"บิ๊กโจ๊ก" ซัดแรง ผบ.ตร.เลือกปฏิบัติ ใช้อำนาจมิชอบ
"บิ๊กโจ๊ก" ซัดแรง ผบ.ตร.ใช้อำนาจมิชอบ เลือกปฏิบัติ ยันตนเองบริสุทธิ์ แต่ถูกกลั่นแกล้ง ขณะที่คนใกล้ชิด “บิ๊ก ต.เต่า” มีเส้นเงินโอนเงินนับร้อยครั้งกลับลอยนวล
วันนี้ (6 พ.ย.68) ที่รัฐสภา ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม กมธ.ความมั่นคง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ช่วงเช้า พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่า วันนี้มีเรื่องชี้แจงต่อกรรมาธิการความมั่นคง 2 เรื่อง ก่อนเข้าให้ข้อมูลต่อ กมธ.ความมั่นคง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยตนได้ยื่นเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องเส้นเงิน การรับผลประโยชน์จากเว็บพนันของตำรวจ ประมาณ 30 กว่าคน เพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้ กพค.ตร. (คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่พิทักษ์และคุ้มครองระบบคุณธรรมของข้าราชการตำรวจ) เคยชี้มูลไปแล้ว รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเอกสารชิ้นนี้ เมื่อวานตนเองถูก พลตำรวจเอกวินัย ทองสอง นายกสมคมตำรวจ ได้ตำหนิตนว่าเหตุใดมีข้อมูลเเล้วจึงไม่นำมาให้ ตนขอเเจงผ่านสื่อ ฝากไปยังพลตำรวจเอกวินัย ว่าข้อมูลเรื่องนี้ตนเองเคยมีหนังสือไปถึง พลตำรวจเอก กิตติรัตน์ พันธ์เพชร ผบ.ตร. ตั้งเเต่วันที่ 20 สิงหาคม 2567 แล้ว ซึ่งปัจจุบันผ่านมาเป็นปี แต่ "บิ๊กต่าย" ยังนิ่งเฉย แม้จะอ้างว่ามีการตั้งคณะกรรมการแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ ยังได้นำข้อมูลเส้นเงินเว็บพนัน ที่จ่ายไปยังชุด PTC เป็นชุดทำงานที่ถูกเเต่งตั้งมาเพื่อปราบปรามเว็บพนัน ซึ่งพลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ อยู่ในชุดทำงานนี้ด้วย ซึ่งจะไปเกี่ยวพันกับ "ส.ส. อักษรย่อช.ช้าง" เพราะเป็นเส้นเงินที่เชื่อมโยงกัน ยืนยันว่าสิ่งที่ตนยื่นไป โดยเฉพาะเรื่องเส้นเงิน ตนให้ความยุติธรรม เพราะตนยังไม่เชื่อว่าบุคคลเหล่านั้นจะรับเงิน แต่ในเมื่อวันนี้ ตนไม่ใช่ตำรวจ ตนเป็นประชาชนพลเมืองที่จ่ายภาษี จึงมีสิทธิ์ยื่นต่อ กมธ.ให้ตรวจสอบ หากผลมีการเรียกรับผลประโยชน์จริงตามที่ตนร้อง แสดงว่า "ท่านเป็นหน่วยปราบ ที่ไม่ปราบ แล้วไปรับเงินเสียเอง"
ขณะเดียวกันทางด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็ได้เปิดเผยข้อมูลนี้เช่นกัน แต่รายละเอียดในเรื่องเงินต่าง ๆ มีการโอนเงินไปยังข้าราชการตำรวจบางคนกว่า 100 ครั้ง และในนั้นยังมีการโอนเงินไปให้ภรรยา"บิ๊ก ต.เต่า" - พี่ชาย"บิ๊ก ต.เต่า. - พี่สาว"บิ๊ก ต.เต่า" - นายเวร"บิ๊ก ต.เต่า" แสดงให้เห็นว่า "บิ๊ก ต.เต่า" เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายทุกเรื่อง
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังกล่าวถึง กรณีเรื่องถูกกล่าวหาข้อสอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ตนยื่นร้องต่อ กมธ. ว่า พลตำรวจเอก กิตติรัตน์ พันธ์เพชร ผบ.