“เน วัดดาว” ป้องแก๊งญาติสกรัมอริหน้าแหก แจงชัดตัวต่อตัวถูกตัดคลิปใส่ร้าย (คลิป)

25 ต.ค. 64

เมื่อวันที่ 25 ต.ค.64 ที่กองบังคับการตำรวจปราบปราม ถนนพหลโยธิน นางศิวพร น้อยเอ๋ย อายุ 54 ปี พร้อมด้วยนางนิภารัตน์ ประจัน หรือ มิ้น อายุ 27 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ชนินทร ง่วนสน รอง ผกก.พนักงานสอบสวน กก.1.บก.ป. เพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากถูกกลุ่มวัยรุ่นย่านวัดดาวรุมทำร้ายร่างกายตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.64 ที่ผ่านมา แต่จนถึงวันนี้คดีไม่คืบหน้า ทั้งที่มีคลิปกล้องวงจรปิดและชื่อผู้ร่วมกันทำร้าย แต่ตำรวจยังไม่ได้เรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อหา

569649

ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังชุมชมโค้งถ่าน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ พบกับนางนิภารัตน์ ประจัน อายุ 27 ปี หรือ มิ้น ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเคยคบกับผู้ชายคนหนึ่งและมีลูกด้วยกัน 2 คน แต่เลิกกันไปประมาณ 4 ปีแล้ว และลูกคนดังกล่าวตนเป็นคนเลี้ยงดูเอง กระทั่งช่วงโควิด-19 ตนหาเงินไม่ค่อยได้ จึงใช้เฟซบุ๊กของแฟนใหม่ส่งข้อความไปหาอดีตสามี ในทำนองว่า "เรากำลังแย่ แต่ยังไม่ได้เอ่ยปากขอเงิน จู่ ๆ แฟนใหม่ของอดีตสามีได้โทรกลับมาหา และต่อว่าตนว่า มาขอเงินทำไม ทำให้มีปากเสียงกันเล็กน้อย"

352992

หลังจากที่มีปากเสียงกัน อีกฝ่ายได้โพสต์ด่าตนในเฟซบุ๊ก และเมื่อตนได้เข้าไปดูโพสต์ดังกล่าว พบว่า นางสาวตาล รุ่นน้องของตนและอดีตสามี ได้เข้าคอมเมนต์ให้กำลังใจอีกฝ่าย ซึ่งทำให้ตนไม่พอใจ ตนจึงส่งข้อความกลับว่า “ไม่ต้องเสือก” จากนั้นแฟนของนางสาวตาล ได้ส่งข้อความกลับมาว่า “สดจริงเปล่า สดจริงให้เข้ามาที่วัดดาว” พร้อมกับด่าและให้ของลับ

ต่อมาแฟนหนุ่มและนางสาวตาล ได้เข้ามาเคลียร์ที่บ้าน ตนเลยเข้าไปพูดคุยกัน และเจรจากันจบเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ดี ๆ พี่ชายของนางสาวตาล ได้โพสต์พาดพิงถึงตนอีกครั้ง แต่ตนไม่ได้อยากมีปัญหา กระทั่งวันที่ 13 กันยายน 64 เวลา 21.00 น. ตนได้เดินทางไปหาหมอ ขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้าน แม่ได้โทรมาบอกว่า ไม่ต้องรีบเข้าบ้าน เพราะพี่ชายของนางสาวตาล พร้อมพวกอีกประมาณ 10 กว่าคนได้ตามมาถึงที่บ้าน ตนจึงนั่งรออยู่ที่บ้านเพื่อน เพราะตนกลัวความปลอดภัย แต่ระหว่างที่รอแฟนใหม่ของตนได้บอกว่าจะเข้าไปเอารถ เพราะเพิ่งจะซื้อรถใหม่ เลยเป็นห่วง ตนจึงอาสาที่จะไปเอารถมาให้เอง

ขณะที่ตนไปเอารถ ตนขับรถออกมาได้แค่ไม่กี่นาที พี่ชายของนางสาวตาล พร้อมพวกได้เข้ามาขวางทาง พร้อมกับบอกให้จอดรถ ถามว่าสามีของตนอยู่ไหม ตนตอบกลับตามความจริงว่า ไม่อยู่ สักพักหนึ่งในกลุ่มที่มาหาเรื่องชื่อว่า ฟิว ได้เข้ามาดึงหัวของตน ก่อนจะต่อยเข้าที่ใบหน้า และกระชากตนข้าไปในซอยที่กล้องวงจรปิดจับภาพไม่ได้ แต่ตนจำได้หมดว่าใครทำร้ายตนบ้าง ซึ่งระหว่างนั้นมีคนใช้ขวดตีหน้าของตนด้วย ทำให้ตนเริ่มเกิดอาการมึน จนเซล้มลงพื้น ทำให้กลุ่มดังกล่าวเข้ามากระทืบตนซ้ำ กระทั่งมีชาวบ้านเห็นว่าตนไม่ไหวแล้ว จึงเข้าให้การช่วยเหลือ

112062

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ชุมชนวัดดาวดึงษ์ จึงได่พูดคุยกับนางสาววิชุดา (นามสมมติ) กล่าวว่า ตนจำวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ แต่วันนั้นตนได้เล่นเฟซบุ๊กตามปกติ และเห็นว่ามีการโพสต์เฟซบุ๊กในทำนองตัดพ้อ ตนเลยคอมเมนต์ใต้โพสต์เพื่อให้กำลังใจ แต่กลับมีข้อความส่งมาด่าทอตนว่า "มึงรู้จักกูมากี่ปีแล้ว ทำไมต้องให้กำลังใจฝั่งนั้นด้วย" ตนเลยตอบว่าตนรู้จักทั้ง 2 ฝ่าย

269784

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายมคริทร์ พุ่มสะอาด หรือ เนวัดดาว อายุ 31 ปี กล่าวว่า ตนไม่ทราบเหตุการณ์ที่แน่ชัด แต่จากสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และดูจากในภาพกล้องวงจรปิดที่อีกฝ่ายกล่าวหาว่าถูกรุมทำร้าย ทั้งที่เป็นการตบกันตัวต่อตัว แต่อีกฝ่ายสู้ฝั่งของตนไม่ได้ คนของตนเลยเข้าไปจับแยก แต่พอฝั่งของตนจับแยก และเดินหันหลังไป อีกฝ่ายกลับปรี่เข้ามา และง้างมือจะตบอาของตนที่ป่วยเป็นมะเร็ง

938818

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าคนของตนไม่เคยไปรุมใครก่อน ถ้าอีกฝ่ายไม่มาท้าทาย หรือเข้ามาทำอะไรไม่ดี ด้วยเหตุนี้ ตนจึงอยากจะให้อีกฝ่ายโพสต์คลิปทั้งหมด ไม่ใช่ตัดแค่บางช่วงบางตอนออกมาให้สังคมดู เพราะความจริงแล้วตนมีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นคนท้าตบก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยู่ในเหตุการณ์ช่วยพูดคุยให้ แต่แม่ของน.ส.มิ้น กลับบอกว่า "เจอกันก็ใส่กันไปเลย"

"ในตอนแรกที่ผมไม่อยากจะยุ่งกับใคร เพราะผมเห็นว่าต่างฝ่ายต่างรู้จักกัน พอมาเกิดเรื่องกลับพูดพาดพิงถึงผม หลังจากนี้ผมแจ้งความกลับแน่นอน และผมอยากจะฝากบอกว่า คุณรู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรลงไป แต่กลับรักลูกกันแบบผิด ๆ" เนวัดดาว กล่าว 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส