จับทหารเฒ่ารัว 14 นัดฆ่าเสี่ยเปี๊ยก แค้นถูกใส่ร้ายตีท้ายครัว เหี้ยมไหว้ก็ไม่ไว้ชีวิต (คลิป)

22 ต.ค. 64

กรณีวันที่ 19 ต.ค. 64 ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้ง มีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ถนนพิชัย ซอย 19 ตรงข้ามกองพันทหารม้าที่ 11 รักษาพระองค์ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดเปลี่ยว พบศพนายสมเพ็ญ ปุณรัตนกุล หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 59 ปี ถูกยิงกระสุนปืนขนาด 11 มม. หลายแห่งตามร่างกาย นอนเสียชีวิตอยู่กลางซอย

969279

ล่าสุด วันที่ 21 ต.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย พร้อมกับของกลางเป็นอาวุธปืน ลูกกระสุนปืน เสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุ ไปทำการตรวจสอบ จนกระทั่งมีผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเสี่ยเปี๊ยก ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ ลุงเบื้อก หรือ ร้อยตรีวิเชียร เข็มกลัด อายุ 72 ปี เพื่อนบ้านผู้ตาย

526134

วันที่ 22 ต.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักเมืองสระบุรี ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสระบุรี เพื่อเข้าควบคุมตัวลุงเบื้อก หรือ ร้อยตรีวิเชียร เข็มกลัด อายุ 72 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ เบื้องต้นจากการเชิญตัวของลุงเบื้อกไปสอบปากคำตั้งแต่เมื่อวาน มีการสอบปากคำจนกระทั่งถึงกลางดึก และผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าลุงเบื้อกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้

823135

พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สระบุรี นำทีมแถลงว่า เมื่อวานนี้ได้มีการควบคุมตัวลุงเบื้อกมาสอบปากคำ จนกระทั่งผลการสอบปากคำ ผลทางนิติวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงเป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้มีการควบคุมตัวและดำเนินคดี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยของกลางที่มีการตรวจยึดได้คืออาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ

780721202451

โดยตัวของลุงเบื้อก ยอมรับสารภาพเองว่ามูลเหตุเกิดจากเรื่องประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว ทั้งคู่เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ในซอยเดียวกัน และมีความสนิทสนมรู้จักกันมาก่อน มีเรื่องผิดใจกันเล็กน้อย เรื่องหึงหวงภรรยา การออกกำลังกายของคนตายที่เดาะบาสเสียงดัง การพาหมาออกมาเดินเล่นนอกบ้าน มีเหตุการณ์ต่อเนื่องกันมาโดยตลอด และในวันเกิดเหตุได้มาเผชิญหน้ากัน จึงได้เกิดอารมณ์ทะเลาะเถียงกัน ลุงเบื้อกใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงเสี่ยเปี๊ยกถึงแก่ความตาย

cg

สำหรับหลักฐานที่ชี้ชัดว่าลุงเบื้อกเป็นคนก่อเหตุ คือกล้องวงจรปิดในละแวกพื้นที่ต้นซอยและปลายซอย ไม่สามารถจับภาพรถต้องสงสัยหรือกลุ่มคนต้องสงสัยได้ จึงได้มีการขยายผลและลงพื้นที่ติดตามอย่างละเอียด เชื่อว่าเป็นคนที่อยู่ใกล้หรือในละแวกจุดยิง จึงได้มีการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ ประกอบกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตรงกัน จึงได้ทำการควบคุมตัวดำเนินคดี

530689

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาใช้สิทธิ์โดยมีทนายความเป็นตัวกลาง ไม่ขอทำแผนฯ เพราะเนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการบันทึกตามคำให้การ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสรุปสำนวนเตรียมส่งฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้

ในการแถลงข่าวในวันนี้ พบว่ามีครอบครัวของคนตาย นางสาวกัญรัศมิ์ บึงอ้อ อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ตาย, นางสาวประภาพรรณ ปุณณรัตนกุล อายุ 30 ปี เดินทางมาติดตามการแถลงข่าว ยืนรอสังเกตการณ์เพื่อจะดูหน้าผู้ต้องหา แต่พบว่ามีการควบคุมตัวเอาไว้ภายในห้องสืบสวน มีทนายความ และนางสาวอ้อย ลูกสาวของลุงเบื้อกอยู่ด้านในห้องสืบสวน

130126

ภายหลังสอบคำลุงเบื้อก พนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องคุมขังภายใน สภ.เมืองสระบุรี โดยเจ้าตัวมีท่าทีเคลียด และกังวล แต่เบื้องต้นยังไม่พบญาติเดินทางมาเยี่ยม ลุงเบื้อกกังวลใจ ลักษณะต้องการคุยกับญาติ บางครั้งจะลุกนั่งและเดินมาเกาะลูกกรงมองออกมาเป็นระยะ โดยการสอบปากคำวันนี้ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว พรุ่งนี้ก็จะมีการนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดสระบุรี

225340

นางสาวกัญรัศมิ์ บึงอ้อ อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการแถลงข่าวทราบว่าเป็นเพื่อนบ้านก่อเหตุยิงสามี ยอมรับว่าตกใจ ที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับที่บ้าน และตัวของลุงเบื้อกก็ไม่เคยมาแสดงพฤติกรรมหรือกิริยาที่ไม่เหมาะสม คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคนลงมือก่อเหตุ โดยพฤติกรรมของลุงเบื้อก มักจะมีการปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าบ้านเป็นประจำ มีส่งยิ้มทักทายตามประสาเพื่อนบ้าน ตนเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวของลุงเบื้อกจะมีพฤติกรรมคิดเป็นอื่น หรือเป็นการส่งสายตาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง คิดแต่เพียงว่าเป็นเพื่อนบ้านกันเท่านั้น เนื่องจากครอบครัวของตนเองย้ายมาอยู่ในชุมชนทีหลัง

ถ้าหากปมที่เสี่ยเปี๊ยกมีการหึงหวงหรือคิดไปเองว่าลุงเบื้อกมีการส่งยิ้มหรือคิดเป็นอื่น เสี่ยเปี๊ยกไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ไม่เคยหึงหวง เชื่อว่าไม่ใช่ชนวนเหตุอย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่ลุงเบื้อกมีการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ระบุว่าเสี่ยเปี๊ยกมักจะจุงหมาเดินผ่านหน้าบ้าน ทำให้หมาไปอึฉี่ใส่หน้าบ้าน มองว่าโดยพฤติกรรมของเสี่ยเปี๊ยกจะพาหมาไปจุงเดินเพียงไม่กี่ครั้ง และไม่เคยที่จะตั้งใจพาหมาไปอึหรือฉี่หน้าบ้าน มองว่าอาจเป็นหมาจรจัดหรือมาตัวอื่นที่อยู่ในพื้นที่มากกว่า การออกกำลังกายของเสี่ยเปี๊ยกช่วงหัวค่ำ อาจมีการถือลูกบาสติดมือออกไปเดาะส่งเสียงดังบ้าง ยอมรับว่ารบกวนเพื่อนบ้าน แต่ไม่ใช่กลางคืน ฉะนั้นจึงไม่ได้รบกวนเวลานอน

692956

สำหรับการเดินออกกำลังกายหรือพาหมาไปเดินเล่น ก็ไม่ได้มุ่งเน้นว่าจะต้องเดินผ่านหน้าบ้านหรือเจตนาที่จะไปทะเลาะกับลุงเบื้อก เพราะเจ้าตัวก็มักจะเดินเข้าออกซอยทะลุไปทั่ว ถ้าหากคนมีปัญหากัน รู้ว่าจะไปเดินแล้วถูกยิงตายก็คงไม่มีใครกล้าที่จะเดินไปตรงนั้น แต่ด้วยเสี่ยเปี๊ยกไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะถูกดักยิง จึงยังคงใช้ชีวิตตามปกติ

