กรณี น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 27 ปี สาวเอนเตอร์เทนชาว จ.สระแก้ว เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.พัฒนนันท์ สมนวล รองสว.(สอบสวน) สภ.สัตหีบ ให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ล่อลวงไปรุมโทรมภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดย น.ส.บี ให้ข้อมูลอ้างว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อจาก นายกฤษดา หรือกิจ โตเจริญ 27 ปี ซึ่งรู้จักคุยและพูดคุยกันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ มาระยะหนึ่ง ซึ่งว่าจ้างให้ไปชงเหล้าที่บ้านหลังเกิดเหตุ พร้อมเสนอค่าตอบแทนให้ชั่วโมงละ 150 บาท
ล่าสุดวันที่ 24 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปพบกับ น.ส.บี (นามสมมติ)ที่หอพักแห่งหนึ่ง ในจ.ชลบุรี กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุนายกิจ ทักไลน์มาจีบแล้วก็ชวนไปกินเหล้า ตนก็บอกว่าไม่ไป อยากจะพักผ่อน ถ้าจะให้ไปก็ต้องจ้าง ที่พูดแบบนี้ไป คิดว่าเขาคงจะไม่จ้าง แต่นายกิจ ตอบมาว่า "งั้นจ้างก็ได้" ตนก็เลยให้นายกิจ มารับที่ห้องไปที่บ้านของนายชัยณรงค์ พอไปถึงก็เห็นว่านายชัยณรงค์ และนายอานนท์ หรือ เอ นั่งกินเบียร์และเสพกัญชา ยาไอซ์ ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวมาก ๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร คิดในใจเขาคงจะจ้างมาชงเหล้าเท่านั้น
กระทั่งนั่งกินไปสักพัก ทั้ง 3 คนก็เริ่มบังคับให้ตนดื่มเบียร์และเสพยาเสพติด แต่ตนก็ปฏิเสธ เพราะว่าทั้ง 3 คนมีอาการเมา พอถึงเที่ยงคืน นายชัยณรงค์ ก็พยายามดึงตนเข้าไปในห้องและอีก 2 คนก็ตามเข้ามา หลังจากนั้นนายชัยณรงค์ ก็บังคับให้ตนเล่นเกม แล้วก็ไม่ยอมให้ตนจับโทรศัพท์ จากนั้นนายชัยณรงค์ ก็ผลักตนลงไปบนที่นอน แล้วก็ขู่ว่าอย่าเสียงดัง ตอนนั้นทำได้แค่ร้องไห้น้ำตาไหล แต่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือไม่ได้ เพราะว่านายชัยณรงค์ เอามือปิดไว้ที่ปากตลอดเวลา
"ตอนนั้นที่คิดจะร้องขอความช่วยเหลือ เพราะตอนเข้ามาในบ้าน เห็นแฟนนายชาญณรงค์ เดินอยู่ในบ้าน เวลาผ่านไปถึงตี 1 หนูก็เริ่มยกมือไหว้ขอร้องให้ทั้ง 3 คนไปส่ง แล้วก็บอกว่า หนูไม่เอาเงินแล้วก็ได้ แต่พวกเขาก็ยืนยันว่า ขอทำให้หนำใจก่อนแล้วจะส่งกลับ ทำแบบนี้จนถึงตี 4 แล้วก็ให้นายกิจ ไปส่งที่ห้อง ยิ่งไปกว่านั้น พอนายกิจมาส่งที่ห้อง นายกิจยังพยายามขอมีเซ็กซ์อีก แต่ตนก็ไล่กลับไป ที่ตัดสินใจไปแจ้งความเพราะมันเป็นความแค้นที่ถูกกระทำแบบนี้ แล้วก็ไม่อยากให้เขาไปทำแบบนี้กับใครอีกค่ะ" น.ส.บี กล่าว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับหลักฐานสำคัญก็คือกล้องวงจรปิด ที่จะเห็นหลาย ๆ มุม โดยกล้องวงจรปิด เหตุการณ์ที่ 1 จะเห็น น.ส.บี เดินออกจากห้องพัก ตามการนัดหมายว่า นายกิจ จะมารับ ในเวลา 23.05 น. ซึ่งจากคำบอกเล่าของ น.ส.บี บอกว่า ได้ให้นายกิจ จอดรถรออยู่ที่ปากซอย เพราะว่าจะเอาผ้าไปซักก่อน แล้วอีกอย่างไม่อยากให้ใครรู้ที่อยู่ห้อง เพราะรู้จักกับนายกิจ เป็นวันแรก ซึ่งในกล้องก็จะเห็นว่า น.ส.บี ถือตระกร้าเสื้อผ้าลงมาซักจริง ๆ และก็จะเห็นว่า น.ส.บี ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป ในเวลา 23.28 น. เพื่อจะเอารถมอเตอร์ไซค์ไปจอดหน้าปากซอย แล้วก็ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ของนายกิจ ไปยังบ้านของนายชัยณรงค์
หลังจากนั้นจะเป็นเหตุการณ์ที่ 2 ตามคำบอกเล่าของ น.ส.บี ว่านายกิจ มาส่งแล้วก็พยายาม ตามขึ้นไปบนห้องและขอมีเพศสัมพันธ์ ในเวลา 04.06 น. ซึ่งในภาพก็จะเห็นว่า น.ส.บี ได้นั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของนายกิจ มากันแค่ 2 คน พอ น.ส.บี ลงรถก็วิ่งขึ้นไปบนหอพัก ส่วนนายกิจ ก็ตามขึ้นไปบนห้อง และก็อยู่กันในห้องจนถึง 06.14 น. ก่อนจะเดินออกจากห้องแล้วก็ขับรถกลับไป ซึ่ง น.ส.บี บอกว่า จังหวะที่นายกิจ จะเดินออกจากห้อง ยังบอกอีกว่า "4 โมงเย็น จะมารับอีก"
เหตุการณ์ที่ 3 ก็คือหลังจาก นายกิจ กลับไปแล้ว ช่วงเวลา 07.00 น. น.ส.บี ได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ แล้วก็ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า "คนร้ายจะย้อนกลับมาตอน 4 โมงเย็น" ตำรวจจึงวางแผนให้ตำรวจชุดสืบสวน พา น.ส.บี กลับเข้ามาแฝงตัวอยู่ในห้อง เพื่อรอนายกิจ มารับในเวลา 17.10 น.
