จากกรณีพบศพนายฮารน เด็นมานิ อายุ 26 ปี นอนเสียชีวิตภายในโรงงาน ย่านหนองจอก เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 61 ซึ่งสภาพศพเปลือย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ การตรวจลายนิ้วมือ และรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมนั้น
ล่าสุด วันที่ 7 พ.ย. 61 ญาติของนายฮารน พร้อมนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดยคดีไม่มีความคืบหน้าและทางโรงงานบอกว่า เป็นอุบัติเหตุนั้น
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ซอยอยู่วิทยา 8 แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยพบบริษัทเกี่ยวกับการประกอบทำห้องเย็น โดยผู้ตายเป็นช่างติดตั้งภายในโรงงาน
นายเอ (นามสมมติ) เพื่อนที่ทำงานของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ มีเพื่อนโทรมาบอกตนว่าพบศพของนายฮารน หลังจากนั้นตนเดินทางมาที่โรงงาน พบตำรวจกั้นพื้นที่ไม่ให้เข้าไปในจุดพบศพแล้ว และเห็นคนที่พบศพวิ่งไปตามหัวหน้างาน และก็แจ้งเจ้าของโรงงาน และแจ้งเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊งมาเก็บศพ
นายเอ เล่าต่อว่า ก่อนหน้านั้น ผู้ตายได้สังสรรค์ กินเหล้ากับกลุ่มเพื่อนประมาณ 4 คน เนื่องจากเป็นวันหยุดของโรงงาน และมีการเสพยาด้วย ซึ่งผู้ตายกินเหล้าและเสพยาอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้อาจจะเกิดจากอาการหลอนยาหนัก และตนเองได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนเสียชีวิต ผู้ตายเดินไปเดินมาภายในโรงงานคนเดียว โดยไม่ใส่เสื้อผ้า และขึ้นบันได แล้วกระโดดลงมาจากหลังคาตู้คอนเทนเนอร์ อีกทั้งสะดุดล้มในโรงงานเสียชีวิต ซึ่งตนเชื่อว่านายฮารน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ส่วนบาดแผลที่เห็นนั้น เป็นไปได้ว่าถูกเหล็กภายในโรงงานบาด
โดยปกติ นายฮารนเป็นคนที่นิสัยดีมาก ตนสามารถตักเตือนได้เรื่องเสพยา ซึ่งเมื่อนายฮารน เสพยาจะเกิดอาการหลอนทุกครั้ง เช่น เห็นผีมาหลอก และไม่กล้ากลับบ้าน แต่ครั้งนี้ อาจจะหลอนหนัก ถึงขั้นแก้ผ้าวิ่งแบบนั้น
นางส้ม (นามสมมติ) คนดูแลโรงงาน เปิดเผยว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงงานมีหลายตัว แต่ในจุดที่นายฮารนเสียชีวิต กล้องวงจรปิดบันทึกได้ แต่ภาพไม่ชัด เห็นเพียงแสงไฟ ซึ่งนายฮารนนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งมีเหล็กฉาก และเหล็กมีคม น็อตใหญ่ ๆ วางอยู่เกลื่อนกลาด โดยจากวงจรปิด เห็นนายฮารนวิ่งไปวิ่งมาเหมือนคนสติแตก ในสภาพเปลือย และเหมือนล้มลงหัวฟาด ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย
หลังจากพบศพ ตนแจ้งครอบครัวนายฮารน ให้มาดูศพ แต่กว่าจะมาก็ช้า ตนต้องวิงวอนให้มาดูศพ ซึ่งทางบริษัทสอบถามญาติว่า จะทำพิธีศพที่นี่ หรือที่ จ.สงขลา บ้านของผู้ตาย ญาติบอกว่า ให้ทำที่นี่ บริษัทมีการประกอบพิธีทางศาสนาให้ โดยไม่ได้เรียกร้องเงินจากญาติ
ทั้งนี้ โรงงานยืนยันว่าไม่ได้ปกปิด เพราะส่งหลักฐานกล้องวงจรปิดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลักฐานกล้องวงจรปิดอยู่ที่พิสูจน์หลักฐาน และโรงงานไม่ได้ช่วยเหลือตำรวจ โดยวันเกิดเหตุตำรวจมาที่โรงงานเกือบหมดโรงพัก และยังมีการเดินทางมาต่อเนื่อง เป็นเวลาเกือบ 10 วัน นำสุนัขตำรวจมาดมกลิ่น ตำรวจชุดสืบสวน และผู้กำกับ สน.หนองจอก ก็เดินทางมาด้วย เพื่อให้คลี่คลายคดีนี้ให้ได้
โดยผู้ตายทำงานที่โรงงานแห่งนี้มาเป็นเวลา 1 ปี เป็นคนมาทำงานตรงเวลา การทำงานดีมีความรับผิดชอบ หากไม่เสพยา หรือไม่เมา ซึ่งตนให้ความเป็นธรรมกับผู้ตาย และผู้ตายเป็นคนไม่ค่อยพูด ยิ้มอย่างเดียว ซึ่งไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานแน่นอน โดยตำรวจบอกกับตนว่า คดีนี้เป็นอุบัติเหตุ ซึ่งตอนแรกที่ตนเองเห็นศพ ก็ยังมีการพูดคุยกับคนในโรงงานว่า ใครทำนายฮารน แต่หลังจากที่ตำรวจอธิบายวิธีล้มว่ากระแทกอะไรบ้าง ตนจึงได้เข้าใจว่าไม่ใช่การฆาตกรรม ซึ่งการที่ญาติไปร้องเรียนก็ทำให้โรงงานเสียหายไปด้วย