อนที่ยังไม่มีกล้องวงจรปิด นายปิ๊ก ผู้ต้องหา ถือปืนเข้ามาเคาะประตู ซึ่งสามีนอนอยู่ในห้อง และตะโกนว่า "ไอส้มไอหน้ากี มึงออกมา" สามีออกมาก็ถึงกับผวา เพราะเห็นปืน

จากนั้น เห็นท่าไม่ดีตนจึงย้ายออกมาอยู่อีกแคมป์ห่างกันประมาณ 500 เมตร ได้ 4 เดือน พร้อมกับคนอื่น ๆ รวมถึงคายตายด้วย จนกระทั่งสถานการณ์ดีขึ้นเห็นมีเพื่อนคนงานกลับเข้าไปอยู่ รวมถึงคนตายด้วยตนและสามีจึงกลับเข้าไป แต่นอนได้ 1 คืน เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา นายปิ๊กเอารถจอดขวางทางไว้ สามีตนซึ่งมีหน้าที่ขับรถส่งคนงานจึงขับรถออกมาไม่ได้ จึงย้ายกลับออกมาอยู่ที่อีกแคมป์เหมือนเดิม แต่คนตายซึ่งไม่ได้มีปัญหากับใคร รวมถึงนายปิ๊กด้วย จึงอยู่ต่อกับคนงานอีก 2-3 ครอบครัว จนมาเกิดเหตุ

ทั้งนี้ ส่วนตัวตนกับสามีรู้จักแม่คนก่อเหตุ เพราะแม่คนก่อเหตุเคยมาบ่นสามีตน เรื่องใช้ถนนเข้าออกเพราะตอนนั้นรถส่งคนงานยังเป็นรถดั๊ม 4 ล้ออยู่น้ำหนักรถค่อนข้างหนัก สามีตนจึงเอาเศษอิฐมาถมให้จึงได้พูดคุยกันบ้าง จนกระทั่งบริษัทเปลี่ยนรถใหม่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

นอกจากนี้ส่วนตัวค่อนข้างแค้นนายปิ๊ก ที่กระทำกับสามีตนเช่นนั้น วันนี้มาถ้าได้เจอตนก็อยากจะตี กระทืบมันให้เจ็บ แต่สุดท้ายก็ไม่มาทำแผน ใจตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า "อยากให้มันตาย ๆ ไป" ออกมาก็จะทำคนอื่นลำบาก ทุกวันนี้อยู่กันแบบระแวง แค่เห็นรถมันก็วิ่งหนี คนแบบนี้ไม่มีใครไปมีปัญหาด้วยอันธพาลใส่คนอื่นไปทั่ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส