
วันที่ 19 ธ.ค. 68 ตำรวจไซเบอร์ 4 และกองวิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 นำหมายค้นศาลจังหวัดพิมาย ที่ 19/2568 ค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เข้าจับกุม น.ส.หยาดฟ้า อายุ 30 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง บัตรแสดงหมายเลขหวยบ้านทรัพย์มหาศาล ,บ้านมาตาเศรษฐี ,บ้านมงคลเศรษฐี และบ้านถุงเงินถุงทอง ประจำงวดวันที่ 2 มกราคม 2569 รวมจำนวน 3,733 ใบ
ในการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.2 บก.สอท.4 ได้เข้าจับกุม “ก้อยบางแค” เจ้ามือหวยใต้ดินออนไลน์รายใหญ่ย่าน บางแค กรุงเทพฯ เมื่อช่วงช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ทำการสอบสวนสืบสวนขยายผลจนได้พยานหลักฐานที่เชื่อมโยงว่า น.ส.ก้อยเป็นลูกข่าย และรับสลากหวยมาอีกทอดหนึ่งจาก น.ส.หยาดฟ้า ซึ่งเป็นเจ้ามือหวย ชื่อ “หวยบ้านทรัพย์มหาศาล” ซึ่งได้มีการโพสต์ขายผ่านทางออนไลน์ มีฐานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้านพัก และเจ้าจับกุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด
จากการสอบสวน น.ส.หยาดฟ้า ให้การยอมรับว่าได้ลักลอบขายหวยใต้ดินออนไลน์มานานกว่า 5 ปี เนื่องจากมีรายได้ดี โดยเป็นแม่ข่ายหวยใต้ดินออนไลน์และส่งหวยให้กับตัวแทน ซึ่งเป็นลูกข่ายทั้งในพื้นที่ อ.พิมายและต่างจังหวัด เพื่อนำไปขายต่อในราคาใบละ 150 บาท โดยตัวแทนจะได้กำไรจากราคาหน้าสลาก 20 บาทต่อใบ
โดยจะประกาศผลรางวัลทุกในวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ซึ่งผู้ซื้อหวยจะได้รับสิทธิลุ้นหลากหลายรางวัล ตัวอย่างเช่น รางวัลเลข 3 ตัวท้ายรางวัลที่1 จะรับเงิน 100,000 บาท 3ตัวหน้ารางวัลที่ 1 จะรับเงิน 1,000 บาท 3ตัวท้ายรางวัลข้างเคียง จะรับเงิน 300 บาท 3ตัวหน้าหมุนสองครั้ง จะรับเงิน 300 บาท 3ตัวท้ายหมุน 2 ครั้ง จะรับเงิน 300 บาท 2ตัวโต๊ดรางวัลที่ 1 จะรับเงิน 200 บาท 2 ตัวบน จะรับเงิน 200 บาท 2 และตัวล่างจะรับเงิน 200 บาท เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมามีรายได้จากการขายหวยเฉลี่ย 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน
โดยตำรวจดำเนินคดีในความผิดฐาน “จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน”
Advertisement