จากกรณีนางสาวณัชพร อายุ 49 ปี และนางสาวเมย์ อายุ 19 ปี แม่ลูกที่เชื่อว่าตัวเองจะต้องละสังขาร ในวันที่ 30 ต.ค. 64 และ 18 มี.ค. 65 ซึ่งทางครอบครัวมีความกังวลว่าจะเกิดเรื่องร้าย จนเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน และนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ล่าสุด พบว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันชีวิตมอบผลประโยชน์ให้พระ และมีการจ่ายเงิน 3 แสนบาทเพื่อซื้อโลงศพด้วยนั้น
วันที่ 29 ต.ค. 64 ที่สำนักสงฆ์ซำป่าหัน ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี เช้าวันนี้พระอาจารย์สุนิตร อินทะคุตโต เจ้าสำนักสงฆ์ซำป่าหัน มีท่าทีหน้าบึ้งตึง คล้ายไม่พอใจ ทีมข่าวพยายามถามว่าพระอาจารย์จะเดินทางไปรับสังขารของนางสาวณัชพรตอนไหน พระอาจารย์ก็เดินหนี บอกแต่ว่าให้รอชมการไลฟ์ของนางสาวณัชพรเย็นนี้ ขออย่ามาคุกคามอาตมา
จากนั้น นางสาวณัชพรโทรศัพท์เข้ามาหาพระอาจารย์สุนิตร ถามว่านักข่าวยังอยู่ที่สำนักสงฆ์หรือไม่ พระอาจารย์สุนิตรบอกว่าอยู่ แล้วก็ส่งโทรศัพท์ให้นางสาวณัชพรคุยกับนักข่าว ถามว่า "พวกคุณมาทำไมกันคะ เดี๋ยวเย็นนี้จะมีการไลฟ์สดชี้แจง อย่าได้เข้าไปคุกคามตรงนั้นนะคะ เพราะตรงนั้นไม่มีอะไรจะให้" พร้อมเสียงใส่ บอกให้ทีมข่าวหยุดพูด "แล้วก็ฟังนะพ่อคุณนักข่าวรูปหล่อเจ้าขา รอให้พระศิริลักษณ์สังขารนี้เดินทางไปถึงก่อนนะ"
นางสาวณัชพร บอกว่า พอละสังขารแล้วก็ต้องรอจัดการเรื่องใบมรณะให้เสร็จเสียก่อน จึงจะเคลื่อนพระศพไปอย่างสมเกียรติ แล้วการลงพื้นที่ของสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวที่สำนักสงฆ์ ต้องห่อข้าวมากินกันเองนะ เพราะสำนักสงฆ์แห่งนี้ไม่ค่อยมีเงิน นักข่าวถามว่า "ท่านจะละสังขารกี่โมงกี่ยาม" นางสาวณัชพรพูดเปลี่ยนเป็นอีกเสียง บอกว่าถามไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เรื่องเงินประกันที่ทำให้สำนักสงฆ์เป็นความพึงพอใจ เป็นเงินส่วนตัวของร่างนี้ที่จะมอบให้สำนักสงฆ์ ลูกฉันเงินเยอะแล้ว มีความประสงค์อยากจะทำบุญก็แค่นั้น คนที่ทำบุญเป็น 10-20 ล้าน ทำไมไม่ไปขุดคุ้ยกัน "ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป นักข่าวก็ต้องไปศึกษาธรรมะนะ ไม่ใช่ไปขุดคุ้ยจี้คนนั้นคนนี้ แล้วข่าวที่ออกไปว่าทำโลงศพเป็นแสนมันเป็นความจริงที่ไหน โลงที่ทำสร้างยังไม่ถึงหมื่น พากันไปลงข่าวไม่กลัวบาปกันหรือยังไง แล้วเมื่อวานมาบุกที่บ้านกัน โทรศัพท์หายไป 2 เครื่อง พร้อมกับหูฟัง นักข่าวบ้าอะไรขี้ขโมยขนาดนี้"
ซึ่งการที่บุกกันเข้าไปในบ้านไม่เห็นหรอว่าพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านนั่งประทับอยู่ตรงนั้น และการที่เข้าไปเมื่อวานทุกคนที่เข้าไปก็ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาละสังขารแล้วไม่ตื่นเต้นเลย พร้อมย้อนถามนักข่าวว่า "คุณรู้วันตายของตัวเองหรือไม่ว่าจะตายเมื่อไร แล้วรู้หรือไม่ว่าฉันฝึกมาดี ความจริงร่างนี้จะละสังขารตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.แล้ว"
ทีมข่าวถามว่าถ้าหากวันพรุ่งนี้ท่านไม่ละสังขาร จะทำอย่างไรต่อไป นางสาวณัชพรบอกว่าพวกคุณก็ต้องรอดูตอนต่อไป ส่วนที่หมอปลาเข้าไปในบ้านต้องกราบท่านก่อนถึงจะคุยเพราะฉันเป็นพระ หมอปลาเป็นใคร ศีลก็ไม่มี หัวโล้นเฉย ๆ แล้วรู้หรือไม่ว่าหมาแท้ เวลาพระเจ้าสวดมนต์ยังนั่งฟัง พวกคุณเป็นมนุษย์แท้ ทำไมไม่ฟังกัน
