กรณีเพจเฟซบุ๊ก “หลวงเจ๊ เจริญพวง” ส่งเรื่องราวระบุว่า “มีคลิปหลุดพระเกจิดัง พระนักเทศน์กับเณร ฝากติดตามหน่อย อย่าให้เป็นมารศาสนา เป็นพระดังบางกรวย จ.นนทบุรี”
ล่าสุดวันที่ 16 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ ไปที่วัดดังย่านบางกรวย จ.นนทบุรี เป็นวัดขนาดใหญ่ มีพระกว่า 22 รูป เณร 5 รูป และยังเปิดให้เป็นโรงเรียนสอนเปรียญธรรม ซึ่งจะมีสามเณรและพระจากวัดอื่น เดินทางมาเรียนที่วัดแห่งนี้ ประกอบกับพระส่วนใหญ่ภายในวัด ก็จะเป็นพระครูเกือบทั้งหมด
ทีมข่าวเดินทางไปกุฎิท้ายวัด ทราบว่าเป็นกุฎิของพระที่ปรากฏอยู่ในภาพนิ่ง โดยกุฎิหลังดังกล่าว เป็นกุฎิ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ทาสีเหลือง ส่วนชั้นบนเป็นอาคารไม้ ทาสีน้ำตาล ซึ่งพระหลวงพี่ก้อง อาศัยอยู่ชั้นล่าง ที่เป็นส่วนของห้องประตูกระจก
สำหรับประวัติพระหลวงพี่ก้อง เดินทางมาจากจ.ศรีสะเกษ บวชเป็นเณรที่วัดดังกล่าว ช่วงปี 2554 เรียนนักธรรม (ยังไม่จบ) และเรียนเทศน์เลื่อนจากสารเณรเป็นพระช่วงปี 2557
ทีมข่าวได้เจอกับ นายยอด (นามสมมติ) อายุ 58 ปี ลูกศิษย์คนสนิทของพระหลวงพี่ก้อง พาทีมข่าวสำรวจกุฎิ แต่ไม่สามารถเปิดกุญแจเข้าไปด้านไหนได้ เนื่องจากกุญแจ อยู่ติดตัวพระหลวงพี่ก้อง แต่จะมีช่องประตูที่พอจะมองเห็นด้านไหนได้ประปลาย ทีมข่าวสังเกตว่า ด้านในมีการเก็บเข้าของบางส่วนออกไปแล้ว ซึ่งคาดว่าหลังเกิดเหตุ พระหลวงพี่ก้องหนีไปจำวัดที่อื่น หรือหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว
บริเวณด้านหน้ากุฏิของพระหลวงพี่ก้อง จะมีภาพของเจ้าตัวติดอยู่หน้ากุฏิ เป็นทั้งภาพวาดและภาพถ่าย อีกทั้งยังมีป้ายข้อความสีขาว พื้นสีเลือดหมู เขียนเตือนสติเอาไว้ว่า “เราอาจตั้งต้นชีวิตใหม่ของเราได้เสมอ คำว่าแก่เกินไป เด็กเกินไป หรือสายเกินไปเสียแล้ว เหล่านี้หาใช่อุปสรรคของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเราไม่ หากแต่ความเกียจคร้านต่างหาก ที่ทำให้เราพูดเช่นนั้น ๆ”
นายยอด เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้า โดยมีพระในวัดเล่าให้ฟังว่า พระหลวงพี่ก้อง ถ่ายภาพโป๊เปลือยและมีภาพอนาจาร ทำให้มีคนร้องเรียนความไม่เหมาะสมเข้ามาที่วัด ทีแรกก็ไม่เชื่อจนกระทั่งเห็นภาพดังกล่าวจึงค่อนข้างตกใจ เพราะไม่คิดว่าพระหลวงพี่ก้องจะปฎิบัติตัวแบบนี้ ที่ผ่านมาตนในฐานะคนที่รู้จักพระหลวงพี่ก้องตั้งแต่เด็ก เริ่มตั้งแต่บวชเป็นเณร จนกระทั่งไปร่ำเรียนวิชาเทศน์ และมีประสบการณ์ มีคนนับหน้าถือตา มีคนนิมนต์ออกงานหลายแห่ง ตนก็เป็นคนหนึ่งที่ขับรถไปส่งแทบทุกที่
ที่ผ่านมาพระหลวงพี่ ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ หรือพฤติกรรมเรื่องของการมั่วอบายมุข แต่ก็เริ่มสังเกตได้ว่า ระยะหลังช่วงที่มีพระเณรเด็ก หรือกลุ่มลูกศิษย์หน้าตาดีแวะเวียนเข้ามาหา บางครั้งก็มาขอพักแรมที่กุฏิ ตนจึงคิดว่าอาจเป็นช่วงที่พระหลวงพี่ก้องสามารถก่อเหตุได้ เนื่องจากเป็นกุฏิที่ไม่มีพระรูปอื่นจำวัดอยู่ด้วย
