(8 ก.ค. 2568) ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท ได้แถลงข่าว เปิดเผยความคืบหน้า หลังจาก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เปิดปฏิบัติการ ปิดล้อมตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่กทม. สมุทรปราการ ชลบุรี ตามยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า วันนี้เป็นปฏิบัติการในการเข้าตรวจค้น สืบเนื่องจากทาง ตำรวจไซเบอร์ ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ผู้ต้องหา นายก๊กอาน หรือ MR. Kok An ในความผิด มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นการออกหมายจับ หลังจากที่เราขยายผลเพิ่มเติม มาจากคดีต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นคดีกาสิโน ซึ่งผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนสูญเสียเงินไป 300 กว่าล้าน, คดีคุณชาลอต, คดีล่าสุดที่มีคุณหมอจังหวัดเชียงรายถูกหลอกลวงไป 30 กว่าล้าน ซึ่งในการสืบสวนและที่จับกุมผู้ต้องหาได้ และรับสารภาพแบบเดียวกันว่า ได้ไปสแกนใบหน้าที่ตึก 25 ชั้น , ตึก 18 ชั้น อาคาร HISO และอาคาร Crown Casino ที่ ปอยเปต กัมพูชา เราจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสารและพยานต่างๆ ที่เราสามารถรวบรวม ได้ไปขออนุญาต ศาลออกหมายจับ นายก๊กอาน หรือ MR. Kok An ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารทั้งหมด
สำหรับปฏิบัติการในวันนี้ มีการตรวจค้น ทั้งหมด 19 จุด 3 จังหวัด ได้แก่ กทม., จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรปราการ โดยการตรวจค้นในวันนี้ พบว่าผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เป็นเจ้าของสถานที่ 19 จุดที่ตรวจค้น แต่ยังไม่สามารถแจงรายละเอียดได้ เนื่องจากบางหลังมีคนอยู่ มีคนดูแล บางครั้งไม่มีคนดูแล เป็นบ้านที่เพิ่งซื้อ
ขณะที่บ้านย่านสวนหลวง พบเพียงคนดูแลบ้าน ไม่พบตัวของ นางจูรี หรือ เชอร์รี่ ที่คาดว่าเป็นเจ้าของบ้าน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเป็นลูกสาวของ นาย ก๊กอาน ใช่หรือไม่นั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ถ้าจากการตรวจฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ พบว่าไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกัน
โดยจากการตรวจค้นที่ว่า พบภาพถ่ายที่ถ่ายคู่กับบุคคลสำคัญของไทย จีน และกัมพูชา เบื้องต้น ยังไม่พบ พบเพียงภาพถ่ายของคนในครอบครัวเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า นายก๊กอาน เคยมีการมาพักที่บ้านหลังดังกล่าวอีกด้วย
ขณะที่ ตรวจสอบแล้วพบว่า นางจูรี ถือบัตรประชาชนคนไทยด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่าที่มาของการถือบัตรประชาชนนั้นถูกต้องหรือไม่
ส่วนสถานที่อื่นๆ ก็อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร ขอเวลาในการตรวจสอบก่อน แต่ยืนยันว่า ทั้ง 19 จุด ที่มีการตรวจค้นในวันนี้มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการในครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมาย หรือ ธง ว่าจะต้องออกหมายจับ บุคคลดังกล่าวที่มีความใกล้ชิดกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านแต่เป็นปฏิบัติการที่เราทำมาอย่างต่อเนื่องนานแล้ว เราต้องการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนสนับสนุนส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่มาก่อเหตุอาชญากรรมในประเทศไทย และเป็นอาชญากรรมอันดับหนึ่ง ที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย
Advertisement