เหตุการณ์ที่ 4 กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่านายกิจ ย้อนกลับมารับ น.ส.บี จริง ๆ โดยรอบนี้แต่งตัวใส่กางเกงขายาว เสื้อยืดสีเหลือง และสวมหมวกปิดบังใบหน้า เดินขึ้นไปยัง ห้องของ น.ส.บี ก่อนจะถูกตำรวจที่แฝงตัวอยู่ในห้อง ล็อกตัวเอาไว้ได้ ซึ่งเห็นการณ์นี้ ในภาพต่อมาก็จะเห็นว่า ตำรวจได้นำกำลัง 3-4 นาย มาล็อกตัว นายกิจ ขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่ด้านล่าง ในเวลา 18.05 น.
ทั้งนี้ นายกิจ โทรศัพท์นัดกับ น.ส.บี ในเวลา 21.00 น. จากนั้นเวลา 23.05 น. นายกิจมารับ น.ส.บี ไปบ้านนายชัยณรงค์ ถึงบ้านนายชาญณรงค์ เวลา 23.35 น.
เวลา 23.45 น. นายชาญณรงค์และพวก ชวน น.ส.บี กินเหล้าและเสพยา
เวลา 00.00 น. นายชาญณรงค์ พาตัว น.ส.บี เข้าไปในห้อง และเริ่มลงมือข่มขืนในเวลา 00.10 น.
เวลา 01.00 น. น.ส.บี ยกมือไหว้ ขอร้องให้ทั้ง 3 คนหยุดทำร้ายร่างกาย
เวลา 03.36 น. นายกิจ พา น.ส.บี ออกจากบ้านนายชัยณรงค์ มาส่งที่หอพักในเวลา 04.06 น.
เวลา 04.06 น. - เวลา 06.14 น. นายกิจ ใช้เวลาอยู่ในห้องกับ น.ส.บี แล้วก็กลับออกไป
เวลา 07.00 น. หลังนายกิจกลับไป น.ส.บี เดินทางไปแจ้งตำรวจ และตำรวจวางแผนแฝงตัวรอจับนายกิจ ในเวลา 17.10 น.
เวลา 18.00 น. นายกิจ ย้อนกลับมานับ น.ส.บี ก่อนถูกตำรวจล็อกตัว พาขึ้นรถในเวลา 18.05 น.
