วันที่ 14 ก.ค.2568 ภายหลังจากที่ พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับยอมรับว่าพลาด อ่อนต่อโลกมาก หลงเชื่อใจ “สีกากอล์ฟ” ยืมเงินไปทำธุรกิจ มากถึง 12.8 ล้านบาท โดยมีทั้งเงินส่วนตัว และบัญชีวัด 400,000 บาท
แต่ยืนยันว่าไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่เป็นการวางตัวลักษณะคนมีฐานะ ทำธุรกิจเกี่ยวกับเซรามิกและขาดเงิน อีกทั้งสีกา ก. มีการอ้างถึงพระผู้ใหญ่ จึงเชื่อใจและโอนเงินให้ โดยไม่เคยได้รับเงินคืน
ทางด้านรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า การที่มีเงินวัดเกี่ยวข้องในการโอนครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะไม่เพียงแต่ผิดวินัยสงฆ์เท่านั้น ยังเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งจะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการต่อไป
ล่าสุด สีกากอล์ฟ โทรศัพท์คุยกับหนุ่ม กรรชัย ในรายการ แต่ไม่ขอออกอากาศแบบโฟนอิน สีกากอล์ฟ ยอมรับว่ามีการขอยืมเงินท่านอาวาสวัดชูจิตจริง ยืมมาทำธุรกิจ ที่ท่านเชื่อใจ เพราะเห็นว่า เธอสนิทสนมกับพระชั้นผู้ใหญ่ในวงการพระพุทธศาสนาเยอะมาก
สีกากอล์ฟ ยืนยันว่าไม่มีสัมพันธ์ชู้สาวกับท่านอาวาสวัดชูจิต เพียงแต่มีการยืมเงิน และทยอยยืมจนเป็นยอด 12.8 ล้าน และคืนไปบ้างบางส่วน ซึ่งมีการโอนคืน 1 แสนบาท เงินสดบางส่วน
เมื่อทราบว่าท่านลาสิกขาแล้ว สีกากอล์ฟ บอกว่า “เสียใจมากๆ”
Advertisement