
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 68 ร.ต.อ.หญิง พัทธ์ธีรา เพชรทองเกลี้ยง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนเสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 9 ต.วัดโบสถ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จำนวน2 ราย เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านพบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ ร.ต.นิวัฒน์ อายุ 65 ปี (อดีตทหารป่าหวายลพบุรี) ถูกยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอยกระสุนทะลุหน้าผาก นอนตายจมกองเลือดที่บริเวณประตูห้องนอน
ส่วนศพที่สอง คือ นางปาวิตา อายุ 62 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ นอนคว่ำหน้าอยู่ที่ประตูห้องน้ำ ส่วนเด็กชายวัย 9 เดือน ทางญาติได้นำออกจากอ่างอาบน้ำไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปถึง
ส่วนภายในบ้านไม่มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินแต่อย่างใด มีเพียงกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าบ้าน จำนวน 2 ตัว ได้ถูกคนร้ายถอดออกไป เหลือเพียงห้องวงจรปิดภายในบ้าน จำนวน 1 ตัว
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เปิดกล้องวงจรปิด จากการตรวจสอบพบว่ากล้องวงจรปิดจับภาพบริเวณขาคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุได้ โดยเฉพาะที่บริเวณขามีเส้นเลือดขอดจำนวนมาก จากการตรวจค้นทรัพย์สินภายในห้องนอนของผู้เสียชีวิต พบลูกระเบิดแบบน้อยหน่า จำนวน 1 ลูก พร้อมอาวุธปืนสั้น จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาว จำนวน 1 กระบอก ที่เก็บอยู่ในตู้เสื้อผ้า
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ พบนายสมพร อายุ 67 ปี เป็นรองนายก อบต.วัดโบสถ์ มานั่งพุดคุยกับญาติในที่เกิดเหตุ และมีลักษณะคล้ายกับคนร้ายที่วงจรปิดจับภาพได้ ทางชุดสืบสวนจึงได้เรียกมาทำการพูดคุย ปรากฏว่านายสมพรมีท่าทางพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการเค้นอย่างหนัก จนเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุฆ่า 2 ตัวเมียจริง โดยใช้อาวุธปืนสั้น แบบลูกโม่ ขนาด .38 เข้าไปยิง ร.ต.นิวัฒน์ แต่ทางเมียผู้ตายที่อยู่ในห้องน้ำได้ร้องโวยวาย จึงใช้ปืนยิงเข้าที่ศีรษะของ นางปาวิตา จนเสียชีวิต แล้วเดินไปทำการถอดกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าที่บ้าน จำนวน 2 ตัว ขึ้นรถ จยย. เพื่อนำกล้องและปลอกกระสุนไปทิ้งในคลอง ก่อนขี่รถกลับบ้านไปทำการถอดซักเสื้อผ้าชุดที่ก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว
จากนั้น นายสมพร ได้ขี่รถกลับมาดูความเคลื่อนไหวที่บ้านเกิดเหตุอีกครั้ง จนถูกเจ้าหน้าที่จับตัวได้ และนำตัวผู้ก่อเหตุไปทำการตรวจค้นที่บ้านพักพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมเสื้อผ้าที่ใส่ไปก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางพร้อมนำตัวไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง
จากการสอบสวนทราบว่า ร.ต.นิวัฒน์ (อดีตทหารป่าหวายลพบุรี) และนางปาวิตา ภรรยา ได้อยู่อาศัยที่บ้านเกิดเหตุ ส่วนลูกสาวได้แต่งงานไปอยู่กินกับสามีที่เป็นทหารอยู่ จ.ลพบุรี เมื่อได้หลานชาย จึงได้นำมาเลี้ยงดูที่บ้านเกิดเหตุ ในช่วงสาย นางปาวิตา ภรรยา ได้พาหลานชายเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ต่อมา นายสมพร มือฆ่า ได้ขี่ จยย.เข้ามาในบ้านก่อนใช้ปืนยิงสามีและภรรยาจนเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุการฆ่ากันตายครั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การว่ามีเรื่องโกรธเคืองกับน้องเขย (คนตาย) ที่ปล่อยให้ตนเองดูแลแม่ยายที่ป่วยติดเตียงเพียงคนเดียว จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงสองสามีภรรยาจนเสียชีวิต
ญาติผู้มาพบเหตุการณ์คนแรก กล่าวว่า ลูกสาวของผู้เสียชีวิตโทรมาว่า ให้ไปดูคุณพ่อกับคุณแม่ให้หน่อย เพราะว่าติดต่อไม่ได้ ก็เลยมาดูพอมาถึงก็ตะโกนเรียกก่อน ก็ไม่มีใครตอบ ก็เลยถือวิสาสะเข้าไปในบ้าน เห็นผู้ชายที่เป็นผู้ตายนอนตะแคงอยู่แต่ไม่รู้ว่าเป็นลมหรือว่าเป็นอะไร เพราะตอนนั้นไฟปิดมืดมองไม่เห็น ก็เลยเอื้อมมือไปเปิดไฟก็เลยเห็น ส่วนผู้หญิงหลังจากเปิดไฟก็มองเห็นอยู่ในห้องน้ำ สภาพนอนตะแคงเหมือนกันมีเลือดออก ส่วนเด็กที่เป็นหลานสาวก็อยู่ในห้องน้ำอยู่ในส่วนที่เป็นกระจกกั้นของห้องน้ำ ครั้งแรกน้องไม่ร้องแ ต่พอคุณยายที่เข้าไปดูด้วยกันเรียกชื่อน้องก็ร้องออกมา
พล.ต.ต.สรัญพัฒน์ ยศสมบัติ ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีได้กำชับผกก.ทุก สภ.ว่ามีเหตุอุจฉกรรจ์ให้มาตรวจสถานที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง สำหรับเคสนี้ สภ. เมืองปราจีนบุรีได้รับแจ้งเวลาประมาณ 19:00 น. ว่าผู้เสียชีวิตด้วยกระสุนปืน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ตาย 2 รายเป็นชาย 1 ราย เป็นหญิง 1 ราย และมีเด็กอายุไม่ถึงหนึ่งขวบซึ่งเป็นหลานอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
จากการรวบรวมพยาน ทราบว่าตามมูลเหตุในเรื่องนี้คือผู้ก่อเหตุเป็นคู่เขยกับผู้ตาย ซึ่งตัวมารดาของภรรยาของผู้ ก่อเหตุ ป่วยติดเตียงผู้ก่อเหตุได้ดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงฝ่ายเดียว วันนี้มาถามด้วยคำพูดที่ไม่ถูกใจก็ทำให้เกิดอารมณ์ ส่วนอาวุธปืนเป็นปืนที่ไว้พกไปนา ขนาด .38 เป็นของพ่อซึ่งป่วยติดเตียงเหมือนกัน จะเอาปืนมาคืนเลยยิงไป 1 นัดที่ท้ายทอย และไปยิงภรรยาในห้องน้ำซึ่งกำลังจะอาบน้ำให้หลาน วันนี้ก็มีนายอำเภอและกำนันมาเป็นพยานว่า ผู้ก่อเหตุรับสารภาพโดยไม่ได้เป็นการข่มขู่หรือถูกบังคับ เป็นการสารภาพโดยสมัครใจ
Advertisement