ล่าเก๋งชนหนีพ่อแม่ลูก 5 ขวบ เหยื่อฉะแล้งน้ำใจ ไม่ใยดี จี้ ตร.ล่า ซึ้งกล้องแท็กซี่ภาพชัด (คลิป)

6 พ.ย. 61
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์คลิปจากกล้องหน้ารถ พร้อมข้อความระบุว่า "ช่วยหน่อยนะคะหนูขับรถมอไซร์กัน 3 คน มีหนู มีแฟนและลูกอายุ 5 ขวบ พิกัด ปากซอยรามอินทรา 43 คะ ทะเบียนไม่ชัด แต่รอ กล้องอีกตัว ต้องรอจากทางเขต 3 วัน หนูรอไม่ไหวแน่ อยากให้พี่ๆน้องๆเพื่อนๆรวมพลังแชร์เพื่อหาตัวคนขับรถคันนี้คะ ไม่นานได้มากินข้าวด้วยกันแน่ ชนแล้วหนี มันไม่สงสารเด็กเลย จิตใจทำด้วยอะไรคะ อยากให้มาคุย อยากให้มารับผิดชอบ ขอบคุณพี่แท๊กซี่และผู้โดยสารในรถแท๊กซี่ และร้านข้าวต้มปลามากๆและพี่ๆ ร่วมฯนะคะที่ช่วยเหลือ ช่วยแชร์หน่อยนะคะ"
ภาพเหตุการณ์ จากกล้องหน้ารถแท็กซี่
วันที่ 5 พ.ย 61 นางปภาวี จีหุมา ผู้ประสบเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (4 พ.ย. 61) เวลา 18.00 น. ตนพร้อมสามีและลูก ขับรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณถนนเลียบด่วนรามอินทรา จากนั้น รถเก๋งยี่ห้อ ซูซูกิ ขับรถมาด้วยความเร็ว กำลังจะขับรถแซงไปข้างหน้า และมาเกี่ยวกับรถของตนที่อยู่ทางซ้ายจนล้ม ทำให้ตนเองกับสามีและลูกล้มไปคนละทาง จากนั้นคู่กรณีจึงขับรถหนีไป
นางปภาวี จีหุมา ผู้ประสบเหตุ
โดยตนเองมีบาดแผลตามร่างกาย ส่วนสามีอาการหนักที่สุด และลูกสาวก็มีบาดแผลถลอกที่หัวเข่า และตนเองก็เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งไม่ควรจะต้องมาเจออุบัติเหตุแบบนี้ เพราะบาดแผลจะหายยาก ตนต้องการให้คู่กรณีเข้ามาขอโทษ และรับผิดชอบทุกอย่าง ค่าใช้จ่ายที่ตนเองเสียไป ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียเวลา และต้องเสียเงิน ทั้งนี้ ตนเองก็ต้องการฝากถึงรถเก๋งคู่กรณีว่า เหตุใดจึงไม่ลงมาช่วยเหลือ หรือสอบถามอาการบาดเจ็บของครอบครัวตนบ้าง ไม่ใช่ชนแล้วก็ขับหนีไป และไม่ควรบอกสังคมด้วยว่าไม่รู้เรื่อง เพราะฝาครอบล้อรถของคู่กรณีก็ยังหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ตนขอฝากขอบคุณพี่แท็กซี่พลเมืองดี ที่ขับรถตามหลัง และนำกล้องหน้ารถมาให้ตนเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
นายหนุ่ม (สงวนชื่อ-สนามสกุล) สามีของนางปภาวี
ต่อมา นายหนุ่ม (สงวนชื่อ-สนามสกุล) สามีของนางปภาวี เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกสงสารลูกสาวมาก ที่ต้องมาเจอกับอุบัติเหตุเช่นนี้ โดยหลังเกิดเหตุ พบว่า ลูกสาวของตนร้องไห้เพราะความกลัว ตนเองต้องการให้คู่กรณีออกมาขอโทษ และรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำกับครอบครัวตน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ โชคดีที่ตนรีบเข้าไปอุ้มลูกสาวออกมาได้ทัน หากมีรถขับตามหลังมาชนลูกสาวของตนจะเกิดอะไรขึ้น ตนรู้สึกแค้นที่คู่กรณีไม่ลงมาดู ทั้งที่รู้ว่ามีเด็กกลิ้งอยู่บนถนน
บาดแผลของนายหนุ่ม
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนต้องการฝากถึงคู่กรณีว่าให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง และอย่าไปก่อเหตุแบบนี้กับใครอีก เพราะหากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้ก่อเหตุบ้างจะรู้สึกอย่างไร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