
วันที่ 17 พ.ย.2568 พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง การปราบปรามสแกมเมอร์ อย่างที่ทราบว่าเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ยกลำดับเป็นภารกิจสำคัญ ตำรวจทุกนายในประเทศต้องนำไปปฏิบัติ ซึ่งที่ผ่านมานายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะการระดมกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ มีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจับกุมคนร้าย กว่า 7,000 คน มีทั้งอาชญากรรมประเภทออนไลน์ทุกอย่าง ซิมผีบัญชีม้า รวมถึงการลักลอบนำคนไปทำงานเป็นสแกมเมอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน และจับกุมเว็บไซต์การพนัน-ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 41 ล้านบาท ทั้งนี้มีการประสานกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ปิดกั้นแพลตฟอร์มเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ พร้อมกับมีการสำรวจเสาสัญญาณ และจุดที่มีการลักลอบใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศเพื่อนบ้านกว่า 1,600 จุด โดยได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ส่วนมาตรการในต่างประเทศตั้งแต่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่ประเทศจีนเพราะสแกมเมอร์เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญอย่างยิ่ง โดยผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีการประชุมร่วมกับ 6 ประเทศ ประกอบด้วย จีน ไทย เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ที่มีภัยคุกคามประเภทเดียวกัน โดยมีนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานการประชุม โดยได้ร่วมหารือสถานการณ์การหลอกลวงข้ามชาติ และโทรคมนาคมออนไลน์ที่สร้างความเสียหายส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงทางสังคมของประชาชนอย่างร้ายแรง
โดยการประชุมได้มีการบรรลุฉันทามติ และข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม จนเป็นข้อริเริ่มว่าด้วยการปราบปราม และจัดการอาชญากรรมฉ้อโกงทางโทรคมนาคม จนได้ข้อตกลงหลายด้านอาทิ ทุกประเทศจะใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นในเขตแดนของตนเองและไม่ปล่อยให้มีแก๊งค์สแกมเมอร์ในประเทศตัวเอง ปฏิบัติการกวาดล้างเขตนิคมที่เป็นฐานพนันออนไลน์ จับกุมผู้ต้องสงสัย ประสานงานเก็บหลักฐานในคดี-แลกเปลี่ยนพยานหลักฐาน-ส่งมอบพยานหลักฐานทางคดีระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม มีการตกลงเรื่องการส่งตัวผู้ต้องหากลับไปยังประเทศที่ต้องการตัว อายัดทรัพย์สินนำมาคืนให้กับผู้เสียหาย พัฒนางานประสานคดีข่าวกรองข้ามแดนร่วมกัน-สนับสนุนปฏิบัติการระหว่างภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง แลกเปลี่ยนศึกษาดูแลแพลตฟอร์ม ดูแลเรื่องคลิปโตเอ็กซ์เชนจ์ให้โปร่งใสยุติธรรม
โดยครั้งที่แล้วในการประชุม GBC ได้มีการตกลงกับกัมพูชาแต่ครั้งนี้มี 6 ประเทศ คาดว่าจะมีความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม พร้อมยืนยันกับประชาชนว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการภายใต้รัฐบาล ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้คนไทยตกเป็นเหยื่อ และดำเนินการเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ ร่วมมือกับรัฐบาลและเหล่าทัพปกป้องอธิปไตยของประเทศในทุกมิติ
Advertisement