จากกรณีเมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 24 ก.ย. 64 ตำรวจสภ.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.หาดสำราญเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาว่ามีเด็กชายวัย 11 ปี ถูกทำร้ายร่างกายเข้ามารับรักษาและเสียชีวิต ทราบชื่อเวลาต่อมา คือเด็กชายเบียร์ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพมีร่องรอยฟกช้ำ และบวมบริเวณจมูกมีเลือดไหลออกมา หน้าผากและหัวเข่าด้านซ้าย
ผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนต่างวัยคือ เด็กชายหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเดียวกัน สาเหตุการทำร้ายร่างกายเกิดจากเด็ก 11 ปี ขโมยมีดพับของเด็ก 13 ปี จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ และไปก่อเหตุเตะก้านคอนั้น
วันที่ 25 ก.ย. 64 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา นางสาวผกามาศ วันแรก อายุ 29 ปี แม่ของเด็กชายเบียร์ ผู้เสียชีวิต เดินทางไปรับศพออกจากนิติเวชโรงพยาบาล นำร่างของลูกกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาเอนกประสงค์ของหมู่บ้าน ช่วงเวลาที่มีการรดน้ำศพ สังเกตว่ามีกลุ่มเครือญาติ และชาวบ้านในหมู่บ้านเดินทางมาร่วมจำนวนมาก เนื่องจากเด็กชายเบียร์เป็นเด็กนิสัยดี ไม่เกเร ประกอบกับเป็นคนเรียนเก่ง จึงเป็นที่รักของชาวบ้านในหมู่บ้าน หลังจากที่เสียชีวิตทำให้ชาวบ้านต่างมาร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก
นางสาวผกามาศ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองออกไปทำงาน และปล่อยให้ลูกชายเล่นอยู่กับเพื่อนที่บ้าน แต่โดยปกติเจ้าตัวไม่เคยจะไปเล่นไกลบ้าน และไม่เคยไปเล่นที่บ้านของเด็กชายหนึ่ง คนก่อเหตุ เนื่องจากเด็กคนดังกล่าวเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านไม่นาน แต่หลังจากที่ทราบว่าลูกชายถูกทำร้ายร่างกายและเสียชีวิต ตนเองไม่ทันได้ดูใจลูก เพราะเดินทางไปถึงโรงพยาบาล ลูกก็เสียชีวิตแล้ว
ซึ่งการตายของลูกตอนนี้ยังรอผลการตรวจชันสูตรอย่างละเอียดจากทางโรงพยาบาล ซึ่งคาดว่าในอีก 2 สัปดาห์จึงจะรู้ผล แต่ตนเองก็เชื่อว่ามีการทำร้ายร่างกายลูกจนกระทั่งถึงแก่ความตาย เพราะบริเวณใบหน้ามีบาดแผล ที่สำคัญลูกชายไม่เคยมีโรคประจำตัวหรือมีอาการเจ็บป่วยก่อนที่จะเสียชีวิต ดังนั้นจึงเชื่อว่ามีคนทำร้ายร่างกายลูกชายให้เสียชีวิตอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าจะเกิดจากการถูกเตะก้านคอหรือไม่
ตนเองก็มีความกังวลว่าคดีของลูกชายจะไม่คืบหน้า ดังนั้นจึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย และอยากให้คนผิดมามอบตัว เพราะตอนนี้ทราบว่ามีการหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าวันจันทร์ที่จะถึงนี้ตามการนัดหมายของพนักงานสอบสวนตัวของแม่เด็กและเด็กชายหนึ่งจะไปเจอกับพนักงานสอบสวนอีกหรือไม่ แต่หลังเกิดเหตุตนเองยังไม่มีโอกาสเจอกับแม่เด็ก และยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยอะไรกัน
สำหรับตัวลูกชาย ยอมรับว่าเป็นคนเรียนดีสอบได้ที่ 1 ทุกเทอม สร้างความภูมิใจให้กับคนในครอบครัวและคนเป็นแม่ โดยลูกชายเคยบอกกับตัวเองว่าหากโตขึ้นมาจะไปสอบตำรวจหรือทหาร
ทีมข่าวเดินทางย้อนกลับไปที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของเด็กชายหนึ่ง โดยพบว่าวันนี้คนในครอบครัวที่อยู่ในวันเกิดเหตุ รวมทั้งตัวของเด็กชายหนึ่ง ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว มีการย้ายไปอาศัยชั่วคราวอยู่ที่จังหวัดกระบี่ โดยมีนายประสบ กูมุดา อายุ 57 ปี ปู่เลี้ยง เดินทางมาอาศัยอยู่เฝ้าบ้านแทน
นายประสบ บอกว่า ในวันเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ด้วย จึงไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่มารู้ภายหลังว่าตัวของเด็กชายเบียร์เสียชีวิต โดยเบื้องต้นตัวของพ่อเด็กและแม่เด็กก็ได้มีการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่ยืนยันว่าที่เค้าไม่อยู่บ้านวันนี้ไม่ได้เป็นเพราะหนี แต่เพียงไปตั้งหลัก โดยเดินทางไปที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นบ้านของพ่อ เพื่อเตรียมในเรื่องของการสู้คดีรวมถึงเงินประกันตัว
ส่วนตัวก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ที่หลานชายวัยเพียงแค่ 13 ปี จะต้องตกเป็นผู้ต้องหา และอาจจะต้องไปรับโทษโดยเข้าสถานพินิจ แต่เรื่องของพฤติกรรมการพกมีด หรือการทำร้ายร่างกายนั้นตนเองก็ไม่รู้ เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่กับตัวของเด็ก