ส่วนเรื่องเมื่อวานนี้ที่โทรศัพท์หายไป ตนไม่เอาเรื่องเพราะตอนนี้ละทุกอย่างแล้ว แต่เป็นเรื่องที่น่าอายมากที่ทำกันแบบนี้ ส่วนหมอปลา ก็เข้าใจว่ามาทำหน้าที่ของเขา แต่การมาของเขาทำผิด สำคัญมากเกินไปว่าตัวเองเก่งตัวเองดี แต่หมอปลาก็อย่าลืมว่ายังมีคนที่เหนือกว่า เช่นเหนือฟ้ายังมีฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างจะกระจ่าง
เวลาประมาณ 11.00 น. น.ส.เมย์ ลูกสาวของนางสาวณัชพร โทรไปแจ้งกับตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบสื่อมวลชนที่มาทำข่าว กล่าวหาว่ามาคุกคามที่สำนักสงฆ์ จังหวะนั้นน้องเมย์โทรเข้ามาที่เบอร์ลูกศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรม และขอคุยกับทางตำรวจ บอกว่าลูกศิษย์ที่สำนักสงฆ์ถูกนักข่าวคุกคาม มารื้อดูของแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย ตำรวจก็ถามน้องเมย์ว่าถ้าถูกคุกคามทำไม่ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ น้องเมย์ก็บอกว่าที่นั่นมีแต่ป้า ๆ ยาย ๆ ไม่สามารถเดินทางไปแจ้งความได้
น้องเมย์พยายามจะอธิบายให้ตำรวจฟังอีกว่าข่าวที่ออกไปเกินจริง เขาว่าแม่หนูบ้าถึงขั้นทำประกันมอบให้สำนักสงฆ์ซำป่าหัน และคิดว่าแม่จะฆ่าตัวตาย ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ แม่ทำประกันให้สำนักสงฆ์คือการทำบุญตามปกติ จากนั้น มีลูกศิษย์ที่เป็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาไล่สื่อมวลชนที่มาทำข่าวให้ออกไปจากสถานที่ของสำนักสงฆ์ทั้งที่เป็นที่สาธารณะ
พระอาจารย์สุนิตร เปิดใจว่า ตามกำหนดเดินทางของพระอาจารย์ที่จะเดินทางไปรับสังขารของนางสาวณัชพร ก็คือตอนเช้า หลังจากนางสาวณัชพรละสังขารตามกำหนด ก็น่าจะประมาณช่วงก่อน 08.00 น. และคืนนี้จะติดตามการละสังขารทางโทรศัพท์ของทาง นางสาวณัชพรที่จะเดินทางไปก็ไม่ได้มีพิธีอะไรมากนัก แต่เป็นการเดินทางไปเคารพกราบไหว้ร่างที่ละสังขาร และขอยืนยันว่าอาตมาเองไม่ได้ชี้วันตายของนางสาวณัชพร ยอมรับว่าตัวอาตมาเองนั้นยังไม่ได้จบจิตเหมือนนางสาวณัชพร ซึ่งนางสาวณัชพรเคยเป็นบุตรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นบุตรของพระแม่กวนอิม ที่เชื่อเพราะตัวพระอาจารย์เองนั้นเคยศึกษาเรื่องนี้มาบ้างแล้ว พวกเราทุกคนเป็นลูกของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่วนเรื่องที่หมอปลาไปที่บ้านของนางสาวณัชพร เป็นเรื่องที่น่าสงสาร ไปทำร้ายน้องเมย์ ไปกอดแล้วก็ตีเขามันไม่ถูก และน่าเกลียดมาก อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามว่านางสาวณัชพรจะละสังขารตามกำหนดจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องประกันที่เป็นข่าวว่านางสาวณัชพรทำประกันไว้ให้ทางสำนักสงฆ์ ยอมรับว่าไม่เคยทราบเรื่องนี้ รู้แต่เพียงว่านางสาวณัชพรมาทำบุญที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เพราะความเลื่อมใสเท่านั้น เรื่องที่ทางเจ้าคณะอำเภอจะเชิญตัวกลับไปอยู่ที่วัดต้นสังกัด ยอมรับว่าทราบเรื่องแล้ว การกลับไปก็ขอให้ทางเจ้าคณะอำเภอเอาหลักฐานมายืนยันว่าตนเองมีความผิดอะไรบ้าง หากผิดจริงก็จะยอมกลับไปตามคำสั่ง