ตร. ใช้อำนาจโดยมิชอบในการเเต่งตั้งคณะกรรมการ ดำเนินการวินัยกับตนอย่างไม่เป็นธรรม ยืนยันว่าตนไม่ได้โกงข้อสอบและไม่ได้มีพยานหลักฐานใด ๆ มาถึงตนด้วย ถึงแม้ผู้ดูแลข้อสอบของจุฬาฯ จะมีการนำเอกสารมาให้กับตำรวจชั้นประทวนนายหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกน้องของตน เเต่ข้อสอบดังกล่าวตนไม่เคยได้รับ เเละไม่เคยถูกเปิดด้วยซ้ำ อีกทั้ง การตั้งคณะกรรมการวินัยนั้น จะต้องดำเนินการก็ต่อเมื่อกระทำความผิดหรือถูกกล่าวหาในคดีอาญา แต่กรณีนี้ตนยังไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา และไม่ได้ถูกดำเนินคดีในคดีอาญา แต่กลับถูกตั้งคณะกรรมการวินัย มองว่าไม่เป็นธรรมกับตน เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ พร้อมพูดการใช้คำพูดที่รุนแรงในการชี้แจงกมธ.ความมั่นคง ว่า อดีตคณบดีฯ ที่ชี้แจงในวันนี้ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในคดีผมเพราะมีสามีเป็นตำรวจยศพลตำรวจโท อดีตเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งเป็น นักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกับพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. ซึ่งเคยมีความขัดแย้งกัน
ส่วนการประชุมในภาคบ่าย จุดเริ่มต้นเกิดจาก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เรื่อง "ตั๋วหนู" มีการแต่งตั้งนายตำรวจข้างกายคนหนึ่งของนายกรัฐมนตรี ยศพลตำรวจโท ซึ่งเกี่ยวข้องกับ "ผับจินหลิง" และ "ตู้ห่าว" ซึ่งนายตำรวจท่านนี้ถูกตนดำเนินคดี และคดีอยู่ใน ป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พลตำรวจเอก กิตติรัตน์พันธ์เพชร ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่ทำเนียบรัฐบาล ตำหนิ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กรณีคำพูดว่า "ตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ" มองว่าคำพูดดังกล่าวรุนเเรงเกินไป เป็นคำพูดที่ทำให้ตำรวจเจ็บช้ำ ในประเด็นดังกล่าว พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้สังคมมองว่าตำรวจไม่ได้ทำดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการปราบปรามเเก๊งสเเกมเมอร์ - เว็บพนัน ซึ่งการที่ตนพูดถึงว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรม ตนไม่ได้เหมารวมถึงตำรวจทั้งเเผ่นดิน แต่ตนพูดถึงตำรวจบางกลุ่ม โดยเฉพาะตำรวจไซเบอร์ ที่มีหน้าที่ปราบปรามเว็บพนัน แต่สุดท้าย ตำรวจบางรายรับเงิน - มีผลประโยชน์จากเว็ปพนัน ซึ่งตำรวจเพียงหยิบมือเดียวทำให้ตำรวจกว่า 2 แสนคน ต้องเสียหาย และสิ่งที่ ผบ. ตร.ควรทำ คือรีบแก้ไขและจัดการปัญหาดังกล่าว ไม่ใช่มาพูดโต้แย้งกับตน พออธิบายกับสังคมหรือตอบคำถามกันไม่ได้ ก็พยายามจะเอาตำรวจทั้งประเทศมาพูดให้เกลียดชังตน
ก่อนหน้านี้ในเรื่องของเส้นเงินจากเว็บพนันไม่มีมาแตะตนเเม้เเต่เส้นเดียว ตนถูกให้ออกจากราชการ แต่ตำรวจคือ “บิ๊ก ต.เต่า” มีเส้นเงินโอนเข้าคนใกล้ชิดร้อยกว่าครั้ง กลับไม่ถูกดำเนินการใด ๆ มองว่า ผบ.ตร.เลือกปฏิบัติ
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณี พลตำรวจเอก กิตติรัตน์ พันธ์เพชร ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์สื่อ กล่าวถึงวลี "คนบ้านปทุมวัน ไม่ควรทำร้ายบ้านตัวเอง" คิดว่าหมายถึงใคร ทางพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยอมรับว่าหมายถึงตนเเน่นอน เพราะตนเป็นคนบ้านปทุมวัน ท่านจะเกลียดผมไม่เป็นไร หากรักองค์กรจริง ท่านจะต้องปกป้อง- รักษาองค์กร ช่วยกันปราบปรามผู้ที่ทำให้องค์กรเสื่อมเสีย
Advertisement