อีกทั้งหากมีการดูภาพที่ปรากฏนั้น จะเห็นได้ว่าลักษณะภายในห้อง หรือเตียงที่ใช้ก่อเหตุ ก็เป็นพื้นที่ในกุฏิทั้งหมด ไม่ใช่โรงแรมหรือสถานที่ภายนอก ดังนั้นจึงยืนยันชัดเจนว่าภาพดังกล่าว คือ หลวงพี่ก้อง และมีการกระทำหรือการก่อเหตุภายในกุฏิของวัดจริง แต่หากดูตามภาพเพิ่มเติม บุคคลที่ปรากฏคู่ในภาพกับพระหลวงพี่ก้อง ก็ไม่ใช่พระหรือเณรในวัดนี้ อาจเป็นพระหรือเณรจากที่อื่น
ส่วนตัวในฐานะคนที่ปฏิบัติและเป็นลูกศิษย์ของพระหลวงพี่ก้อง มานานกว่า 10 ปี ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกหมดศรัทธา แล้วตนก็อยากให้เจ้าตัวมาตอบคำถามสังคมว่าทำไปเพื่ออะไร อีกทั้งตนจะได้คลายความสงสัย และจะได้รู้คำชี้แจงที่พระหลวงพี่ก้องจะอธิบาย เพียงแต่ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน
เช่นเดียวกับนายพูน (นามสมมติ) ลูกศิษย์วัด เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับพระรูปดังกล่าวตั้งแต่เป็นเณร ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติกรรมเปลี่ยนเบนทางเพศ และไม่เคยมีประวัติเรื่องชู้สาว ดังนั้นจากภาพที่ปรากฏค่อนข้างตกใจ เพราะโดยปกติพระรูปดังกล่าวเป็นพระนักเทศน์ มักจะมีคนนิมนต์ให้ไปร่วมงานหลักหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่นับหน้าถือตา ไม่เคยสร้างเรื่องไม่ดี
แต่หลังจากที่ปรากฏคลิปหรือภาพนิ่งดังกล่าวออกไป ก็ค่อนข้างสวนทางกัน ทำให้ตนในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งที่เคยเคารพนับถือ หมดศรัทธาไปได้ แต่ทั้งนี้อยากให้เจ้าตัวออกมาชี้แจง ว่าข้อเท็จจริงเกิดอะไรขึ้น กลัวว่าวัดจะได้รับความเสียหาย และผู้ปกครองจะไม่ส่งบุตรหลานมาบวชเณรที่วัดนี้
ในฐานะลูกศิษย์วัด การกระทำเป็นความผิดที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวบุคคล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางวัด ซึ่งความศรัทธาที่มีต่อวัด และพระที่ปฏิบัติดียังคงมีอยู่ ดังนั้นชาวบ้านไม่ได้หมดศรัทธา และยังเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิด ถึงแม้จะใช้สถานที่ภายในวัด แต่เณรที่ปรากฏอยู่ในคลิป ยืนยันว่าไม่ใช่เณรของที่วัด เพราะไม่เคยมีเด็กคนไหนเข้าไปยุ่งกับกุฏิของพระหลวงพี่ก้อง ดังนั้นก็อยากให้รับผิดชอบด้วยการลาสิกขาออกไป อย่างน้อยก็ไม่ทำให้พุทธศาสนาแปดเปื้อนไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าพระหลวงพี่ก้อง อาจจะเริ่มรู้แล้วว่ามีเหตุการณ์นี้ หรืออาจมีการเผยแพร่คลิป เพราะสังเกตว่าเมื่อช่วงวันนี้ มีกลุ่มคนแปลกหน้าเข้ามาที่กุฏิ โดยมีรถแท็กซี่เข้ามา 1 คัน ทยอยขนของออกจากกุฏิ แต่ไม่เห็นตัวของพระหลวงพี่ก้อง ซึ่งตนเชื่อว่าอาจเป็นการขนย้ายของหนี เพียงแต่ไม่รู้ว่าไปอาศัยอยู่ที่ไหนเท่านั้น
