หลังจากการสืบสวนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 45 วัน ของตำรวจ สภ.ช้างกลาง นครศรีธรรมราช และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค8 ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ติดตามค้นหานายปฎิพลพิทักษ์หรือ"ฟิล์มหลักช้าง" อายุ 36 ปี ชาวตำบลหลักช้าง อำเภอช้างกลาง นครศรีธรรมราช ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมเบื้องหลัง จากการตามสังหารล้างหนี้เบี้ยวยาบ้า21มัด (42,000เม็ด)
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(28ส.ค.)พ.ต.อ.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย ผกก.สภ.ช้างกลาง นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนสายตรวจและตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบริเวณหุบเขาบ้านหน้าเหมน ท้องที่หมู่12 ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลางนครศรีธรรมราช หลังจากการสืบสวนมาอย่างต่อเนื่อง จนพบข้อมูลว่าขบวนการค้ายาที่เกี่ยวข้อง ได้อุ้มนายปฏิพลหรือฟิล์มหลักช้างสังหาร และขุดหลุมฝังไว้ที่บริเวณเนินเขาใกล้สวนทุเรียนของชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ พบว่ามีร่องรอยคล้ายเครื่องจักรหนักขุดดิน และการสืบสวนของตำรวจสามารถระบุจุดฝังได้จึงทำการขุดลึกลงไปกว่า 1 เมตร พบศพถูกห่อด้วยผ้าคล้ายผ้าห่ม พร้อมเชือกไนล่อนมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยอย่างรุนแรง ตำรวจได้เก็บหลักฐานในหลุมที่พบอย่างละเอียด ทั้งเชือกและเศษวัตถุพยานบางอย่าง เพื่อเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ขณะนี้ตำรวจและหน่วยกู้ภัยอยู่ในระหว่าการกู้ร่างขึ้นมาจากหลุม
คดีนี้สืบเนื่องจากนายประเสริฐ พิทักษ์ พ่อของนายปฏิพลหรือฟิล์มหลักช้าง ได้เข้าแจ้งความการหายตัวไป ของนายปฏิพลตั้งแต่วันที่17กรกฎาคม2568 โดยจุดเกิดเหตุที่มีการอุ้มหายตัวไป เหตุเกิดที่บ้านของภรรยาในเขตตำบลช้างกลาง จากนั้นได้หายตัวไป อย่างไร้ร่องรอย โดยการสืบสวนของตำรวจอย่างต่อเนื่อง ต่อมาจนพบว่าการหายตัวไป นั้นเกี่ยวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด ที่นายปฏิพลเข้าไปเกี่ยวข้องจากการหักหลังเรื่องยาเสพติดการขยายผล ต่อมาตำรวจสามาถรยึดยาเสพติดได้กว่า 3 แสนเม็ด ในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุด พบศพเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน แต่ตำรวจยังค้นหาร่างของนายปฏิพลไม่พบ จนกระทั่งมีการสืบสวนเรื่องมาจนมาพบจุดฝังร่างของนายปฏิพล ไม่ห่างจากจุดพบยาเสพติดก่อนหน้านี้
ขณะนี้ พ.ต.อ.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย ผกก.สภ.ช้างกลาง ได้เร่งการรวบรวมข้อมูลและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ว่าตรงกับนายปฏิพลหรือไม่ส่วนข้อมูลอื่น มีการรวบรวมไว้จนครบถ้วนแล้ว สามารถระบุผู้เกี่ยวโยงได้ทั้งหมด รวมทั้งมีการตรวจยึดเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จากกลุ่มผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม และหายตัวของนายปฏิพลไว้ด้วยแล้ว โดยบุคคลดังกล่าวได้หลบหนีหากยืนยันอัตลักษณ์ผู้เสียชึวิตได้แล้วสามารถขอหมายจับกุมผู้ต้องบหาที่ก่อเหตุได้ทันที
Advertisement