
จากเหตุการณ์ที่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน (IMF) ได้เปิดเผยว่า มีหญิงไทยผูกคอเสียชีวิตอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่งในเมืองปอยเปต จ.บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ประเทศกัมพูชา
โดยหญิงคนดังกล่าวผูกคอกับหน้าต่างห้องพัก แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นการผูกคอเสียชีวิตเอง หรือมีการฆาตกรรม เบื้องต้นทราบว่าหญิงคนดังกล่าวบ้านเกิดอยู่ที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (4 พ.ย .68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังของ น.ส.สุธาทิพย์ (สงวนนามสกุล) หรือ มินท์ อายุ 28 ปี หญิงไทยที่เสียชีวิตที่ประเทศกัมพูชา พบกับนายสมพงษ์ อายุ 32 ปี สามีของผู้เสียชีวิต และน.ส.ส้ม อายุ 78 ปี ย่าของผู้เสียชีวิต ซึ่งทั้ง 2 ได้เดินทางไปติดต่อขอศพที่ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเท จ.สระแก้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าร่างของ น.ส.สุธาทิพย์ ถูกนำไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลในเมืองปอยเปต หากผ่าชันสูตรเสร็จสิ้นแล้วจะติดต่อให้ญาติมาดำเนินการอีกครั้ง จึงได้แค่รอรับร่าง น.ส.สุธาทิพย์ กลับมาบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดบางน้ำเปรี้ยวบ้านเกิด
นายสมพงษ์ สามีของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ภรรยาของตนเองเดินทางเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไปทำงานเป็นPR สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองปอยเปต ภรรยาเดินทางไปเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา และสัญญาว่าจะกลับมาลอยกระทงกับลูกสาววัย 3 ขวบ ในวันที่ 5 พ.ย. นี้ ภรรยาของตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่อยู่ที่เมืองไทยแล้ว ส่วนสาเหตุที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างแดนนั้น เพราะปัญหาหนี้สินภรรยาจึงตัดสินใจเดินทางไปทำงาน เก็บเงินมาใช้หนี้ และส่งเงินกลับมาให้ลูกสาวได้กินได้ใช้
ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยการผูกคอนั้น ตนเองและย่าของผู้ตายไม่ได้ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต เพราะทราบดีว่าผู้เสียชีวิตป่วยด้วยอาการซึมเศร้าอยู่ โดยข้อความสุดท้ายที่ได้คุยกับภรรยาคือ เขาทักมาบอกว่าได้กินเหล้าเมาแล้วเงินที่เก็บไว้ทั้งหมดเตรียมจะกลับไทยมาหาลูกสาวได้หายไปทั้งกระเป๋า บ่นตัดพ้อชีวิตตนเองว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ก่อนที่ตนจะติดต่อกับภรรยาไม่ได้อีกเลย จนมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาว่าภรรยาของตนได้ผูกคอเสียชีวิตที่ฝั่งกัมพูชา
สิ่งที่อยากร้องขอตอนนี้คืออยากนำร่างของภรรยากลับมาที่เมืองไทยให้ได้เร็วที่สุด เพราะเมื่อวานนี้ไปติดต่อขอรับร่าง แต่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการชันสูตรที่ประเทศกัมพูชา
Advertisement