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปยังบ้านของนายชัยณรงค์ ที่ใช้เป็นสถานที่ พา น.ส.บี ไปรุมโทรม พบว่าลักษณะบ้านหลังนี้จะตั้งอยู่บริเวณชุมชนใกล้ทางรถไฟ ในพื้นที่ ม.3 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นบ้านที่มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณรั้วบ้านมีบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนหนึ่งหลัง และที่ด้านหลังของบ้านเป็นห้องสี่เหลี่ยมแนวยาว คล้ายกับห้องเช่า ซึ่งห้องนี้ น.ส.บี ให้ข้อมูลอ้างว่า เป็นห้องที่ใช้ดื่มเหล้าและถูกรุมโทรม แต่วันนี้ไม่มีคนอยู่ มีแต่สุนัขพันธุ์พิตบูล จำนวน 4 ตัว และบ้านหลังนี้มีทางเข้า 2 ทาง คือ ด้านหน้าและด้านข้างของบ้าน
จากนั้นทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปหาแม่ของนายชัยณรงค์ เพื่อจะสอบถามว่า ได้โทรไปเคลียร์กับ น.ส.บี จริงหรือไม่ หลังจากนายชัยณรงค์ ถูกจับไป ตามคำบอกเล่า ของ น.ส.บี ซึ่งแม่ของนายชัยณรงค์ แจ้งให้ทราบเพียงว่า "ไม่ได้โทรไปแล้ว ก็จะไม่ให้ข่าวอะไรทั้งสิ้นแล้ว ตอนนี้เครียดมาก ๆ ไม่พร้อมที่จะเป็นข่าว" ทีมข่าวจึงถามอีกว่า "หลังจากนี้แม่จะประกันตัว ลูกชายออกมาหรือไม่" แม่ของนายชาญณรงค์ ระบุว่า "เดี๋ยวจัดการเอง ตอนนี้กำลังเครียด ไม่สามารถจะให้คำตอบกับใครได้ ขอบคุณนะคะที่โทรมา"
ทีมข่าวได้เดินทางไปตามพิกัดที่ตำรวจให้เบาะแสว่า นายอานนท์ หลบหนีไปพักที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในซอยแมวใจดี ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แต่นายอานนท์ ไหวตัวทันแล้วก็วิ่งหนีออกไปที่ป่าหลังบ้าน
โดยลักษณะบ้านหลังนี้ เป็นบ้านเช่าที่อยู่ในสวน มีบ้านคนอยู่ไม่กี่หลัง ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ให้ข้อมูลว่า บ้านเช่าหลังดังกล่าว นายอานนท์ จะอาศัยอยู่กับพ่อของเขา มีอาชีพรับเหมาทาสี เมื่อวานนี้ (23 ต.ค.64) ที่ตำรวจมาตามจับนายอานนท์ ยอมรับว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะอยู่แต่ในบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้พ่อของนายอานนท์ มาเช่าอยู่หลายปีแล้ว ส่วนนายอานนท์ ไป ๆ มา ๆ ไม่ได้มาปักหลักอยู่ที่นี่หลังออกจากคุกเดือนเม.ย.64
ที่ผ่านมา นายอานนท์ จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่กับภรรยาและลูกอีก 2 คน แต่พักหลังนายอานนท์ มีปัญหาทะเลาะตบตีกับภรรยาของเขาบ่อยจนภรรยาของเขาทนไม่ไหวแล้วก็ได้เลิกลากับนายอานนท์ ทั้งนี้ ตนยอมรับว่า นายอานนท์ ถ้าอยู่ที่บ้านหลังนี้ ก็มักจะพาเพื่อน ๆ มานั่งกินเหล้าที่หน้าบ้าน แต่ไม่เคยทำความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตำรวจเตรียมออกหมายจับ นายอานนท์ เพราะต้องรอผลตรวจร่างกายของ น.ส.บี ก่อน ส่วนพ่อของนายอานนท์ อยู่ระหว่างต่อรองให้นายอานนท์ เข้ามามอบตัว นอกจากนี้ผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้จะนำตัวไปฝากขังในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.64) โดยจะแจ้งข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และ 5 ส่วนตัวนายอานนท์ หากไม่มามอบตัว ตำรวจก็จะตามจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของ นายอานนท์ หรือ เอ พ่วงเกียน อายุ 33 ปี ที่ยังหลบหนีอยู่ ตามที่อยู่ก็คือพื้นที่หมู่ 4 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง แต่ปรากฏว่าไม่เจอตัวนายอานนท์
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสมใจ (นามสมมติ) ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (23 ต.ค.64) ตนเห็นว่ามีตำรวจมาวนเวียนในพื้นที่ แต่จากที่ดูรูปนายอานนท์ ไม่ใช่คนในพื้นที่ เคยเห็นนายอานนท์ ครั้งสุดท้ายก็เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ซึ่งตั้งแต่นายอานนท์ ออกไปจากพื้นที่ เขาก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ตอนที่เขาอยู่ในพื้นที่ก็ไม่เคยเห็นว่าเขาจะสร้างปัญหาอะไรให้กับชาวบ้าน แล้วตนก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่พี่น้องเขาคือใคร
"ตกใจมากที่รู้ข่าวว่าเขาไปก่อเหตุแบบนี้ หากนายอานนท์ ย้อนกลับมาในพื้นที่ จะแจ้งข้อมูลให้กับตำรวจ ให้มาจับนายอานนท์ ไปดำเนินคดี เพราะรับไม่ได้ที่ผู้หญิงด้วยกันต้องมาถูกกระทำแบบนี้" ชาวบ้าน กล่าว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ น.ส.บี ในเขตพื้นที่ จ.สระแก้ว จึงได้พบกับนางกาญ (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งจะทราบว่าลูกสาวถูกล่วงละเมดทางเพศตอนที่ลูกสาวโทรศัพท์มาบอกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมาก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น และตนเชื่อว่าลูกสาวไม่ได้ขายบริการอย่างที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง ตนยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นายแก้ว (นามสมมติ) พ่อของ น.ส.บี เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก ๆ ที่ลูกสาวถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุกระทำเช่นนั้น ตอนนี้สภาพจิตใจของลูกสาวแย่มาก ๆ ต้องพักอยู่กับเพื่อน เพราะยังหวาดระแวงและไม่กล้าอยู่คนเดียว ลูกสาวเป็นคนตั้งใจทำงาน ส่งเงินมาให้ครอบครัวเป็นประจำ ตนรู้สึกเสียใจที่ลูกสาวมาถูกกระทำแบบนี้
