เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค. 64 ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน รับแจ้งมีคนเสียชีวิตภายในลานวัดสุวรรณรัตนาราม(แคราย) ม.4 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีบรอนด์เทา หมายเลขทะเบียนณส 970 กรุงเทพมหานคร
โดยภายในบริเวณที่นั่งคนขับพบศพ นายปัญณศิริ ทองเต็ม อายุ 26 ปี ชาว กทม. และที่บริเวณด้านข้างคนขับพบเตาปิ้งอาหารพร้อมเศษกระดาษจำนวนหนึ่ง มีรอยไหม้วางอยู่ที่วางเท้าด้านหน้าซ้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน
จากการสอบถามนายประยูร ต้องสงค์ อายุ 58 ปี บอกว่า ตนเห็นรถคันดังกล่าวมาจอดสภาพนี้ ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ราว 3 วันแล้ว และมาวันนี้พระมากวาดบริเวณลานวัด ได้กลิ่นเหม็นโชยมา จึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่านายปัญณศิริน่าจะใช้เตารมควันฆ่าตัวตาย ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบ ซึ่งจะได้เชิญญาติมาสอบปากคำ และศพผู้เสียชีวิตก็จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร นำศพส่งโรงพยาบาลศิริราช เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป
โดยญาติของผู้ตาย พี่สาวคนตาย ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะพบพิรุธเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ รายการโทรเข้าออกของมือถือหายไปทั้ง 3 เครื่อง แม้ว่าญาติจะพยามติดต่อแต่ก็ไม่พบรายการโทรเข้านั้น
ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังวัดสุวรรณรัตนาราม (แคราย) จ.สมุทรสาคร สถานที่เกิดเหตุ พบว่าจุดดังกล่าวอยู่บริเวณใต้ต้นโพธิ์ ด้านหน้าอุโบสถ ซึ่งเป็นจุดมุมอัพที่ไม่มีกล้องวงจรปิดของวัดติดตั้งอยู่ ภายหลังเกิดเหตุยังคงมีการปิดล้อมพื้นที่ใต้ต้นโพธิ์เอาไว้ ซึ่งหลังญาติคาใจเจ้าหน้าที่เตรียมที่จะลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม
ในช่วงที่ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ในคืนนี้ พบว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา และบริเวณจุดดังกล่าวไฟสองสว่างก็มีน้อย ประกอบกับใต้ต้นโพธิ์ที่พบศพในรถก็มีลักษณะดวงไฟเสียประมาณ 1 ดวง คล้ายกับไฟกระพริบ
พระสนธยา สัจวโร พระลูกวัดในฐานะคนที่เจอศพคนแรก เปิดเผยว่า ตนเองเห็นรถเก๋งคันดังกล่าวมาจอดตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค. แต่ไม่ทราบว่าเข้ามาตอนไหน เพราะตอนที่ไปกวาดลานวัดด้านหน้าโบสถ์ ก็พบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวจอดทิ้งเอาไว้ และไม่ได้สังเกตว่าด้านไหนมีคนอยู่หรือไม่ เพราะโดยปกติบริเวณลานดังกล่าวจะเป็นที่จอดรถสำหรับเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติงานเกี่ยวกับจุดรับบริจาคของผู้ช่วยเหลือ โควิด-19 จึงไม่ได้สังเกตว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถคนนอก คิดว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ที่มาประจำศูนย์รับบริจาค
จนกระทั่งวันที่ 4 ต.ค. เริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาเป็นระยะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีคนตายอยู่ในรถ ตนเองยังคงกวาดลานวัดอยู่บริเวณใต้ต้นโพธิ์หน้าโบสถ์ และพยายามเดินตามหากลิ่นคิดว่าเป็นหมาหรือแมวตาย ก็ไม่ได้เอะใจ แต่รถคันดังกล่าวก็ยังจอดอยู่ในตำแหน่งเดิม แต่อาจมีรถของเจ้าหน้าที่คนอื่นมาจอดเคียงข้าง ซึ่งเป็นรถของคนที่เข้าไปทำงานในศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด
จนกระทั่งวันนี้ ตนเองได้กลับเข้าไปกวาดที่ลานวัดอีกครั้ง ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าชัดมากยิ่งขึ้น จึงได้เดินวนที่รถเก่งที่จอดอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ซึ่งเดินไปเหนือลมบริเวณหน้ารถ กลิ่นหายไป แต่เมื่อเดินมาท้ายรถได้กลิ่นเหม็นเน่าชัดเจน จึงได้ตัดสินใจสองเข้าไปดูในรถ ก็เห็นว่ามีคนตายอยู่ภายใน จึงได้รีบแจ้งเจ้าอาวาสวัด และเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงที่รถจอดอยู่ที่ใต้ต้นโพธิ์ ตนเองก็ไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติ และไม่รู้ว่ารถมีลักษณะล็อกหรือไม่
