กรณีวันที่ 13 ต.ค. 64 สน.เพชรเกษม รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ได้ใช้อาวุธมีดสปาต้า ยาว 18 นิ้ว และอาวุธมีดปลายแหลมยาว 15 นิ้ว รวม 2 เล่ม ไล่แทงและฟันกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นที่มารวมตัวกันหาเรื่องบริเวณหน้าบ้านพัก ในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ซอย 39 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. จากนั้น ทีมหมอปลา และทนายความได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการประกันตัวแล้วนั้น
วันที่ 18 ต.ค. 64 เมื่อเวลา 04.00 น. ตำรวจสืบสวน สน.เพชรเกษม ร่วมกับตำรวจสืบสวนนครบาล 9 พร้อมด้วยตำรวจ 191 สนธิกำลังตั้งแถวรับคำสั่ง เพื่อเข้าค้นบ้านเป้าหมาย 13 เป้าหมาย รวม 9 จุด ตามหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี
เมื่อเวลา 06.00 น. ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักในชุมชนวัดม่วง รวมถึงบ้านนายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส หลังจากพบว่ามีการโพสต์ข้อความข่มขู่ในสื่อสังคมออนไลน์ และยังมีการโพสต์ยุยงปลุกปั่นเกี่ยวกับกรณีนายณัฐวัฒิ หรือ บาส ใช้มีดแทงกลุ่มวัยรุ่น 6 คนเสียชีวิต 2 คน บริเวณหน้าบ้านพัก การตรวจค้นวันนี้มุ่งเน้นหาต้นตอการโพสต์ข่มขู่ และขยายผลตรวจค้นอาวุธ รวมถึงตรวจปัสสวะหาสารเสพติด โดยมีคนที่เป็นเพื่อนของ 6 คน ที่ถูกตรวจค้นบ้านในครั้งนี้ด้วย สำหรับผลการตรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและสารเสพติด ไม่พบว่า 6 คนฝั่งคนตาย เกี่ยวข้องกับการโพสต์ข่มขู่และยุยงปลุกปั่น
เมื่อเวลา 08.30 น. พลตำรวจตรีโชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมายัง สน.เพชรเกษม เพื่อติดตามความคืบหน้า และสรุปผลการตรวจค้น 13 เป้าหมาย 9 จุด ภายหลังการประชุม เผยว่า หลังจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ตรวจสอบกลุ่มที่โพสต์ข้อความดังกล่าวว่ามีจริงหรือไม่ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มนายณัฐวุฒิผู้ก่อเหตุ, กลุ่มคู่กรณีทั้ง 6 คน และกลุ่มที่โพสต์สร้างสถานการณ์ จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนผู้ที่โพสต์ข้อความยังไม่พบต้นตอ อยู่ระหว่างการสืบสวนต่อไป
ทีมข่าวลงพื้นที่ชุมชนวัดม่วง พื้นที่เป้าหมายที่มีการบุกค้นบ้าน นายลายน้ำ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี อดีตแก๊งวัดม่วง เปิดใจว่า เด็กวัดม่วงไม่ใช่อย่างที่ปรากฏเป็นข่าว ไม่ใช่นักเลง ไม่ใช่จิ๊กโก๋ เด็กวัดม่วงที่แท้จริงต้องเป็นคนดี วัยรุ่นที่ไปพูดว่า "กูเด็กวัดม่วง" เป็นแค่การแอบอ้างเอาชื่อไปใช้ ตนเองเป็นเด็กวัดม่วงมาตั้งแต่เกิด ยอมรับว่าตนเองก็ไม่ใช่คนดี