จากกรณีโซเชียลมีการพูดถึง ‘หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ’ ถูกโยงเรื่องเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ซึ่งทางหมอบีมีการขออนุญาตนำชื่อวัด และมูลนิธิไปเปิดรับบริจาคนำเงินมาเข้าวัด แต่ปรากฏว่ามีการ พบว่าเงินไม่ได้เข้าวัดทั้งหมด ซึ่งทางหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ก็เพิ่งทราบเรื่องและมีการแต่งตั้งให้ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความของวัด เข้ามาดำเนินการ
ล่าสุดพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดเผยว่า หมอบี มาขออนุญาตหลวงพ่อเปิดบัญชีใช้ชื่อตัวเอง เพื่อนำไปทำกิจกรรมอาสาให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ตั้งแต่เมื่อปี 62 ซึ่งที่ผ่านมาทางเลขาของหมอบี ได้มีการรายงานการเบิกจ่ายทุกครั้ง แต่ลักษณะการทำงานของหมอบี ตัวอย่างเช่น หากมีเงินบริจาค 1 ล้าน ก็จะนำเงินสดมามอบให้ทางวัด 9 แสน ซึ่งเงินจำนวนนี้นำใส่ถุงมาอย่างดี ทางเจ้าอาวาสก็ไม่ได้เปิดดู แต่จะส่งให้กับทางคณะกรรมการดำเนินการต่อ ส่วนจำนวนเงินอีก 1 แสน ทราบว่าหมอบีจะนำไปทำโครงการจิตอาสา เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ
ส่วนนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะเงินจะเข้าไปที่โครงการโดยตรง ซึ่งที่ผ่านทางเจ้าอาวาสไม่เคยทราบว่ามีเงิน 1 แสน ถูกนำไปใช้โครงการ พึ่งมา
ทราบเมื่อปีที่แล้ว เลขาฯมาบอกว่ายอดที่หมอบีถวายให้ ถวายไปไม่ครบจำนวนยอดที่สรุปตามเอกสาร
เบื้องต้นแจ้งมาว่าทำไปแล้วประมาณ 10 ครั้ง อีกทั้งทางชาวบ้านที่บริจาคเงินก็ได้มีการตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องรถ และบ้านที่หมอบี แจ้งว่าจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม รวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนม แต่เจ้าอาวาสขอตัดประเด็นแบรนด์เนมทิ้ง เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลและเจ้าอาวาสไม่ทราบรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่สามารถปรักปรำได้เลย โดยเฉพาะบ้าน เจ้าอาวาสก็ยังไม่ได้เข้าไปดู มาทราบตอนที่สร้างเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งหมอบี แจ้งว่า “ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่มีที่พักอาศัย ห้องนอน และห้องทำกิจกรรมต่างๆ แต่เรื่องที่ดินคาดว่าน่าจะเป็นชื่อของหมอบีเอง ต้องรอเจ้าตัวชี้แจงอีกครั้ง ”
สำหรับเรื่องราวดังกล่าว เจ้าอาวาสรู้สึกว่า หมอบี มีความประมาทเลินเล่อ จึงมองว่าตรงนี้เป็นข้อบกพร่อง “ หมอบีไม่รายงาน ไม่มาเล่าให้หลวงพ่อฟังโดยละเอียด ถามก็แค่บอกปกติ ” หรือหมอบีอาจจะมองว่าหลวงพ่อไม่มีเวลาฟังหรือไม่ เวลาหลวงพ่อถามอะไรหมอบีก็ตอบไม่ลงลึก
แต่ก็จะไปพูดว่าโกงไม่ได้ เพราะยังไม่มีการตรวจสอบ ยืนยันตอนนี้ไม่มีการติดต่อกับหมอบี เนื่องจากเจ้าตัวป่วย และรูปแบบการทำงานของหมอบีเป็นแบบนี้มานานแล้ว จึงทำให้ทางเจ้าอาวาสและหมอบี ไม่สามารถลงรายละเอียดในบางกรณีเนื้องานได้ทุกเรื่อง เพราะเจ้าอาวาสเองก็มีภารกิจเยอะ เยอะกว่าหมอบี จึงไม่มีเวลามาสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น มีเพียงเลขาฯของหมอบีที่เป็นตัวแทนมาชี้แจงเท่านั้น
ส่วนประเด็นที่มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าอาวาสจะนำหลานหรือญาติมาควบคุมกำกับโครงการภายในวัดนั้น ยืนยันว่าไม่จริง เพราะตั้งมั่นอยู่แล้วว่า หากมีญาติหรือครอบครัวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องจะมีความวุ่นวายแน่นอน
นอกจากนี้ทางตำรวจส่วนกลางก็เคยเข้ามาที่วัดเพื่อขอข้อมูลเมื่อ 1-2 เดือนที่แล้ว เรื่องของเส้นทางการเงิน จนทราบว่าบัญชีหมอบีที่เปิดรับบริจาคมีความผิดปกติ เจ้าอาวาสจึงได้เรียกหมอบีคุยไปแล้วก่อนหน้านี้ หมอบี ก็บอกว่าจะกลับไปรวบรวมนำเอกสารหลักฐานของโครงการต่างๆ และกลับมาจริงพร้อมกับเอกสารกองโตซึ่งทางกรรมการวัดก็เป็นคนตรวจสอบ
ส่วนที่ตำรวจจะตรวจสอบไปเส้นทางการเงินของวัดหรือแม้เเต่ตัวเจ้าอาวาส ก็ไม่ได้กังวลอะไร พร้อมบอกว่า “ กรณีนี้คนที่เป็นเจ้าทุกข์คือชาวบ้านที่ทำบุญบริจาค และหมอบีตกเป็นจำเลยสังคม ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของหมอบีต้องชี้แจง ”
ซึ่งปัจจุบันนี้บัญชีดังกล่าวถูกระงับไปแล้วเมื่อ 1 เดือนที่แล้วหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น การระงับในครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการปิดบัญชี แต่หมายถึงหมอบีไม่สามารถเบิกจ่ายเงินจากบัญชีดังกล่าวได้ เนื่องจากวัดนำกลับมาดูแล ซึ่งจะเห็นว่าคนที่ทำบุญก็สามารถที่จะโอนเงินบริจาคได้ตามปกติ
หลวงพ่อพูดทิ้งท้ายอีกว่า "เมื่อไรก็ตามที่เราสามารถพิสูจน์ได้ว่าหมอบีมีการทุจริต หรือยักยอกเงินวัดหลวงพ่อดำเนินการแน่นอน เพราะหลวงพ่อสอนเขาด้วยปากตัวเอง"
ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ทางคณะกรรมการวัดทั้งหมด จะมีการประชุมหารือกันถึงเรื่องนี้ และจะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้รับทราบอีกครั้งที่วัดพระบาทน้ำพุ
Advertisement