ตำรวจปส.ร่วมตำรวจพิจิตร ไล่ล่าสกัดแก๊งเครือข่ายลำเรียงยาเสพติด จับ2 ผู้ต้องหายึดของงกลางยาบ้า10 กระสอบ รวม 2.5 ล้านเม็ด
ที่จังหวัดพิจิตรเจ้าหน้าที่ตำรวจปส.และหน่วยกู้ภัยสรรเพ็ชญ์พิจิตร กำลังเร่งช่วยเหลือ คนร้ายจำนวน 2 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในซากรถยนต์เก๋ง ที่เสียหลักจากการถูกตำรวจไล่ล่าตกคูน้ำข้างทางหลวง
โดยนำช่วยเหลือนำขึ้นมาได้ทั้ง 2 คน เป็นเครือข่ายลำเรียงยาเสพติด พบของกลางยาบ้าซุกในรถ10กระสอบ จำนวน2.5ล้านเม็ด เหตุเกิดบนถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข111พิจิตร-เนินสมอตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมืองพิจิตร โดยพ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวตำรวจชุดปราบปราม และสกัดกั้นยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ประสานตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ร่วมตำรวจสภ.เมืองพิจิตร ทำการสกัดกั้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสันสีดำหมายเลขทะเบียนกท-713กำแพงเพชร
ซึ่งขณะตำรวจปส.แสดงตัวเข้าจับกุม บริเวณกลางสี่แยกระหว่างติดสัญญาณไฟแดง แต่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ไหวตัวทัน เร่งเครื่องยนต์ขับหลบหนีการจับกุม จากบริเวณสี่แยกในตัวเมืองพิจิตร และหลบหนีมาเส้นทางถนนเลี่ยงเมืองพิจิตร-เนินสมอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจปส. และตำรวจพิจิตร ได้ทำการไล่ล่าและสกัดกั้น จากนั้นรถของคนร้ายได้เสียหลักพลิกคว่ำตกคูน้ำข้างทาง
ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำตัวออกมา จากตัวรถยนต์เก๋งที่ตกคูน้ำสภาพรถหงายท้องชี้ฟ้า แบทุลักทุเลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาลพิจิตรจำนวน 2 คนทราบ ชื่อคือนายอาคม ทองแก้วอายุ 27ปี ชาวจ.สุราษฏร์ธานี และนายชีพจร อาวุธเพชร อายุ37ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช จาการตรวจสอบภายในรถยนต์เก๋งดังกล่าวตำรวจตะลึงพบกระสอบปุ๋ยจำนวน 10 กระสอบ ภายในบรรจุยาบ้ารวม 2.5ล้าน เม็ด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการตรวจยึดของกลางยาบ้าทั้งหมด และแจ้งข้อกล่าวดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปส.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ ได้ทำการแกะรอยเครือข่ายลำเรียงยาเสพติดดังกล่าวมาจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือไทย-เนียนมาด้านจังหวัดเชียงราย
ซึ่งเครือข่ายดังกล่าวจะใช้ลำเรียงยาเสพติดออกเส้นทางรอง ระหว่างหมู่บ้านตำบล และอำเภอลัดเลาะ เส้นทางมาเรื่อยๆและจะจ้างคนในพื้นที่คอยนำทาง แต่จะไม่ใช้เส้นทางหลักเพื่อหลบด่านตรวจต่างๆจึงเข้ามาถึงพื้นที่จังหวัดพิจิตรเมื่อได้โอกาสจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม สำหรับผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนย้ายลำเรียงยาเสพติดล็อตดังกล่าวจำนวน10กระสอบ รวม2.5ล้านเม็ด เพื่อจะไปส่งมอบให้เครือข่ายในพื้นที่ภาคกลางโดยจะได้ค่าจ้างคนละ25000บาท อย่างไรก็ตามจะได้เ ร่งขยายผลเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
Advertisement