เปิดนาทีโจ๋ 16 ซิ่งกระบะเสยชนหนุ่มซื้อก๋วยเตี๋ยวให้เมียท้องแก่ดับ ร้านพังยับ จี้รับผิดชอบ (คลิป)

จากกรณีคืน (23 ต.ค.) ที่ผ่านมา มีเหตุรถกระบะชนกัน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณถนนสีหบุรานุกิจขาออก ใกล้เคียงวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ตรวจสอบพบว่าที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนเยื้องโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ นายรัชชานนท์ ศรีปุณชยางกูร อายุ 16 ปี  ส่วนผู้เสียชีวิต ชื่อ สุริยา โคกสมบัติ

วันที่ 24 ต.ค.61 นายธีรภัทร โคกสมบัติ อายุ 18 ปี น้องชายผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนและผู้ตายเพิ่งกลับมาจากเล่นฟุตบอล ก่อนจะขับรถมาจอดที่บริเวณดังกล่าวเนื่องจากพี่ชายต้องการซื้อก๋วยเตี๋ยวไปให้ภรรยาที่ท้องแก่ใกล้คลอด โดยบอกให้ตนนั่งอยู่ภายในรถ

ขณะที่พี่ชายกำลังเดินไปที่ร้าน ได้ยินเสียงคล้ายกับการเบรกรถดัง ลากยาวมาก่อนที่รถดังกล่าวจะมาชนกับรถที่ตนนั่งอยู่ และพุ่งชนพี่ชายที่อยู่ด้านนอก ก่อนจะไปชนกับเสาไฟ ทำให้พี่ชายเสียชีวิตทันที หลังเกิดเหตุ ตนได้มีโอกาสถามนายรัชชานนท์ ผู้ที่ก่อเหตุ โดยได้อ้างว่า ถูกรถจักรยานยนต์ตัดหน้า จึงต้องหักหลบ

นายเอ (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนรถกระบะคันจะพุ่งชนผู้ตายและร้านค้า ตนได้ยินเสียงคล้ายรถคันดังกล่าว ออกตัวด้วยความเร็ว ลักษณะเป็นเสียงล้อยางฟรีไปกับพื้น ตนจึงหันไปดู ปรากฎว่าได้ยินเสียงรถคันดังกล่าวเปลี่ยนเกียร์ 2 ก่อนเหยียบคันเร่งออกตัวอีกครั้ง จากนั้นล้อก็ฟรีเช่นเดิม และจังหวะต่อมา ตนก็เห็นรถคันดังกล่าวเสียหลัก เหมือนคุมรถไม่อยู่ ส่ายไปมา ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 50 เมตร และไม่กี่วินาทีต่อมา รถคันดังกล่าวก็พุ่งชนเข้าที่เกิดเหตุ

ส่วนตัวรู้สึกตกใจ เพราะเห็นรถชนกระทั่งติดกับเสาไฟฟ้า จึงรีบเดินไปดู และพบว่ามีผู้เสียชีวิตนอนอยู่กับพื้นบริเวณใต้เสาไฟฟ้า แต่ขณะนั้น ตนยังเห็นผู้เสียชีวิตหายใจอยู่ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเหตุครั้งนี้ เกิดขึ้นจากรถผู้ก่อเหตุมาด้วยความเร็ว อีกทั้งถนนช่วงดังกล่าวฝนเพิ่งหยุดตก ทำให้ถนนลื่น

นางจิรัชยา ไชยหาวงค์ แม่ค้าอาหารตามสั่ง กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ ขณะนั้นตนเก็บของกลับบ้านแล้ว ภายในร้านมีเพียงอุปกรณ์ทำมาหากินของตนวางอยู่ ตนได้รับสายจากเพื่อนที่ขายอาหารละแวกใกล้เคียงว่าที่ร้านตนมีรถพุ่งชนข้าวของเสียหาย จึงรีบไปดูที่เกิดเหตุ หลังเห็นสภาพที่เกิดเหตุ ก็รู้สึกตกใจมาก เพราะนอกจากสิ่งของภายในร้านจะเสียหายมากกว่า 90% แล้ว ยังพบมีผู้เสียชีวิตบริเวณร้านตนด้วย ขณะนี้ตนกังวลว่าจะไม่มีผู้รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากหลังเกิดเรื่อง ยังไม่ได้เจอหรือรู้ว่าคู่กรณีคือใคร แต่ตนต้องการให้คู่กรณีรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะตนไม่มีเงินทุนเปิดร้านใหม่ อีกทั้งมูลค่าความเสียหายภายในร้าน เมื่อประเมินแล้วสูงเกือบ 100,000 บาท หากช่วงเกิดเหตุตนยังไม่ปิดร้าน เชื่อว่าตนอาจเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตไปแล้ว เพราะจุดดังกล่าวเป็นจุดที่ตนยืนทำอาหารเป็นประจำ ทีมข่าวเดินทางต่อไปมาที่โรงพยาบาลเสรีรักษ์ ซึ่งเป็นที่รักษาตัวของนายรัชชานนท์ ผู้ขับรถชน โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระบุว่า ผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา