หลังจากเมื่อวานนี้ (13 ก.ค.68) พระเทพพัชราภรณ์ ส่งหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม หลังถูกจับตาโยงเงินโอนกว่า 11 ล้านให้ “สีกากอล์ฟ”
ช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (14 ก.ค.68) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ,กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ลงพื้นที่วัดชูจิตธรรมาราม เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ ในฐานะพยานนานเกือบ 3 ชั่วโมง
ภายหลังการสอบปากคำ พันตำรวจโทสิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่าขณะนี้อดีตเจ้าอาวาสลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว เต็มใจจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินเบื้องต้นกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) อยู่ระหว่างตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นคือ วัดตรีทศเทพมา และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดชูจิตฯ เป็นเส้นทางการเงินที่ตรวจพบมากที่สุดจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ที่ได้มาจจากการทำกิจนิมนต์และจากการสอนหนังสือ เก็บสะสมเป็นเงินส่วนตัว ก่อนโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ยังไม่รวมอีก 3.8 แสนบาท ที่เป็นเงินจากบัญชีวัดโอนไปให้สีกากอล์ฟ มีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟถึง 10 ล้านบาท ซึ่งจากการกระทำของอดีตเจ้าอาวาสฯ เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดมาตรา 157
ส่วนสีกากอล์ฟเริ่มเข้าหาอดีตเจ้าอาวาสฯ โดยเดินทางมาพบด้วยตนเองที่วัด โดยอ้างตัวเป็นไฮโซและแอบอ้างพระผู้ใหญ่ ทำให้อดีตเจ้าอาวาสฯ เชื่อใจและหลงเชื่อโดยยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” และ “เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่” ส่วนเงินที่สีกากอล์ฟยืมจากอดีตเจ้าอาวาสฯ อ้างว่าขอยืมไปทำธุรกิจเซรามิก โดยไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ได้ทวงถามเรื่อยมาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง จนมีข่าวอดีตเจ้าคุณอาชว์ วัดตรีทศเทพ ตกเป็นข่าว จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก
ส่วนการทำธุรกรรมจากบัญชีวัด จากการตรวจสอบพบว่าวัดนี้ไม่มีไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัด ซึ่งถือว่าเป็นจุดอ่อนเช่นเดียวกับวัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร
ส่วนความสัมพันธ์เชิงชู้สาว อดีตเจ้าอาวาสฯ และสีกากอล์ฟยืนยันตรงกันว่าไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว และไม่มีพยานหลักฐานที่เป็นรูปภาพและคลิปวิดีโอในลักษณะถูกแบล็กเมล์ ส่วนเรื่องเงินที่ยืมจากอดีตเจ้าอาวาสฯ กว่า 10 ล้านบาท สีกากอล์ฟไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจออกหมายจับอดีตเจ้าอาวาสฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งทุกอย่างจะต้องนำไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อนโดยเฉพาะเส้นทางการเงินที๋โอนไปให้สีกากอล์ฟ หลังจากนี้พนักงานสอบสวนอาจพิจารณาเรียกตัวอดีตเจ้าอาวาสฯ และสีกากอล์ฟมาให้ปากคำเพิ่มเติม ขณะเดียวกันหลังมีข่าวพระผู้ใหญ่ที่พัวพันกับสีกากอล์ฟทยอยสึกไปแล้ว มีพระผู้ใหญ่อีกหลายรูปติดต่อมาเพื่อขอเข้าพบ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือบิ๊กเต่า เพื่อให้ข้อมูลที่เก็บไว้มานาน ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน
ด้าน พันตำรวจเอกวนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผู้กำกับการ กองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ยืนยันว่ากรณีนี้มีความผิดชัดเจน เนื่องจากพบว่ามีเงินจากบัญชีวัดโอนให้สีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท หลังจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบว่าเงินจำนวนดังกล่าวโอนจากบัญชีส่วนตัวไปบัญชีวัดและโอนต่อไปบัญชีสีกากอล์ฟหรือไม่ หรือโอนจากบัญชีวัดโดยตรง ซึ่งหากเป็นลักษณะดังกล่าวถือว่ามีความผิดชัดเจน ส่วนจะทยอนโอนหรือโอนครั้งเดียวหลังจากนี้จะไปตรวจสอบเพิ่มเติมเพราะถือเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ
และในระหว่างเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. กำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้านหน้า เจ้าหน้าที่ ปปป. ควบคุมตัวอดีตเจ้าอาวาสฯ ออกไปด้านหลังศาลาหอฉัน โดยสวมชุดสีขาวเดินขึ้นรถไปพร้อมเจ้าหน้าที่
Advertisement