
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กองกำลังบูรพาและทหารพรานกองร้อย 1204 จัดกำลังพลลาดตระเวน เพื่อป้องกันและสกัดกั้น กลุ่มคนลักลอบเข้าออกนอกประเทศ โดยผิดกฎหมาย โดยสามารถจับกุม กลุ่มคนลักลอบ เป็นชาวกัมพูชาทั้งหมด 14 คน เป็นชาย 6 คนและผู้หญิง 8 คน โดยเป็นการลักลอบเข้ามาประเทศไทย
จากการสอบถาม ชาวกัมพูชากลุ่มนี้ จะเข้ามาหางานรับจ้างขายผลไม้ที่ตลาดไท จ.ปทุมธานี เนื่องจากได้รับการชักชวนจากเพื่อนชาวกัมพูชา ที่ทำงานอยู่ที่ตลาดไท จึงลักลอบข้ามแดนเข้ามาในประเทศไทย โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ เสียค่าใช้จ่ายให้กับผู้นำพาไปแล้วจำนวน 1,500 บาท และจะเสียอีก 5,000 บาท เมื่อไปถึงปลายทาง
ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่สถานีตำรวจภูธรคลองน้ำใส พบชาวกัมพูชาทั้ง 14 คน ถูกคุมตัวมาส่งตำรวจ เรายังพบกระเป๋าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในสภาพเปียกและเปื้อนโคลน หลังทั้งหมดลักลอบข้ามคลองน้ำใส ซึ่งเป็นคลองที่กั้นชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ข้ามมายังประเทศไทย
ทีมข่าวได้คุยกับนายค่อม หนึ่งในชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุม ตนเองเคยทำงานในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี โดยทำงานก่อสร้าง ที่จังหวัดภูเก็ต แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ความรุนแรง จึงตัดสินใจข้ามแดนกลับ ไปประเทศกัมพูชา เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว โดยข้ามกลับประเทศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี แต่เมื่อไปที่ประเทศกัมพูชาต้องไปทำไร่ ทำนา พอจะมีรายได้อยู่บ้างแต่อาจไม่สูงเท่าอยู่ที่ประเทศไทย
กระทั่งเมื่อวานนี้ติดต่อชาวกัมพูชาให้มารวมตัวกันบริเวณแนวชายแดน เพื่อข้ามคลองน้ำใส ลักลอบเข้ามาประเทศไทย โดยคิดราคาค่าหัวคนละ 6,500 บาท นายหน้าชาวกัมพูชาบอกว่า สามารถข้ามประเทศไทยได้อย่างสบาย ไม่ถูกจับ เมื่อมาถึงบริเวณแนวชายแดน พบว่าถูกหลอก ไม่จริงอย่างที่นายหน้าชาวกัมพูชาบอก กระทั่งมาถูกทหารจับกุมได้
ส่วนตัวอยากให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชา จบลงโดยเร็ว เพื่อจะได้สามารถข้ามกลับไปทำงานที่ประเทศไทย อย่างถูกกฎหมาย
Advertisement