เข้าออกคุกมาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ทั้งคดียาเสพติด คดีปล้นชิงทรัพย์ คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งทุกครั้งที่มีคดีหรือไปก่อเหตุ จะบอกแต่ว่าเป็นเด็กซอยเพชรเกษม 63 หรือเด็กหลังโรงพัก ไม่เคยกล่าวอ้างถึงวัดม่วง ไม่เคยพูดถึงชุมชนวัดม่วง เพราะการจะทำทั้งหมดเกิดขึ้นจากตัวหรือกลุ่มขอคนที่คึกคะนองเท่านั้น
ในปัจจุบันกลุ่มเด็กที่อ้างตัวเองว่าเป็นเด็กวัดม่วง เป็นเพียงต้องการแค่ชื่อเสียงความโด่งดังและกระแส ทั้งที่ไม่มองผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนในชุมชนและวัด แล้วยังมีการแต่งตั้งสถาปนาหัวหน้ากลุ่มประธานกลุ่ม ทั้งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง ส่วนกลุ่มเด็กวัดม่วงที่นำชื่อไปใช้ตอนนี้เป็นเพียงวัยรุ่นต่างถิ่น ไม่ใช่คนของชุมชนวัดม่วงตัวจริง ตนเองก็รู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากับเด็กทั้งหมด โดยเฉพาะ 6 คน ซึ่งก็เป็นคนต่างชุมชน ตนเองก็ไม่สามารถที่จะห้ามปรามได้ เพราะตนเองก็เคยเลวเขาจึงไม่เคารพ วันนี้หากสื่อสารผ่านอมรินทร์ทีวีไปได้ ก็อยากจะบอกว่า "เลิกเถอะน้อง ทำแบบพี่มันไม่ดี ตัวอย่างก็มีให้เห็น จุดจบของเด็กอันธพาลจบที่คุกเสมอ"
ทั้งนี้ ตนไม่รู้ว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการโพสต์ปั่นให้บุกบ้านหมอปลา ถ้าหากหลังจากนี้เกิดการปะทะกันเกิดขึ้น หรือบุกไปที่หน้าบ้านของหมอปลาจริง ตนเองก็คงจะไม่เข้าไปยุ่ง เพราะไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง ตนเองเสียใจต่อการกระทำของกลุ่มวัยรุ่นที่อ้างตัวเองว่าเป็นเด็กวัดม่วง ตอนนี้กระทบถึงมูลนิธิหรือวัด ทำให้ไม่มีคนมาร่วมทำบุญ ไม่มีใครกล้าเข้ามาในชุมชนหรือวัด เพราะมองว่าชาวชุมชนวัดม่วงเป็นคนอันธพาล จึงฝากไปถึงกลุ่มดังกล่าวให้หยุดพฤติกรรมความรุนแรง นายณัฐวุฒิก็ได้มีการปฏิบัติตามกระบวนการของกฎหมาย รับโทษและถูกแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนกลุ่มของผู้ที่สูญเสีย ตนเองก็เข้าใจความรู้สึก อย่าลืมว่าวันนี้เพื่อนตายไปแล้ว ควรที่จะหยุดและให้เป็นบทเรียน "ในฐานะรุ่นพี่ขอรุ่นน้องรุ่นหลังหยุดเถอะ หากยังคงทำตัวแบบนี้ต่อ ปลายทางก็จะจบลงที่คุก เหมือนกับบทเรียนที่ตนเองเคยได้รับมา ไม่มีอะไรทำให้มันดีขึ้นมากกว่ากลับตัวกลับใจ"
นางแต้ว (นามสมมติ) ชาวบ้านในละแวกจุดที่ตรวจค้น เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายคนได้นำกำลังเข้าตรวจค้นในบ้านละแวกนี้จำนวนหลายหลัง และเบื้องต้นไม่ได้พบอะไรผิดปกติ สำหรับผู้ตายทั้ง 2 คน ตนรู้จักมาตั้งแต่เด็ก และทั้งคู่เป็นเด็กที่นิสัยดี กระทั่งมาเกิดเรื่องก็รู้สึกแปลกใจมาก ไม่คิดว่าจะถึงขั้นแทนกันตาย
