เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 15 ก.ย. 68 ที่จ.นครพนม ร.ต.อ.ชนุตร์ ภูเทียมศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งจากศูนย์ฯ191 ว่า มีรถจักรยานยนต์แหกโค้งเสียชีวิต บริเวณทางโค้งช่วงบ้านน้อยนาคำ-หนองปลาดุก หมู่ 19 ต.บ้าน ผึ้ง อ.เมืองนครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนมลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนมจุดเมือง และกู้ภัย อบต.บ้านผึ้ง
พบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในที่นาข้าวชาวบ้าน ห่างจากถนนประมาณ 10 เมตร โดยมีรถจักรยานยนต์ ลักษณะแต่งซิ่ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพยางหน้าแตกวงล้อหน้าบิดเบี้ยว ทราบชื่อผู้เสียชีวิตนายนภากร หรือ เติ้ล อายุ 20 ปี
จากการสอบสวนนายวิษณุ ชนะพจน์ ซึ่งเป็นชาวบ้านละแวกนั้น เล่าว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อไปกรีดยาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์คันที่อยู่ข้างหน้าเสียหลักหลุดโค้งครูดกับถนนลงไปอยู่ในทุ่งนา จึงจอดรถลงไปดู พบคนเจ็บยังนอนหายใจรวยรินอยู่ จึงทำรีบ CPR ปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ เชื่อว่าว่าคนขับอาจจะไม่ชินกับเส้นทาง เพราะเป็นทางโค้งอันตราย และไม่มีไฟส่องสว่าง
ต่อมาได้มีนายจำปา อายุ 63 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัย อบต.รามราช ซึ่งเป็นตาของผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกับนางตู้ อายุ 58 ปี พอเห็นศพสองตายายก็ถึงกับเข่าทรุดนั่งร้องไห้ข้างร่างไร้ลมหายใจหลานชาย พร้อมเล่าว่า ช่วงเวลาประมาณสองทุ่ม หลานชายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน พร้อมกับเพื่อนรวม 3 คน โดยขับขี่กันคนละคัน บอกจะไปหาเพื่อนต่างหมู่บ้าน กระทั่งเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่าหลานชายได้ขี่รถแหกโค้งเสียชีวิตจึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ ยอมรับว่าหลานชอบแต่งรถซิ่ง เคยเตือนประจำในการขับขี่ อีกอย่างตนเลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็กๆ เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน โดยแม่เขาเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ปีหน้าก็จะเข้ารับการคัดเลือกทหารแล้ว และไม่ติดใจการเสียชีวิต เชื่อว่าเกิดจากอุบัติเหตุ ด้านแพทย์หลังตรวจสอบชันสูตรไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย ศีรษะมีรอยถูกกระแทกทำให้เกิดเลือดคั่งในสมองเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต
โดยนายจำปา ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย อบต.รามราช ได้ห่อร่างนายเติ้ลหลานชายด้วยมือตนเอง เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ท่ามกลางความเศร้าสลดที่ต้องมาเก็บศพหลานชายตัวเอง
Advertisement