ด้านพระครูโสภณ ปริยัตยากร เจ้าอาวาสวัด (วัดศรีประวัติ) เปิดเผยว่า อาตมาเพิ่งทราบว่าเกิดเหตุการณ์พระถ่ายคลิปอนาจารภายในวัด โดยทราบจากที่ทีมข่าวมาบอก แต่ดูจากพฤติกรรมการถ่ายคลิป อาจจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วง 1-2 วัน อาจเป็นการกระทำที่ทำต่อเนื่องมานานแล้ว มีลักษณะค่อนข้างชำนาญ
แต่ที่ผ่านมาพระหลวงพี่ก้องไม่เคยมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ มุ่งมั่นแต่พัฒนาวัด และศึกษาด้านพระธรรม แล้วอาตมายังได้มอบหมายให้เป็นพระครู สอนสามเณรและพระที่เข้ามาเรียนในวัด ด้านของพระหลวงพี่ก้อง ยังมีความสามารถ เป็นพระนักเทศน์ เป็นพระนักแล จนกระทั่งมีญาติโยมให้ความสนใจ นิมนต์ให้ไปงานต่าง ๆ นอกพื้นที่
จากพฤติกรรมทั้งภาพนิ่งและคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น เบื้องต้นพระหลวงพี่ก้อง ถือว่าปาราชิกแล้ว เรียกได้ว่ามีความผิดทางวินัยพระ สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือให้สึกเท่านั้น แต่ก่อนที่จะให้สึก หากมีโอกาสเจอตัวก็คงจะสอบถามหรือให้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน แต่สุดท้ายเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้วก็ต้องขาดจากความเป็นพระทันที เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจน
ภายหลังที่อาตมาได้ดูคลิปและภาพนิ่ง ยืนยันว่าบุคคลที่อยู่ในคลิปกับพระหลวงพี่ก้อง ไม่ใช่เณรหรือพระในวัด แต่คาดว่าเป็นพระหรือเณรจากที่อื่น และที่สำคัญเณรในวัดมีแค่ 5 รูป และทั้งหมดเป็นเด็ก ไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ เว้นแต่ว่าจะมีพระหรือลูกศิษย์ที่อื่น แวะเวียนมาที่กุฏิเป็นครั้งคราว
ส่วนตัวในฐานะเป็นเจ้าอาวาส ได้เจอกับพระหลวงพี่ก้องครั้งสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากเจ้าตัวมีการจัดงานทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด โดยใช้สถานที่ภายในศาลาวัด แล้วมีการเชิญลูกศิษย์เคารพนับถือ รวมถึงครอบครัวที่เดินทางมาจาก จ.สะเกษ มาร่วมงานบุญ แต่อาตมาไม่ได้เดินทางมาร่วม เพราะเนื่องจากติดกิจนิมนต์ข้างนอก
อย่างไรก็ตาม อาตมาก็ไม่มีอะไรฝากถึงพระหลวงพี่ก้อง แต่อยากจะฝากเตือนเป็นข้อคิดสั้น ๆ ว่า “ พูดง่าย ๆ ถ้าทำตัวระยำ ก็อย่ามาอยู่วัดนี้ หากจะเป็นขยะทำให้วัด ศาสนา เสื่อมเสีย ไม่สมควรที่จะอยู่ต่อไป ในความเป็นสมณะ ยังไงก็อยู่ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะปาราชิก”
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ย้อนเหตุการณ์พระวัดดังมั่วเซ็กซ์ ในเดือน มิ.ย.59 หลวงพี่เอ ซึ่งเป็นพระนักเทศน์ นัดแนะผู้ชายผ่านทวิตเตอร์ ตั้งกลุ่มลับมีคำว่า "สายเหลือง" เป็นสัญลักษณ์ ปัจจุบันหนีออกจากวัดไปแล้ว
Advertisement