ทั้งนี้ ลุงเบื้อกเคยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมริน ทีวี เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ทำนองว่าได้ยินเสียงปืนขณะอาบน้ำอยู่ในบ้าน แต่ไม่ได้ออกมาดูและไม่รู้เห็นเหตุการณ์ สุดท้ายแล้วเจ้าตัวกลับเป็นคนก่อเหตุ ตนเองมองให้ข้อมูลที่คนละเรื่อง และคนในครอบครัวก็ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับตัวของลุงเบื้อกตั้งแต่วันแรกที่เห็นข่าว ลักษณะต้องสงสัย มีพิรุธตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่ทันคิดว่าจะเป็นเจ้าตัว เพราะไม่เคยมีเรื่องหรือปากเสียงกันมาก่อน ตนเองต้องการให้รับโทษให้ถึงที่สุด ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต ยิงมากถึง 14 นัด ตนเองก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกจะรับได้หรือไม่หากครอบครัวของลุงจะเดินทางมาร่วมงานศพแทน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาเวลาประมาณตี 4 ก่อนที่คนในบ้านจะรู้ตัวคนร้าย คนในบ้านตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมที่จะเดินทางไปติดต่อรับศพที่โรงพยาบาล รถเก๋ง วีออส สีบรอนซ์ซึ่งจอดอยู่ที่โรงรถหน้าบ้านเป็นรถที่เสี่ยเปี๊ยกใช้ประจำ ลักษณะไฟติดขึ้นมาทั้ง 4 ดวง คนในบ้านถึงกับตกใจ ไม่มีใครไปสตาร์ตรถ ตนเองจึงได้พูดขึ้นมาว่า "พี่ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราอยู่กันได้" ตนเองจึงเชื่อว่าสามีเป็นห่วงคนในบ้าน พยายามมาสื่อสารบางอย่าง

516647

เมื่อเวลา 13.20 น. นางสาวกัญรัศมิ์ บึงอ้อ อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ตาย, นางสาวประภาพรรณ ปุณณรัตนกุล อายุ 30 ปี ลูกสาวคนตาย และญาติ ๆ ได้นิมนต์พระ 4 รูป นำภาพใส่กรอบสีทองที่จะใช้ตั้งศพ นำมาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณที่จุดถูกยิงตาย มีการนำเครื่องเส้นไหว้มาตั้งโต๊ะ สวดส่งเชิญดวงวิณญาณของเสี่ยเปี๊ยกให้รับรู้

380656

ด้านนางสาวอ้อย ลูกสาวลุงเบื้อก ผู้ต้องหา เดินทางมาที่โรงพักเมืองสระบุรี เพื่อจะเยี่ยมผู้ต้องหา แต่เมื่อเดินทางมาถึงพนักงานสอบสวนยังสอบไม่แล้วเสร็จ จึงได้เดินทางกลับบ้าน ระหว่างนั้น นางสาวอ้อย บอกว่า ตนเองยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีการยื่นขอประกันตัวด้วยวงเงินหลักทรัพย์เท่าไร เพราะต้องปรึกษากับทีมทนายและคนในครอบครัวก่อน ตอนนี้ครอบครัวค่อนข้างกังวลใจ เกี่ยวกับปัญหาทางสุขภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่พ่อกำลังรักษาอยู่ ต้องหาทางประกันตัวเพื่อให้ออกมารักษาก่อน แต่สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้นตนเองยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับพ่อ เนื่องจากที่ผ่านมาต่างคนต่างอยู่ โดยพ่ออาศัยอยู่บ้านคนละหลัง จึงทำให้ไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง สำหรับเหตุการณ์นี้ยอมรับว่าครอบครัวก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน เพราะคาดไม่ถึงว่าพ่อจะไปเป็นคนก่อเหตุยิงเพื่อนบ้านได้

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส