ยุคที่การเดินทางและการช้อปปิ้งออนไลน์ระหว่างประเทศได้รับความนิยมมากขึ้น บริการ “รับหิ้วของ” กลายเป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคย โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ มักจะมีเพื่อน คนรู้จัก หรือแม้แต่คนแปลกหน้า มาฝากซื้อหรือฝากหิ้วสินค้า
แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ การรับหิ้วของหรือช่วยขนสัมภาระจากต่างประเทศ อาจกลายเป็นช่องทางให้ขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งจาก “ผู้รับหิ้ว” อาจตกเป็น “ผู้ต้องหา” โดยไม่รู้ตัว
เหตุการณ์ล่าสุด
กัญชาอัดแท่ง-พอร์ตหัวยาเค ซุกในกระปุกน้ำพริก
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเล่าประสบการณ์ของน้องสาวที่รับหิ้วของจากไทยไปดูไบ ขณะจัดกระเป๋า พบความผิดปกติในกระปุกน้ำพริก เมื่อแกะออกกลับเจอ กัญชาอัดแท่งกว่า 20 กิโลกรัม อีกทั้งพบพอร์ตหัวยาเค และขนมเยลลี่ผสมสารเสพติด โชคดีที่เจ้าตัวตรวจเจอก่อนเดินทางและรีบแจ้งตำรวจ ไม่เช่นนั้นหากนำขึ้นเครื่องไปต่างประเทศ คงถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ลักลอบขนยาเสพติดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ยาไอซ์ 18 กิโลกรัม ซุกในตุ๊กตา
อีกเหตุการณ์หนึ่งวันที่ 18 สิงหาคม 2568 แม่ค้ารับหิ้วรายหนึ่งมีลูกค้าฝากตุ๊กตาอ้างว่าเป็นของชำร่วยงานแต่ง แต่เมื่อตัดสินใจแกะตรวจสอบด้วยความเอะใจ กลับพบว่าข้างในซุกซ่อน ยาไอซ์น้ำหนักรวมกว่า 18 กิโลกรัม หากเจ้าตัวนำของเหล่านี้ผ่านเข้าไปยังเกาหลีใต้ จะมีโทษร้ายแรงถึงจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษประหาร เพราะกฎหมายต่างประเทศนั้นของดังกล่าวถือว่าเป็นของที่เธอนำเข้าเอง โชคดีที่ตรวจพบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันเวลา
วิธีการที่มิจฉาชีพชอบใช้
• ฝากหิ้วโดยไม่เปิดเผยสินค้า เช่น ขอให้ช่วยนำ “ของฝาก” หรือ “ของใช้ส่วนตัว” โดยใส่กระเป๋าปิดผนึก
• ซ่อนสิ่งผิดกฎหมายในของใช้ทั่วไป เช่น ของขวัญ เสื้อผ้า รองเท้า ของเล่นเด็ก หรือของที่ระลึกต่างๆ
• อาศัยความไว้ใจ โดยมักแสดงตัวเป็นเพื่อนคนรู้จัก หรือใช้โซเชียลมีเดียติดต่อพร้อมคำพูดที่ทำให้ผู้รับหิ้วรู้สึกเกรงใจ
ความเสี่ยงทางกฎหมาย
• การพกพาหรือครอบครองยาเสพติด ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และมีโทษร้ายแรงในหลายประเทศ
• ถูกห้ามเข้าประเทศถาวร และติดบัญชีดำการเดินทางระหว่างประเทศ
• เสียชื่อเสียงและโอกาสในชีวิต แม้จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับกระบวนการทางกฎหมายที่ยาวนาน
คำเตือนจากกรมศุลกากร
กรมศุลกากรเตือนประชาชน “อย่าหลงเชื่อรับหิ้วของข้ามประเทศ” เพราะอาจถูกหลอกให้กลายเป็นผู้ลักลอบขนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว
• อย่าหลงเชื่อคำชักชวนที่ไม่สมเหตุสมผล เช่น การชวนไปท่องเที่ยวต่างประเทศโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือการชักชวนให้นำสิ่งของออกไปนอกราชอาณาจักรโดยมีค่าตอบแทน
• ห้ามรับฝากสิ่งของจากบุคคลอื่นโดยเด็ดขาด แม้ว่าจะตรวจสอบสิ่งของในสัมภาระแล้วก็ตาม เพราะขบวนการลักลอบมีความเชี่ยวชาญในการซุกซ่อนยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย
• หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบสิ่งผิดกฎหมายในสัมภาระ ท่านจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน
วิธีป้องกันตนเอง
• อย่ารับฝากของจากคนที่ไม่สนิท โดยเฉพาะหากของถูก ซีล ปิดผนึก หรือไม่สามารถตรวจสอบได้
• ตรวจสอบทุกครั้งก่อนเดินทาง สัมภาระทุกชิ้นควรเป็นของตนเอง และรู้ที่มาที่ไปชัดเจน
• อย่าหลงเชื่อคำพูดหว่านล้อม เช่น “ช่วยเอาไปส่งให้เพื่อน” หรือ “ฝากของนิดเดียว”
• หากพบสิ่งผิดปกติในกระเป๋าเดินทาง ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบทันที
การรับหิ้วของข้ามประเทศ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นกับดักอันตรายจากขบวนการค้ายาเสพติด ที่ส่งผลเสียร้ายแรงต่ออนาคต ดังนั้นก่อนจะรับฝากสิ่งใดจากใคร ควรยึดหลัก “ระวังไว้ก่อนดีที่สุด” เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
Advertisement