กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี่ยวจัดให้ รีเทริ์น พาร์ท2" โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความระบุว่า "เตือนภัย แม่งมั่ว...ป่วย ญาติช่วยพารักษาดูแลดี ๆ น้องมาถือศีลบวชชีแต่กลับจะได้ผัว เหตุการณ์เกิดขึ้นที่วัด ขนาดกำลังบวชอยู่แท้ ๆ มายืนรอจนทำวัตรเสร็จ ใครก็ไม่รู้ว่าหาว่าเราเป็นแฟน หาว่าเราชื่อตาล และมีลูกด้วยกัน 1 คน แล้วบอกว่าให้เอาเอกสารรถมายืนยันและบัตรประชาชน คุยกันอยู่นานมาก คลิปนี้คือตอนตำรวจมาแล้ว เขาท้าแม่ชีด้วย คือป่วยมาก ในคลิปแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เขาเป็นคนเรียกตำรวจมาเอง เพื่อที่จะตรวจสอบเราและรถเรา ก่อนหน้านี้เขาให้แม่ชีมาสะกิด 2 รอบ รอบแรกบอกซื้อของมาถวายชีขณะที่เราสวดมนต์ เราก็เลยส่ายหัว (ทำมือไม่ใช่ค่ะ) รอบสองสะกิดอีกบอกว่าเอาของมาให้ตาล เราก็เลยพูดว่าไม่ใช่ค่ะ ไม่ได้ชื่อตาล อันตรายมาก เป็นชั่วโมงได้ หาว่าหนูชื่อตาล หนูก็บอกว่าไม่ใช่ เขาเพิ่งโดนจับสึกมาด้วย เพราะต่อยกับพระอีกวัด"
ล่าสุดวันที่ 13 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง น.ส.ยศชญา คงประดิษฐ์งาม หรือ โยโกะ เจ้าของโยโกะคลินิกเวชกรรม และเป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 12 ต.ค.64 ที่วัดธรรมนิมิตต์ อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยตนตั้งใจจะไปบวชชีพราหมณ์กับเพื่อนเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน (12-15 ต.ค.64) โดยเหตุการณ์เริ่มขึ้นเวลาประมาณ 16.00 น. ตนและเพื่อน พร้อมแม่ชีประมาณ 7 คน กำลังทำวัตรเย็น ชายแปลหน้าคนหนึ่งก็วานให้แม่ชีมาเรียกตน พร้อมกับฝากของมาให้ด้วย แต่ตนไม่ได้สนใจ จนชายคนดังกล่าวให้แม่ชีมาเรียกอีกครั้งบอกว่าตนชื่อตาล ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยชื่อตาล หรือมีใครเรียกตนว่าตาล
ในระหว่างนั้นชายคนดังกล่าวได้โทรศัพท์พูดคุยเสียงดัง สามารถจับใจความได้ว่า "ผมเจอมันแล้ว มันหนีมาบวช ผมจำรถมันได้"
กระทั่งตนทำวัตรเย็นเสร็จ แม่ชีจึงเดินเข้าไปถามชายคนดังกล่าวว่า เป็นใคร มาจากไหน ก่อนเขาจะอ้างว่า "เพิ่งสึกมา เนื่องจากมีปัญหาที่วัดเดิม ผมมาหาเมียชื่อตาล เลิกกันมา 7 ปีครับ มีลูกด้วยกัน 1 คน" ตนจึงกล่าวยืนยันตรงนั้นว่าไม่รู้จัก และหญิงคนที่เขาอ้างก็ไม่ใช่ตนอย่างแน่นอน
แต่ชายคนดังกล่าวไม่เชื่อ พร้อมกับขอดูบัตรประชาชน และขอค้นรถของตน แต่ตนไม่ยินยอม จนมีการโต้เถียงกันไปมา และชายคนดังกล่าวเริ่มเสียงดังมากขึ้น จนแม่ชีคนอื่น ๆ เกิดความกลัว ต่อมาชายคนดังกล่าวก็ยังยืนยันว่าจะค้นรถของตนให้ได้ เนื่องจากเป็นรถที่หามาได้กับภรรยา จากนั้นชายคนดังกล่าวได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเมื่อตำรวจมาถึงเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิปวิดีโอ เจ้าหน้าที่ได้พยายามไกล่เกลี่ยและสอบถามข้อเท็จจริง จนทราบว่าไม่เป็นไปที่ชายคนนั้นกล่าวอ้าง จึงเชิญตัวเขาไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ก่อนที่ตนจะขอยุติการบวชชีพราหมณ์เพื่อความปลอดภัย
"เราก็ไม่เคยรู้จักหรือเคยพบเห็นผู้ชายคนนี้นะ และไม่ใช่สามีแน่นอน จนภายหลังมีญาติของเขาติดต่อเข้ามาหา จึงรู้ว่าบุคคลนี้ได้หายออกจากบ้าน ประมาณ 8 เดือน ซึ่งที่บ้านก็ไม่ทราบว่ามาบวช และมีประวัติป่วย ต้องกินยาจิตเวชมากว่า 1 ปีแล้ว ญาติเขาก็กล่าวขอโทษแทนด้วย" น.ส.ยศชญา กล่าว
พระภัสสนนท์ อาภาสโร อายุ 62 ปี กล่าวว่า คนที่ปรากฏในคลิปเป็นพระที่อื่น แต่มาขออยู่กลางพรรษาที่วัด เจ้าอาวาสก็เมตตาให้พักอยู่ที่วัด โดยอาศัยอยู่บนกุฏิบนเขา เห็นว่าก่อนเกิดเหตุถูกสึก เนื่องจากมีปัญหากระทบกระทั่งกับพระภายในวัด และหลังสึกก็มาก่อทึกทักผู้ที่มาปฎิบัติธรรม ซึ่งเป็นหญิงสาวว่าเป็นแฟนสาว โดยอ้างว่ามีลูกด้วยกัน 1 คน และรถยนต์ก็ซื้อให้จนมีการโต้เถียงบานปลาย จึงต้องเเจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ ก็พบว่าชายคนดังกล่าวพูดจาไม่รู้เรื่อง เนื่องจากตำรวจสอบถามชื่อสุกลจริงก็พูดไม่ตรง จึงได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปสอบสวนที่โรงพัก ก่อนที่จะติดต่อญาติมารับตัวกลับไปดูแล
ทั้งนี้ ในฐานะที่อาตมาเป็นพระที่นี่ ก็อยากจะฝากเตือนพระที่จะมาบวชใหม่ ควรที่จะมีผู้ปกครองดูแลและรับรองการบวชหรือยินยอมให้มาพัก เมื่อเกิดเรื่องราวจะได้มีส่วนรับผิดชอบหรือดูแลได้ หรือผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรมก็ควรจะมีเพื่อนหรือญาติมาดูแลเพื่อความปลอดภัย หลังจากนี้ก็คงจะต้องเข้มงวดดูแลความปลอดภัยให้มากกว่าเดิม
